วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 11:59 น.

การศึกษา

มหาสังฆปีติวัดสามพระยา เจริญชัยมงคลคาถาในโบสถ์ รับอดีตพระพรหมดิลกศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง

วันพุธ ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563, 15.13 น.

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563  เวลาประมาณ 10 30 น. ตามที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อท.196/2561 คดีฟอกเงินทุจริตจัดสรรงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ของวัดสามพระยา ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา, กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กับอดีตพระอรรถกิจโสภณ (สมทรง อรรถกฤษณ์) และเลขาฯเจ้าคณะกรุงเทพ เป็นจำเลยที่ 1-2          

ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตจัดสรรเงินงบประมาณ พศ. ปี 2557 ให้กับวัดสามพระยา จำนวน 5 ล้านบาท ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งที่ไม่มีโรงเรียน โดยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา นำงบที่ได้มานั้นไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน ทั้งที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินนั้นมาตั้งแต่แรก ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561
          
ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2562 ว่า กระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดต่างกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายมาตรา 90 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันฟอกเงิน 2 กระทงๆ ละ 2 ปี ให้จำคุกนายเอื้อน หรืออดีตพระพรหมดิลก รวมจำคุก 6 ปี และนายสมทรง หรืออดีตพระอรรถกิจโสภณ จำเลยที่ 2 จำคุก 2 กระทงๆ ละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี
          
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีประเด็นพิจารณาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า เรื่องการขออนุมัติงบศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น หาใช่เฉพาะวัดที่มีโรงเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แต่วัดสามพระยามีโรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ย่อมมีสิทธิ์ในการใช้งบดังกล่าว จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวกับสำนักงาน พศ. ไม่มีหลักฐานว่าจำเลยทราบว่าเงินเกี่ยวกับการกระทำความผิด ในหนังสือระบุได้รับเงินเกี่ยวกับการบูรณะปฏิสังขรณ์ แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจว่าเป็นงบบูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อได้รับงบ 5 ล้านบาทตามเช็คแล้ว จำเลยได้มอบอำนาจให้มีการถอนเงินจ่ายค่าก่อสร้างอาคารร่มธรรม วัดมีการก่อสร้างอาคารและโอนเงินชำระหนี้จริง โดยจำเลยจ่ายเงินให้ผู้ดูแลการก่อสร้าง เชื่อได้ว่าจำเลยในฐานะผู้ดูแลวัดได้นำเงินไปทำนุบำรุงวัด แม้วัดสามพระยาไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม และไม่ได้นำเงินไปใช้โดยตรง ก็ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนทรัพย์สินที่เป็นการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ พิพากษาแก้เป็นยกฟ้องนั้น

ต่อมาเพจวัดสามพระยา วรวิหาร (WAT SAM PHRA YA) ได้โพสต์ข้อความว่า 
 
"วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๓ 
วันมหาสังฆปีติของพระภิกษุสามเณรวัดสามพระยา
คณะสงฆ์วัดสามพระยาและศิษยานุศิษย์ทั้งพระภิกษุ-สามเณร
ได้ร่วมกันลงพระอุโบสถเจริญชัยมงคลคาถา
ต้อนรับหลวงพ่อเอื้อน หาสธัมมมหาเถระ
และหลวงพ่อเจี้ยบ พระเถระผู้เมตตา
ในวาระอันเป็นมงคลแก่เหล่าศิษยานุศิษย์
และพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
สัพเพ เต อะวะมังคะลา = ขอสรรพอวมงคลทั้งหลายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเอื้อนและหลวงพ่อเจี๊ยบ
วินัสสันตุ = จงพินาศไป
อายุวัฑฒะโก = ขอความเจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก = ขอความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก = ขอความเจริญศิริ
ยะสะวัฑฒะโก = ขอความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก = ขอความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก = ขอความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก = ขอความเจริญสุข
โหตุ สัพพะทา ฯ = จงมีแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเอื้อนและหลวงพ่อเจี๊ยบ ในกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ"

โดยทนายความและไวยาวัจกรได้นำคำพิพากษากรณีอดีตพระพรหมดิลกมาอ่านต่อหน้าคณะสงฆ์วัดสามพระยาและพระเถรานุเถระอีกหลายวัด ซึ่งคณะสงฆ์ต่างร่วมอนุโมทนาสาธุการและเจริญชัยมงคลกถา ในการยกฟ้องคดีดังกล่าว
          
 

หน้าแรก » การศึกษา

ข่าวในหมวดการศึกษา