วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:04 น.

เศรษฐกิจ

ทช.สร้างถ.หนุนทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ

วันจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 13.42 น.

ทช.สร้างถ.หนุนทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ

         

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบท ดำเนินโครงการก่อสร้างทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก , อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 สายทาง ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ เป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งที่ 39 โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างอาชีพและแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืนให้แก่ชาวไทยภูเขาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มูลนิธิโครงการหลวงจึงขอให้กระทรวงคมนาคมปรับปรุงเส้นทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ซึ่ง ทช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการปรับปรุงทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร็ว ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนเส้นทางเข้าโครงการหลวงและโครงการพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบัน ทช.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จำนวน 2 สายทาง ดังนี้
       

 - จุดเริ่มต้น กม.ที่ 0+000 บ้านป่าไร่ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (แม่สอด - แม่สะเรียง) กม.ที่ 36+900 สิ้นสุดโครงการ กม.ที่ 44+584 ที่บ้านเลอตอ หมู่ที่ 13 ตำบลแม่ตื่น อำเภอ
แม่ระมาด จังหวัดตาก ระยะทาง 44.584 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 18 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2563 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 246.664 ล้านบาท
       

 - จุดเริ่มต้น กม.ที่ 44+602 ที่บ้านเลอตอ หมู่ที่ 13 บ้านแม่ตื่นน้อย ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ สิ้นสุดโครงการ กม.ที่ 74+032 ที่บ้านใหม่ ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 29.430 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง และเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรในการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม 2565 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 244.490 ล้านบาท
โดยมีรูปแบบการปรับปรุงเส้นทางตามมาตรฐานถนนหลวงภูเขา ผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 4 เมตร ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ โดยหลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้ใหญ่ข้างทางเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด