เศรษฐกิจ
"ธนารักษ์" เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing ยกระดับบริหารที่ราชพัสดุ พร้อม MOU สธ. ยกระดับบริการสุขภาพประชาชน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing เพื่อยกระดับบริหารที่ราชพัสดุ รองรับโครงการด้านสังคม และลงนาม MOU เพื่อเพิ่มบริการสาธารณสุขให้แก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Landlord Sharing โดยมอบอำนาจให้ส่วนราชการดำเนินการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสังคมและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ พร้อมกันนี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงเรื่องการมอบอำนาจให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดหาประโยชน์ในพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครองโดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมลงนาม นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงพลังความร่วมมือเพื่อวางรากฐานการพัฒนาระบบสาธารณสุขในระยะยาว
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “VALUE” จากสินทรัพย์ที่ถูกมองข้ามสู่พลังขับเคลื่อนประเทศ
นายเอกนิติ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีที่ราชพัสดุรวมกว่า 12.6 ล้านไร่ แต่กว่า 10 ล้านไร่ อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการ โดยบางพื้นที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ ส่งผลให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการพัฒนา เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าวกรมธนารักษ์จึงพลิกบทบาทจาก “ผู้ดูแล” สู่ “ผู้ขับเคลื่อน” ผ่านโครงการ Landlord Sharing ซึ่งเป็นการนำที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาภายใต้โครงการเชิงสังคม เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินลดภาระงบประมาณแผ่นดิน ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน
โดยกรมธนารักษ์ได้จัดทำหลักเกณฑ์มอบอำนาจให้หน่วยงานที่ครอบครองที่ราชพัสดุสามารถดำเนินการใช้ประโยชน์ได้โดยตรงภายใต้กรอบการกำกับที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดขั้นตอนทางราชการหัวใจสำคัญของโครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ VALUE ที่มุ่ง สร้างคุณค่า (Value Creation) และ แบ่งปันคุณค่า (Value Sharing) ผ่านการใช้ทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์รอบด้าน ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ,การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน, การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนบริการสาธารณะที่จำเป็น
ปลดล็อกศักยภาพที่ราชพัสดุเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในการขับเคลื่อนโครงการ Landlord Sharing กรมธนารักษ์ได้จัดทำหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่ชัดเจนเพื่อเป็นกรอบการทำงานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพโดยมุ่งเน้นสนับสนุนโครงการเชิงสังคมที่อยู่ภายใต้ภารกิจตามกฎหมายของหน่วยงานรวมถึงโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือชุมชนโดยรอบ มีเงื่อนไขสำคัญดังนี้ 1. เป็นโครงการเชิงสังคมด้านสาธารณสุข ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. โครงการต้องเป็นไปตามภารกิจและกฎหมายของส่วนราชการนั้นๆ 3. ไม่เป็นโครงการภายใต้กฎหมาย PPP และการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจ 4. เปิดประมูลให้เอกชนพัฒนาโครงการและจัดสรรพื้นที่ตามโครงการให้ส่วนราชการใช้ในราชการ 5. ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีตามกฎหมายที่ราชพัสดุและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 6. นำส่งรายได้จากการให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน 7. มีมาตรการกำกับและควบคุมราคาค่าบริการที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน 8. รายงานผลการดำเนินการให้กรมธนารักษ์ทราบทุกไตรมาส
นายเอกนิติ ย้ำว่า การมอบอำนาจนี้ไม่ใช่การโอนกรรมสิทธิ์ โดยที่ราชพัสดุยังคงเป็นของรัฐระยะเวลาการใช้ประโยชน์ไม่เกิน 30 ปี และเพื่อความโปร่งใสหน่วยงานที่รับมอบอำนาจต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อกรมธนารักษ์ทุกไตรมาส หากฝ่าฝืนข้อตกลง กรมฯมีสิทธิเพิกถอนอำนาจได้ทันที
จับมือกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับบริการสุขภาพประชาชน
หนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญคือการผนึกกำลังกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยกระดับบริการแก่ประชาชนโดยเริ่มจากการดำเนิน โครงการนำร่อง (Sandbox) ในการก่อสร้างอาคารสำหรับศูนย์บริการทางการแพทย์,หอผู้ป่วยพิเศษ และอาคารจอดรถ เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงโครงการนำร่องมีทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่ 1. โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ 2. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ศูนย์ Wellness (ศูนย์สุขภาพและฟื้นฟู) สถานพักฟื้นและรอรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ 3. โรงพยาบาลสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบด้วย ศูนย์บริการมะเร็ง หัวใจ และเวชศาสตร์วิถีชีวิตพื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ 4. โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์และอาคารจอดรถ 5. โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ (โรงพยาบาลบางละมุง) จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ ที่พักระหว่างการรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ 6. โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อาคารบริการและสนับสนุนทางการแพทย์เพื่อสานต่อความสำเร็จดังกล่าว
โอกาสนี้กรมธนารักษ์จึงได้ร่วมลงนามในบันทึกความตกลงเรื่องการมอบอำนาจให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครอง ซึ่งการลงนามบันทึกความตกลงในครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกรมธนารักษ์ในการใช้ที่ราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภารกิจด้านสังคมและการให้บริการประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
นายเอกนิติ กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้จะช่วยให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุเพื่อรองรับโครงการด้านการแพทย์ได้คล่องตัวขึ้น ลดภาระงบประมาณ และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของประชาชนได้อย่างทั่วถึงถือเป็นต้นแบบความร่วมมือที่สามารถขยายผลไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ในอนาคต”
พัฒนาอย่างยั่งยืน บนฐานความคุ้มค่าทางสังคม
นายเอกนิติ ย้ำในตอนท้ายว่า โครงการ Landlord Sharing เป็นหนึ่งในโครงการเรือธง (Flagships) ของกรมธนารักษ์ตามยุทธศาสตร์ VALUE ที่มุ่งเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่