วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 10:39 น.

เศรษฐกิจ

ก.เกษตรฯจับมือ มช. หารือทีมนักวิจัยเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าว

วันเสาร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 14.16 น.

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2563 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ รับฟังบรรยายผลงานวิจัยโดยใช้เทคโนโลยีไอออนพลังต่ำสำหรับปรับปรุงพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้ข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพดีและผลผลิตสูง ของทีมนักวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ณ อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โอกาสนี้ได้เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการลำไอออนพลังงานต่ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ได้ข้าวคุณภาพดี และเพื่อพัฒนาข้าวอีกหลายสายพันธุ์ใหม่ที่น่าสนใจ

นายประภัตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งศึกษาวิจัยพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ และผลผลิตสูง เพื่อให้เกษตรกรได้มีเมล็ดพันธุ์ดีได้ใช้ปลูก ตลอดจนทวงแชมป์ผู้ส่งออกข้าวและการประกวดข้าวหอมโลกให้ได้ ดังนั้นจึงเร่งให้มีการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์และการผลิตข้าว โดยวันนี้ได้หารือแนวทางแก้ไขปัญหา และบูรณาการทำงานร่วมกันในการวิจัยระหว่างกรมการข้าว และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่มีอยู่มาร่วมกันศึกษา พัฒนาพันธุ์ข้าวให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกษตรกรชาวนาได้มีรายได้มั่นคง ยั่งยืน ต่อไป

“การร่วมมือกันในวันนี้ ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาไทยที่กำลังได้รับความเดือดร้อน และขอชื่นชมทีมนักวิจัยที่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูงกว่า ตรงตามความต้องการของตลาด ดังนั้น จึงต้องผลักดันความร่วมมือโดยนำเอางานวิจัยที่สำเร็จแล้วไปสู่ชาวนา และตั้งคณะทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาและเร่งผลิตพันธุ์ข้าวดีช่วยเหลือชาวนากว่า 5 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 60 ล้านไร่ทั่วประเทศ และเร่งวิจัยพันธุ์ให้มีคุณสมบัติครบถ้วนคว้าแชมป์ข้าวโลก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย” นายประภัตร กล่าว 

สำหรับ ข้าวสายพันธุ์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรมข้าวไทย 4.0 เป็นเทคโนโลยีชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ในข้าวด้วยลำไอออนพลังงานต่ำ โดยทีมนักวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.บุญรักษ์ พันธ์ไชยศรี ดร.จิรณัทฐ์ เตชะรัง และศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ถิรพัฒน์ วิลัยทอง ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่พัฒนานวัตกรรมเครื่องเร่งอนุภาค ข้าวลำไอออน 3 สายพันธุ์ใหม่แบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศ และเป็นเทคโนโลยีใหม่ของโลกที่ใช้เวลาในการคิดค้นและพัฒนากว่า 10 ปี

เทคโนโลยีดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้ข้าวสายพันธุ์ใหม่ 3 สายพันธุ์ คือ 1) ข้าวหอมเพื่อการบริโภค (มช 10-1 หรือ FRK-1)มีความหอมมากกว่าข้าวขาวดอกมะลิ 105 2) ข้าวเพื่ออุตสาหกรรมแป้ง (ศฟ 10-5 หรือ MSY-4): เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมแป้งและการแปรรูปเป็นเส้นขนมจีน และ 3) ข้าวเพื่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ (ศฟ 10-7 หรือ OSSY-23): เหมาะที่จะนำไปเป็นอาหารสัตว์ เช่นหมูและไก่ หรือทำเป็นข้าวพาร์บอยล์ (parboiled rice) ซึ่งข้าว 3 สายพันธุ์ดังกล่าว สามารถตอบโจทย์ของชาวนาไทยในยุค 4.0 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการแก้ปัญหาผลผลิตข้าวตกต่ำ

รมว.เกษตรฯ ส่งมอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวสู้ภัยCOVID – 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่าได้มีการ ส่งมอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวภายใต้โครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย COVID – 19 แก่เกษตรกร ณ ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด, บริษัท เจียไต๋ จำกัด และกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ร่วมให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ใช้ปลูกบริโภคในครัวเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเปิดให้ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 24 กันยายน - 13 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมทั่วประเทศกว่า 300,000 ราย

อย่างไรก็ตามในวันนี้ได้ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพดี ให้แก่เกษตรกร จำนวน 5 ราย ได้แก่ ผักคะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง แตงกวา พริกขี้หนู กระเพรา เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ตามโครงการดังกล่าวผ่านสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ และส่งมอบแก่เกษตรกรโดยตรงซึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการกว่า 7,637 ราย

รมช.ธรรมนัส เดินหน้าสายมอบส.ป.ก.4-01 แก่เกษตรกรสุรินทร์
   
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็น ประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่พี่น้องเกษตรกร ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการปฏิรูปที่ดิน มุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมด้วยการจัดการทรัพยากรที่ดิน เพื่อกระจายการถือครอง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกิน เพื่อช่วยในการพัฒนาอาชีพ ปรับปรุงทรัพยากร ปัจจัยการผลิต ขั้นตอนการผลิตและจำหน่ายให้เกิดผลดีแก่เกษตรกรต่อไป

ในวันนี้ได้มามอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะมอบในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ จำนวน  300  ราย เนื้อที่ประมาณ 638 ไร่ เมื่อเกษตรกรได้รับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว จะทำให้เกษตรกรได้รับโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ได้มีที่ทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ พร้อมปัจจัยการผลิต” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ มี 17 อำเภอ ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 16 อำเภอ เนื้อที่ประมาณ 1,736,432 ไร่ มีเกษตรกรได้รับการคัดเลือกเข้าทำประโยชน์และรับมอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 แล้ว 121,555 ราย 161,749 แปลง 1,117,824 ไร่  และมีพื้นที่ดำเนินการคงเหลือ จำนวน 185,014 ไร่