วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:00 น.

เศรษฐกิจ

“บางกอกแอร์เวย์ส” โชว์ยอดจองตั๋วล่วงหน้าโตต่อเนื่อง ยันเดินหน้าเมืองการบิน

วันจันทร์ ที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 17.23 น.

“บางกอกแอร์เวย์ส” โชว์ยอดจองตั๋วล่วงหน้าโตต่อเนื่อง ยันเดินหน้าเมืองการบิน

 

       

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมการบินทุกภูมิภาคทั่วโลกในปี 2567 นี้ ยังคงมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยจากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พบว่าการเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 19.7%  และการเดินทางระหว่างประเทศจากยุโรปสู่ทวีปเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด 23.1% ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินเติบโตในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า โดยการเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ คาดว่าจะเติบโตที่ 17.2% ในปี 2568 จากทิศทางการเดินทางดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยคาดว่ามีการเติบโตสอดคล้องเป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมการบินในระดับภูมิภาค

      

“ในส่วนของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส คาดว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 4.5 ล้านคน 4.8 หมื่นเที่ยวบิน อัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) 85% รายได้ประมาณ 1.78 หมื่นล้านบาท โดยในปี 68 คาดว่ารายได้และผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 10-12%”นายพุฒิพงศ์ กล่าว

       

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้มียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเข้ามาแล้วประมาณ 10% โดยในช่วงเดือน พ.ย. 67-มิ.ย. 68 มียอดจองตั๋วล่วงหน้าโตขึ้น 12% ซึ่งเส้นทางสมุย เติบโตสูงสุด 25% เพื่อรองรับการเดินทางช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) บริษัทฯ ได้จัดหาเครื่องบินแอร์บัส เพิ่มอีก 2 ลำ เป็นแบบเช่าระยะสั้น มาให้บริการผู้โดยสารในช่วงเดือน ธ.ค. 67-เม.ย. 68 และในไตรมาส 4 ปี 68 (ต.ค.-ธ.ค. 68) จะกลับมาเปิดเส้นทางบิน สมุย-กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารจากยุโรปเดินทางเข้ามายังเกาะสมุย ส่วนแผนในปี 68 จะจัดหาเครื่องบินเข้ามาประจำฝูงบินเพิ่มอีก 2 ลำ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีเครื่องบินประมาณ 23 ลำ

      

นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออกว่า อยู่ระหว่างการจัดทำแผนสองสำรองไว้กรณีที่ไม่มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เพื่อไปเจรจาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขรายละเอียด กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และEECยังไม่สามารถส่งมอบหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) ได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องการให้จบภายในไตรมาส 1 ปี 68 ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดรถไฟความเร็วสูงฯ บริษัทฯ จะเดินหน้าโครงการต่อไป จะเริ่มก่อสร้างไม่ให้เกินกลางปี 68