วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 16:59 น.

เศรษฐกิจ

ปตท.ทบทวนเป้า Net Zero ใหม่

วันศุกร์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2568, 06.05 น.

ปตท.ทบทวนเป้า Net Zero ใหม่


 

ปตท.ทบทวนเป้า Net Zero กลุ่ม ปตท.ใหม่ ระบุคาดสรุปชัดเจนเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่ส่งปตท.สผ.นำร่องลงทุนโครงการไฮโดรเจนในต่างประเทศ 


 

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ตั้งงบลงทุน 5 ปี (ปี 2568-2572) ประมาณ 55,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2568 กำหนดงบลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนขยายธุรกิจก๊าซฯ เป็นหลัก เน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงแยกก๊าซฯ ท่อส่งก๊าซฯ และคลังรับ-จ่ายก๊าซฯ เป็นต้น และอีกส่วนจะเป็นการลงทุนในธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ (เทรดดิ้ง) ซึ่งจะมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่ ปตท.มีความเชี่ยวชาญควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

 

ทั้งนี้กำหนดแผนดำเนินธุรกิจแบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะสั้น มีโครงการ D1 (Domestic Products Mgmt) ที่ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ประมาณ 3,300 ล้านบาทต่อปี ภายใน 3 ปี จากการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันในกลุ่มธุรกิจ (Synergy) ระหว่าง (TOP,GC,IRPC) ภายใต้โครงการ P1 รวมถึงกำหนดแผน MissionX- Operational Excellence ตั้งเป้าหมายมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ภายในปี 2570 การเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ โดยจะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปีภายใน 2 ปี
 

ระยะกลาง เน้นการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น (P&R) ซึ่งจะหาพันธมิตรที่มีความเข้มแข็งด้านวัตถุดิบและตลาดเข้ามาร่วมธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้น โดยที่ ปตท.จะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจนี้ ล่าสุดมีพันธมิตรในต่างประเทศที่สนใจร่วมลงทุนหลายราย คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้
 

นอกจากนี้ ปตท.ยังตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางก๊าซธรรมชาติของภูมิภาค (LNG Hub) เนื่องจากมีความพร้อมและความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานในธุรกิจนี้ ที่จะขยายตลาดออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ประมาณ 10-11 ล้านตัน จากปี 2567 ที่นำเข้า 9.6 ล้านตัน


ส่วนระยะยาว เน้นลงทุนระบบการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) และไฮโดรเจน เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก