วันพฤหัสบดี ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:16 น.

เศรษฐกิจ

BPP รุกตลาด Power Trading สหรัฐฯ  โชว์ผลกำไรครึ่งปีแรก 1,846 ล้านบาท 

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 16.29 น.
BPP รุกตลาด Power Trading สหรัฐฯ 
โชว์ผลกำไรครึ่งปีแรก 1,846 ล้านบาท 
 
                                                                                                                   
 
BPP ปักหมุดสหรัฐฯ ลุย Power Trading บริษัทไทยรายแรก พร้อมธุรกิจ Power Retail เสริมการเติบโตควบคู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า
โชว์ครึ่งแรกปี 68 ฟอร์มแข็งแกร่ง กำไร 1,846 ล้านบาท หนุนจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ จีน และรายได้จากขายสิทธิการปล่อยคาร์บอน (CEAs)
ประกาศ 3 พันธกิจใหม่ ตอกย้ำบทบาทผู้บุกเบิกด้านผลิตพลังงานที่มั่นคง ยืดหยุ่น และยั่งยืน
 
 
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานระดับสากล เดินหน้าต่อยอดพอร์ตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นบริษัทไทยรายแรกที่เข้าสู่ธุรกิจซื้อขายพลังงานไฟฟ้า (Power Trading) ในตลาดไฟฟ้าเสรี ERCOT สหรัฐฯ การเติบโตเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ – การผลิตไฟฟ้า, กลางน้ำ – การซื้อขายไฟฟ้า, ไปจนถึงปลายน้ำ - ธุรกิจค้าปลีกไฟฟ้า (Power Retail) เพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้อย่างยั่งยืน แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืน “บุกเบิกนวัตกรรมพลังงาน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน (Pioneer Energy, Empowering Tomorrow)” และพันธกิจใหม่ในการยกระดับขีดความสามารถ พร้อมเปิดรับโอกาสที่รองรับทิศทางพลังงานโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ BPP รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ จีน และรายได้จากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon Emission Allowances: CEAs)
 
 
 
นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า “ในยุคที่ความมั่นคงด้านพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญของเสถียรภาพเศรษฐกิจและความมั่นคงของทุกประเทศทั่วโลก BPP มุ่งเป็นผู้นำและพัฒนาพลังงานที่ไม่หยุดแค่การผลิตไฟฟ้า แต่ยังต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยธุรกิจ Power Trading ในตลาดสหรัฐฯ ผ่านบริษัทลูก BPPUS โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ข้อมูล และทีมงานมืออาชีพ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจซื้อขายสิทธิรายได้จากความแออัดของระบบสายส่งไฟฟ้า หรือ Congestion Revenue Rights (CRR) รวมรายได้ตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ CRR ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา จนถึงครึ่งปีแรก 2568 กว่า 133 ล้านบาท และเตรียมขยายสู่ตลาด Intercontinental Exchange (ICE) เพื่อทำกำไรจากตลาดซื้อขายไฟล่วงหน้าจากการคาดการณ์ราคาพลังงาน (Proprietary Trade) ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนควบคู่กับธุรกิจผลิตไฟฟ้าอันเป็นธุรกิจหลักของบริษัทที่ยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เรายังดำเนินธุรกิจค้าปลีกไฟฟ้าในสหรัฐฯ ผ่าน BKV Energy บริษัทย่อยภายใต้ความร่วมมือระหว่าง BPPUS และ BKV Corporation ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัล “Best Electricity Company” จากเวที Best of the Best 2025 ของ Houston Chronicle ผ่านการโหวตของผู้บริโภคในรัฐเท็กซัส สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและการส่งมอบไฟฟ้าที่ต่อเนื่องในราคาที่เหมาะสม”
 
 
สำหรับไฮไลท์ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2568 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ BPP มีกำไรสุทธิ 1,846  ล้านบาท เพิ่มขึ้น11 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวม 4,486 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ Temple I และ II ปรับตัวดีขึ้น และมีกำไรจากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน (Change in Fair Value of Financial Instrument) อันเป็นผลจากการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงในราคาที่ดี โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (CHPs) ในจีนที่บริหารต้นทุนถ่านหินได้มีประสิทธิภาพ และรายได้จากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น
 
ธุรกิจพลังงานความร้อน (Thermal Energy): โรงไฟฟ้าเจิ้งติ้งในจีน เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้ชีวมวลร่วมกับเชื้อเพลิงหลักในสัดส่วน10 %ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ราว 70,000 ตันต่อปี ส่วนโรงไฟฟ้าโจวผิงได้เริ่มก่อสร้างระบบท่อส่งไอน้ำฝั่งเหนือในเดือนกรกฎาคมและกำลังศึกษาการขยายท่อเพิ่มเติมไปยังฝั่งตะวันตกและตะวันออกเพื่อส่งมอบไอน้ำที่มีความเสถียรและคุ้มค่าให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้มากขึ้น ขณะที่โรงไฟฟ้า HPC ในสปป. ลาว และ BLCP ในไทย ยังคงรักษาค่าความพร้อมจ่ายไฟ (EAF) ในระดับสูงที่ 89% และ 90% ตามลำดับ
 
 
ธุรกิจ Renewables+: โครงการอิวาเตะ โตโนะ (Iwate Tono) แบตเตอรี่ฟาร์มในญี่ปุ่น กำลังไฟฟ้า 14.5 เมกะวัตต์ ความจุพลังงาน 58 เมกะวัตต์ชั่วโมง ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย BPP ยังเดินหน้าขยายธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ที่ญี่ปุ่น ผ่าน Banpu NEXT ซึ่ง BPP ถือหุ้นร้อยละ 50 โดยตั้งเป้าสู่การเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจ BESS ของญี่ปุ่น พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุน BESS สู่ตลาดสหรัฐฯ ในอนาคต
 
 
ทั้งนี้ BPP ยังได้ประกาศพันธกิจใหม่ 3 ด้าน เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสอดรับกับพลวัตของอุตสาหกรรมพลังงานโลก ได้แก่:
1. ผลักดันการเติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ความเชี่ยวชาญระดับสากล และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในโครงการระดับโลก
 
2. ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดการปล่อย CO2 และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานเพื่ออนาคต
 
3.ยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการพัฒนาชุมชน ทั้งในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ฯลฯ เพื่อสร้าง
การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
 
“ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา BPP ดำเนินธุรกิจใน 8 ประเทศยุทธศาสตร์ในฐานะผู้นำและผู้บุกเบิกด้านพลังงาน สะท้อนศักยภาพในการสร้างสมดุลด้านพลังงาน ผ่านการกระจายพอร์ตธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์เดิม และการลดการปล่อย CO2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบพลังงานคุณภาพสูงควบคู่กับผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม” นายอิศรา  กล่าว