กทพ.เล็งขายซองประมูลทางด่วนฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี มิ.ย.66

 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่3 (MR 10) ภายหลังที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติโครงการ โดยมีระยะทาง 19กิโลเมตร ประเมินมูลค่าโครงการประมาณ 33,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 26,100 ล้านบาท ค่าเวนคืนประมาณ 7,300 ล้านบาท

 ทั้งนี้ สำหรับแผนโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการจัดทำรายงาน EIA ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาก่อสร้าง (ทีโออาร์) โครงการได้ พ.ค.2566 และเปิดขายซองประมูลโครงการได้ประมาณมิ.ย.2566 ด้านจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้น คาดว่า จะเริ่มในปี 2567 ใช้ระยะเวลา 2 ปี แล้วเสร็จในปี 2568 อย่างไรก็ตามจะเริ่มก่อสร้างโครงการฯ ในปี 2567 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570

สำหรับโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR10) มีจุดเริ่มต้นบริเวณทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านจตุโชติ ยกระดับข้ามถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) ไปทางทิศตะวันออก ถนนหทัยราษฎร์ ถนนนิมิตใหม่ จากนั้นจะลดระดับลงสู่พื้นที่บริการทางพิเศษ (Rest Area) ในระดับดินที่ กม. 11+040 ของโครงการฯ

จากนั้นจะเริ่มยกระดับอีกครั้งผ่านถนนคลองเก้า และเลี้ยวไปทางทิศเหนือเชื่อมต่อถนนลำลูกกาบริเวณใกล้คลองหกวาสายล่าง ปทุมธานี และสิ้นสุดโครงการฯ โดยเชื่อมต่อ MR10 ที่บริเวณแขวงคลองสิบ เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร และโครงการฯ สามารถเชื่อมต่อโครงการ MR6 กาญจนบุรี (ด่านพุน้ำร้อน) – สระแก้ว (ด่านอรัญประเทศ) ของกรมทางหลวง (ทล.) ได้โดยเป็นแผนในอนาคต

     นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าโครงการทางพิเศษส่ยกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร โดยมีมูลค่าทุนโครงการ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ 5,792 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 8,878 ล้านบาท รวมค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน โดยมีกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอเพื่อร่วมการคัดเลือกเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการ ในวันที่ 7 เม.ย.2566 ทั้งนี้ ยังมีโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่ -เกาะแก้ว -กระทู้ ระยะทาง 30 กิโลเมตรมูลค่าลงทุนโครงการ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ 14,500 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 21,300 ล้านบาท รวมค่าลงทุน 35,800 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการมีผลดำเนินงาน 70.96 % โดยคาดว่าจะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 ในเดือน พ.ค.2566 และคาดว่าจะสามารถนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ปลายปี 2566