วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 22:39 น.

เศรษฐกิจ

ขสมก.เปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงB20แล้วช่วยลดค่าฝุ่นละอองPM2.5

วันพุธ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562, 16.16 น.

ขสมก.เปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงB20แล้วช่วยลดค่าฝุ่นละอองPM2.5

         

รายงานข่าวจาก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ขสมก.ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนการใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เนื่องจากผลผลิตปาล์มล้นตลาด ทำให้มีราคาตกต่ำ กระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม จึงร่วมกันนำร่องโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ในสัดส่วน 20%) ในภาคคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันดีเซล B20 โดย ขสมก.ได้ทดลองใช้น้ำมันดังกล่าวกับ รถโดยสารธรรมดายี่ห้อฮีโน่ มิตซูบิชิ และอีซูซุ จำนวน 17 คัน เมื่อช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2561 พบว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานได้ตามปกติ และมีอัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล B7 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขสมก.จึงขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้       
         

ระยะที่ 1 ใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่ และมิตซูบิชิ จำนวน 815 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ประกอบด้วย

เขตการเดินรถที่ 1 : อู่รังสิต จำนวน 56 คัน

เขตการเดินรถที่ 2 : อู่มีนบุรี และอู่สวนสยาม จำนวน 204 คัน

เขตการเดินรถที่ 3 : อู่เมกาบางนา อู่แพรกษาบ่อดิน และอู่ปู่เจ้าสมิงพราย จำนวน 176 คัน

เขตการเดินรถที่ 4 : อู่คลองเตย และอู่พระราม 9 จำนวน 256 คัน

เขตการเดินรถที่ 5 : อู่แสมดำ และอู่พระประแดง จำวน 123 คัน โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในระยะที่ 1 วันละ 57,050 ลิตร หรือเดือนละ 1,711,500 ลิตร
         

ระยะที่ 2 ใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อมิตซูบิชิ และอีซูซุ รถโดยสารปรับอากาศครีม - น้ำเงิน ยี่ห้ออีซูซุ และฮีโน่ รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ยี่ห้ออีซูซุ แดวู และเบนซ์ จำนวน 1,260 คัน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ประกอบด้วย

เขตการเดินรถที่ 1 : อู่บางเขน จำนวน 122 คัน

เขตการเดินรถที่ 4 : อู่คลองเตย และอู่พระราม 9 จำนวน 79 คัน

เขตการเดินรถที่ 6 : อู่พุทธมณฑล และอู่ไร่ขิง จำนวน 348 คัน

เขตการเดินรถที่ 7 : อู่ท่าอิฐ อู่บางบัวทอง และอู่นครอินทร์ จำนวน 371 คัน

เขตการเดินรถที่ 8 : อู่กำแพงเพชร และอู่สวนสยาม จำนวน 340 คัน

โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในระยะที่ 2 วันละ 127,050 ลิตร หรือเดือนละ 3,811,500 ลิตร
จากการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสาร ขสมก.ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา พบว่าน้ำมันดังกล่าว สามารถนำมาใช้งานร่วมกับรถโดยสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ส่งผลกระทบกับระบบเครื่องยนต์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันดีเซล ไส้กรองน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคันละประมาณ 25,000 บาท จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐานในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งฝุ่นละอองดังกล่าว มีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล และการก่อสร้างโครงการต่างๆ การที่ ขสมก.เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสาร จะช่วยลดมลพิษได้ 4% และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 15% 
       

นอกจากนี้ ขสมก.ได้กำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ดังนี้

1. ตรวจดูแลรถโดยสารก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน โดยห้ามมิให้รถควันดำออกวิ่งให้บริการโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะส่งเข้าซ่อมบำรุงโดยทันที

2. ขสมก.มีการตรวจวัดควันดำ และตรวจวัดความดังของเสียงเครื่องยนต์ อย่างต่อเนื่อง เดือนละ 2 ครั้ง

3. กำชับให้พนักงานขับรถโดยสาร ออกรถด้วยเกียร์ 1 ทุกครั้ง