เศรษฐกิจ
กฟผ. โชว์แนวทางอนุรักษ์-ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
วันพฤหัสบดี ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 11.50 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
กฟผ. โชว์แนวทางอนุรักษ์-ฟื้นฟูสิ่ งแวดล้อม
กฟผ. โชว์แนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟู สิ่งแวดล้อม ปลูกป่า ฟื้นฟูเหมือง พัฒนาพลังงานสะอาด และอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อสร้างความหลากหลายทางชี วภาพอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงด้ านพลังงาน
สำนักงานนโยบายและแผนทรั พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ งประเทศไทย (กฟผ.) และภาคีเครือข่าย จัดงานวันสากลแห่ งความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2565 โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนั กงานนโยบายและแผนทรั พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ณ ห้องประชุม Auditorium อาคารทิปโก้ 1 กรุงเทพฯ
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้ าและพลังงานหมุนเวียน กฟผ. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุ มมองในการเสวนา หัวข้อ การสร้างความเป็นพันธมิตร การฟื้นฟูสีเขียว เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อเราทุกคน โดยเปิดเผยว่า กฟผ. ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้า ได้ดำเนินงานตามภารกิจหลักเพื่ อดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าทั่ วประเทศ ควบคู่ไปกับการตระหนั กในความสำคัญของสิ่งแวดล้ อมและความหลากหลายทางชีวภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการก่อสร้ างโรงไฟฟ้า ที่ต้องมีการประเมินผลกระทบในด้ านต่างๆ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเพื่ อลดผลกระทบ รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้ อมและความหลากหลายทางชีวภาพให้ กลับคืนสู่สภาพเดิม เช่น การใช้เชื้อเพลิงจากเหมืองลิ กไนต์แม่เมาะของ กฟผ. มีการจัดทำแผนฟื้นฟูเหมือง เพื่อคืนสภาพป่าดั้งเดิม ตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินงานในปั จจุบัน จนถึงหลังหมดอายุการใช้งาน โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริ ดเขื่อนสิรินธร ที่สร้างบนพื้นที่ผิวน้ำของอ่ างเก็บน้ำของเขื่อน ซึ่งจะสามารถลดการใช้ทรัพยากรที่ ดิน โดย กฟผ. ออกแบบการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ให้แสงอาทิตย์สามารถลอดผ่ านลงไปใต้น้ำได้ โครงการฯ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิ เวศใต้น้ำ กฟผ. ยังได้เข้าร่วม โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอั นเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.-กฟผ.) ใน 17 พื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้าทั่ วประเทศ โดยดำเนินหลากหลายกิจกรรมเพื่ อปกป้องและอนุรักษ์พันธุ์พืชพื้ นถิ่นบริเวณเขื่อนและโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ เขื่อนบางแห่งยังมีศูนย์เพาะพั นธุ์ปลา เพื่อเป็นแหล่งเพิ่มพันธุ์สัตว์ น้ำในแหล่งน้ำ เป็นการดำรงไว้ซึ่ งความหลากหลายทางชีวภาพ และเกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่ อชุมชนโดยรอบต่อไป นอกจากนี้ เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต กฟผ. มีแผนดำเนินโครงการปลูกป่าล้ านไร่ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้กลับคื นสู่สภาพเดิม เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยให้แก่สิ่ งมีชีวิต และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ ชุมชนต่อไป ทั้งนี้ การปลูกป่ายังช่วยดูดซับก๊ าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ได้กว่า 1.2 ล้านตันต่อปีอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงาน กฟผ. ได้ร่วมจัดนิทรรศการในหัวข้อ “นกแก้วโม่ง ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งจั งหวัดนนทบุรี” เพื่อเผยแพร่ความก้าวหน้ าในการอนุรักษ์นกแก้วโม่งในจั งหวัดนนทบุรี ร่วมกับชุมชนอำเภอบางกรวย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุ รักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ กฟผ. ได้ให้การสนับสนุนแก่ชุมชนที่ อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่ สำนักงานใหญ่ และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ
กฟผ.ขอชวนทุกภาคส่วน และคนไทยช่วยกันคนละไม้ละมือดู แลและใส่ใจในการดำเนินการที่เป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสั งคมไทยและโลกในอนาคตต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่