วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 20:22 น.

เศรษฐกิจ

"อุตตม"เผยธนารักษ์ประชารัฐ เปิดให้เช่าที่ดิน หนุนสังคมฐานรากเข้าถึงที่ทำกินและที่อยู่อาศัย

วันอังคาร ที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 19.26 น.

"อุตตม"เผยธนารักษ์ประชารัฐ เปิดให้เช่าที่ดิน หนุนสังคมฐานรากเข้าถึงที่ทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่อการเกษตรไร่ละประมาณ 200 บาทต่อปีเท่านั้น


เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า ธนารักษ์ประชารัฐ เปิดให้เช่าที่ดิน หนุนสังคมฐานรากเข้าถึงที่ทำกินและที่อยู่อาศัย
    
การเข้าถึงโอกาสด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน รวมไปถึงการจัดพื้นที่ค้าขายให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก  ล่าสุดกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการนโยบายดังกล่าว ผ่านโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” และ โครงการ “ทำชุมชนให้เป็นที่ประชุมในที่ราชพัสดุ” 
    
สำหรับโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสด้านที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ผ่านการรับรองสิทธิในการใช้ประโยชน์ที่ดินรัฐ หรือ “ที่ราชพัสดุ” โดยเป็นการแก้ไขการบุกรุกครอบครองพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยและทำกินที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย หรือเปลี่ยนจาก “ผู้บุกรุก” เป็น “ผู้เช่า” ในราคาถูก

รายละเอียดการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร ค่าเช่าไร่เพียงละประมาณ 200 บาทต่อปี ส่วนที่ดินอยู่อาศัยกำหนดราคาแค่ ตร.ว.ละ 25 ส.ต.ต่อเดือน หรือ 100 ต.ร.ว. เสียค่าเช่า 300 บาทต่อปีเท่านั้น 

ทั้งนี้พี่น้องประชาชนจะได้อยู่อาศัยและมีที่ดินทำกิน ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม  โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาทางกฎหมายใดๆ เพราะการเช่าที่ราชพัสดุ คือการถือสิทธิที่มีกฎหมายรองรับ ที่สำคัญเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยในปีงบประมาณ 2563  นี้ ได้ตั้งเป้าจะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการได้ประมาณ 50,000 ราย 
    
ส่วนโครงการ “ทำชุมชนใหม่เป็นที่ประชุมในที่ราชพัสดุ” เป็นการจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้า เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยมีรูปแบบเป็นที่ประชุมอเนกประสงค์ ทำกิจกรรมต่างๆ ของภาครัฐ เอกชน และชุมชน และเป็นพื้นที่จัดตลาดชุมชน เพื่อช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องในพื้นที่ เชื่อมโยงไปกับการท่องเที่ยวชุมชน ดึงคนจากภายนอกเข้ามา และยึดโยงให้คนภายในชุมชนไม่ต้องไปทำงานนอกพื้นที่ รายได้จะหมุนเวียนจากภายในชุมชน ครอบครัวได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้า เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน 
       
โครงการดังกล่าว จะมีการนำร่องในที่ดินราชพัสดุของ ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เป็นพื้นที่แรก ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ชุมชนอื่นๆอีกประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2563 
    
พันธกิจของกรมธนารักษ์ต่อจากนี้ จะไม่ใช่แค่ การทำเหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก การดูแลที่ราชพัสดุ หรือการประเมินราคาทรัพย์สิน แต่จะต้องร่วมช่วยเหลือประชาชน เพื่อการลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ สร้างความเข้มแข็งจากชุมชน ด้วยวิถีชุมชน ตามนโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย” ของรัฐบาล อีกด้วย