เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564  พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี มูลนิธิสามัคคีสงเคราะห์จังหวัดลพบุรี ร่วมนำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภคถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ในวัดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 3 วัดอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ได้แก่ วัดคุ้งท่าเลา ตำบลบางพึ่ง อำเภอบ้านหมี่ วัดห้วยแก้ว ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่  วัดเขาวงกฎ  ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ ซึ่งเป็นวัดในไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 2 มาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ และได้ถูกดำเนินการปิดวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

นายนิวัฒน์ กล่าวว่า คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี มูลนิธิสามัคคีสงเคราะห์จังหวัดลพบุรี และทางจังหวัดลพบุรี ได้นำข้าวสารอาหารแห้งเครื่องอุปโภคบริโภคถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ในวัดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการถูกดำเนินการปิดวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และอีกหลายๆวัดในลพบุรีเนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด ที่ทำให้หลายวัดไม่ได้ออกไปบิณฑบาต ญาติโยมไม่ได้ออกมาใส่บาตร อาหารแห้งก็มีไม่เพียงพอ ก็จะทยอยถวายให้แก่วัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ
 
ทั้งนี้ได้มีประกาศคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ที่ 1/2564 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุม การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19(ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 4 มกราคม 2564 โดยพระครูสุตคุณากร เจ้าคณะอำเภอบ้านหมี่
 
ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย กำหนดให้จังหวัดลพบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด กอปรกับสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีได้แจ้งยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในจังหวัดลพบุรี และผู้ป่วยดังกล่าวได้เดินทางไปตามวัดต่างๆหลายวัดในเขตอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
 
ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอนุโลมตามคำสั่งจังหวัดลพบุรี และประกาศคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี จึงขอกำหนดระเบียบการปฏิบัติทั่วไปของวัด การปฏิบัติตนของพระภิกษุ สามเณรและศิษย์วัด การติดตามและการรายงานสถานการณ์ตั้งแต่ วันที่ 4 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ดังนี้
 
การปฏิบัติทั่วไปของวัด กำหนดให้เปิดปิดตั้งแต่เวลา 5.30น.-18.00 น. งดการทำบุญในวันธรรมสวนะ,งดการจัดกิจกรรมซึ่งมีลักษณะชุมนุมกันเกิน 5 รูป/คนขึ้นไป ,งดรับงานบรรพชาอุปสมบท หากมีเจ้าภาพติดต่อจัดงานบรรพชาอุปสมบทไว้แล้ว ให้ติดต่อทำความเข้าใจกับเจ้าภาพให้เลื่อนการจัดงานออกไปก่อนจนกว่าจะพ้นกำหนด การจัดพิธีศพ ให้วัดและหรือเจ้าภาพประสานงานกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่มาดำเนินการควบคุมพิธีการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

การรับกิจนิมนต์ให้พิจารณาตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเป็นสำคัญ, กำหนดให้ผู้เข้ามาติดต่อภายในวัด ติดต่อ ณ สำนักงานกลางของวัดเพียงแห่งเดียว โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือทุกครั้ง  และให้ติดต่อองค์การบริหารส่วนตำบลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการฉีดพ่นน้ำยากำจัดเชื้อโรคในบริเวณวัดภายในวันที่ 5 มกราคม 2564
 
การปฏิบัติตนของพระภิกษุ สามเณรและศิษย์วัด ให้ดำเนินการงดการเดินทางออกนอกวัดโดยไม่จำเป็น และให้งดเดินทางไปต่างอำเภอหรือสถานที่ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยเด็ดขาด,หากมีเหตุจำเป็นต้องออกนอกอำเภอ หรือไปพื้นที่สุ่มเสี่ยง เมื่อกลับเข้าวัด ให้แจ้งเจ้าอาวาสและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องที่เพื่อพิจารณาการกักตัวภายในกุฏิของตนมีกำหนด 14 วัน, ออกบิณฑบาตได้ตามปกติ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและแนะนำพุทธสาสนิกชนที่ตักบาตรให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเช่นกัน
 
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมสำรับเดียวกัน หากมีความจำเป็นให้ใช้ช้อนกลางของตน,ทำวัตรสวดมนต์ได้ตามปกติโดยเว้นระยะห่าง 2 เมตร ,ทำความสะอาดภายในและนอกอาคารเสนาสนะต่างๆเป็นประจำ โดยเฉพาะจุดสัมผัสให้ทำเป็นกรณีพิเศษ,ให้สวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือเป็นประจำโดยเฉพาะในขณะปฏิบัติกิจในที่ชุมนุม ,งดรับอาคันตุกะ หากมีธุระสำคัญให้ติดต่อทางโทรศัพท์หรือติดต่อผ่านช่องทางอื่นที่เหมาะสม, หากสงสัยว่ามีอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูล ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่นให้แจ้งเจ้าอาวาสโดยด่วน
 
การติดตามและการรายงานสถานการณ์ ให้ทุกวัดปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด ให้เจ้าอาวาสรายงานสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานต่อเจ้าคณะตำบลทุกวัน และให้เจ้าคณะตำบลรวบรวมผลรายงานต่อเจ้าคณะอำเภอทุกวัน  ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564