วันอังคาร ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 18.41 น.
กสศ.จับมือ อาชีวะ ต่อยอดความร่วมมือส่งต่อผู้เรียน-ผู้รับทุน
.jpg)
เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อส่งเสริมผู้เรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสให้ได้รับการศึกษาต่อสายอาชีพชั้นสูงและ การสร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษาในการยกระดับผลลัพธ์การเรียนของผู้เรียน ณ ห้องอารีย์ 1-2 โรงแรม เดอะ ควอเตอร์ อารีย์ กรุงเทพฯ
เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า นับจากปี 2563 ที่ สอศ. และ กสศ. ได้จับมือกันเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สร้างโอกาสให้แก่เยาวชนยากจน ด้อยโอกาส สู่ผู้เรียนอาชีวศึกษา มีผู้สำเร็จการศึกษาภายใต้โครงการนี้ไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 5 ผู้เรียนความต้องการพิเศษในรุ่นที่ 4 และนับได้ว่าเป็นวาระที่ 2 ที่จะได้ร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายของผู้เรียนอาชีวศึกษา ซึ่งการเรียนสายอาชีวศึกษาจะเป็นกำลังสำคัญทำให้ประเทศมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภายใต้การกำกับดูแลของ สอศ. ในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะและสมรรถนะสูง ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ
“สอศ. ได้กำหนดทิศทางเพื่อขับเคลื่อนร่วมกับ กสศ. อาทิ การแต่งตั้งคณะทำงานให้เป็นไปตามขอบเขตและแผนงาน ได้จัดตั้งศูนย์การศึกษาพิเศษอาชีวศึกษา ประจำภูมิภาค 10 แห่ง เปิดโอกาสให้ผู้พิการและประชาชนทุกช่วงวัยมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพ “สร้างโอกาส – ความเสมอภาค" เพื่อการสร้างคน สร้างอาชีพ ร่วมกับ กสศ. และภาคเครือข่าย ภายใต้การทำงานแบบมีส่วนร่วมได้กำหนด Key Success ในการพัฒนาระบบดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิภาพ เช่น การดูแลผู้เรียนให้อยู่ในระบบ พัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพสูง พัฒนาครูแกนนำ ร่วมลงนามกับกรมสุขภาพจิต และการศึกษาวิจัย พัฒนานวัตกรรมยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมขับเคลื่อนให้เป็นไปตามกลไกสู่มาตรฐาน"
รองเลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า จากการสนับสนุนของ กสศ. และการมีส่วนร่วมของเครือข่ายความร่วมมือ ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ การมีงานทำ การประกอบอาชีพ เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้เรียนมีโอกาสและสมรรถนะอาชีพ ที่ตรงตามสาขาที่เรียนและสามารถใช้ศักยภาพได้จริง สู่การเชื่อมฐานข้อมูล วางแผนส่งต่อเชื่อมโยงกับภาคเอกชนสู่การมีทำงาน รวมถึงวิเคราะห์ทิศทางการมีงานทำ ให้ได้รับค่าตอบแทนตามฐานสมรรถนะอาชีพของผู้เรียน และสำคัญยิ่งคือ ผู้เรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจาก กสศ. ได้รับโอกาส มีฐานะดีขึ้นในระดับต้นๆ รวมถึงวิจัยและพัฒนายกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ประเทศชาติได้ประโยชน์ ลดความเลื่อมล้ำ สู่การพัฒนาประเทศ สู่ประเทศไทยมั่นคง ร่ำรวยด้วยมืออาชีวะ"
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวถึงสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่น่าเป็นห่วงต่อสังคม และเศรษฐกิจไทยว่าปัจจุบันนักเรียน ในครัวเรือนยากจนมีโอกาสศึกษาต่อในระดับ ม.ปลาย เพียง53% ขณะที่นักเรียนยากจนพิเศษสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้เพียง 8% มีเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี ประมาณ 1.4 ล้านคน ไม่ได้อยู่ในการทำงานการศึกษา หรือการฝึกอบรมใด ถูกเรียกสั้น ๆ ว่าเยาวชนกลุ่ม NEET (Youth Not in Employment, Education, or Training : NEET) คิดเป็น 15% ของเยาวชนทั้งหมด
“เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง สาเหตุมาจาก 1.ภาระค่าใช้จ่ายการศึกษาที่สูงเกินกว่าจะแบกรับ โดยเฉพาะในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ขณะที่สวัสดิการการศึกษาสูงกว่าภาคบังคับยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่ครัวเรือนยากจน ยังกังวลเรื่องค่าเสียโอกาสในการทำงานหารายได้หากต้องศึกษาต่อ 2.ระบบการเรียนการสอนที่ยังไม่ตอบโจทย์ชีวิตจริงและการมีงานทำทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุให้เยาวชนเข้าสู่ตลาดแรงงานด้วยวุฒิการศึกษามัธยมต้นหรือน้อยกว่า กลายเป็นแรงงานด้อยทักษะ และสืบทอดมรดกความยากจนข้ามรุ่น”
ดร.ไกรยส กล่าวว่า กสศ. ร่วมมือกับ สอศ. และคณะหนุนเสริมจากหลายสถาบัน พัฒนานวัตกรรมระบบการศึกษาเพื่อยุติความยากจนข้ามรุ่น ภายใต้โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ที่ออกแบบโดยยึดเด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางพร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในโลกยุคใหม่ไปด้วยกัน มีจุดเน้นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.การส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงการศึกษา ด้วยกลไกการแนะแนวเพื่อให้เด็กและครอบครัวมองเห็นโอกาสทางการศึกษาและการมีอาชีพตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน และสวัสดิการเรียนฟรีเต็มรูปแบบ ที่ตอบโจทย์ข้อจำกัดในชีวิตของเยาวชนกลุ่มนี้ 2.การยกระดับคุณภาพสถานศึกษา ให้มีหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนที่มีคุณภาพเพื่อสร้างกำลังคนสมรรถนะสูง มีทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่ การส่งเสริมโอกาสการมีงานทำของผู้ที่จะจบการศึกษา เพื่อประกันการเรียนแล้วได้วุฒิ ได้งานที่ตรงสาขาทันทีหลังจบการศึกษา ระบบการดูแลสวัสดิภาพ ความเป็นอยู่และสุขภาพจิตของผู้เรียนให้สามารถจบการศึกษาตามหลักสูตรโดยไม่มีการออกกลางคัน
“ปัจจุบัน มีจำนวนทุนสะสมทั้งสิ้น 11,679 ทุน เป็นเด็กยากจนและด้อยโอกาส11,251 คน เด็กที่มีความต้องการพิเศษ 428 คน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,059,415,867 บาท ผลการดำเนินงานที่ผ่านมานักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะมีผลการเรียนในระดับดีมาก 3.00-4.00 โดยเมื่อสำเร็จการศึกษากว่า 90% คือคนแรกของครอบครัวที่มีการศึกษาสูงกว่าพ่อแม่ และ 82%มีงานทำหรือศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นช่วยยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เข้าสู่ฐานภาษีของประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี และพวกเขาจะเป็นบุคคลสำคัญของครอบครัวที่ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนข้ามรุ่นได้” ดร.ไกรยส กล่าว
ส่งข่าวได้ที่ email : saowaporn12345@gmail.com , saowaporn@hotmail.com และ bat_mamsao@yahoo.com