เปิดมุมมองธุรกิจ กับ “ไทคม ชิตมาตย์” เจ้าของร้าน หนึ่งนมนัว 
โชคุปังร้านดังเมืองภูเก็ต สู่ร้านเด็ดย่านบรรทัดทอง
    

สถานการณ์โรคระบาดโควิด–19 ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดตัวลง ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่มีผู้คนกล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย ร้านอาหารต่างต้องปรับตัวให้ไว “หนึ่ง - ไทคม ชิตมาตย์” อดีตเจ้าของร้านติ่มซำ เมืองภูเก็ต หนึ่งในธุรกิจที่ต้องปิดตัวลง เขาไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและลุกขึ้นสู้อีกครั้งในบทบาทเจ้าของร้านหนึ่งนมนัว โชคุปังร้านดังเมืองภูเก็ต สู่ร้านเด็ดย่านบรรทัดทอง วันนี้จะพาไปพูดคุยถึงเบื้องหลังความสำเร็จ ที่มีลูกค้ารอคิวมากถึง 400 คิว!
    

หนึ่ง - ไทคม ชิตมาตย์ เจ้าของร้านหนึ่งนมนัว เล่าจุดเริ่มต้นธุรกิจให้ฟังว่า หลังเรียนจบคณะศิลปศาสตร์ สาขาการจัดการโรงแรมและภัตตาคาร ซึ่งในปัจจุบันสาขานี้อยู่ในวิทยาลัยการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบริการ มหาวิทยาลัยรังสิต เขาตัดสินใจกลับไปต่อยอดธุรกิจร้านติ่มซำกับครอบครัว ที่จังหวัดภูเก็ต หลังเข้าไปบริหารร้านได้ไม่นาน เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ต้องชะลอธุรกิจลง ณ ตอนนั้นหลาย ๆ ร้านก็ทยอยปิดตัวลงเช่นกัน ภูเก็ตค่อนข้างเงียบ เศรษฐกิจย่ำแย่ ผู้คนต่างหวาดกลัวไม่กล้าออกจากบ้าน หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มเบาลง เขามีโอกาสพูดคุยธุรกิจกับรุ่นพี่ อยากเปิดร้านขนมปังสังขยา นับว่าเป็นโอกาสที่หลายคนคงไม่ปฏิเสธ กับการได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ศาสตร์การทำขนมปังเปรียบเสมือนวิทยาศาสตร์ ทำให้ได้ฝึกคิด มีระเบียบวินัย มีสมาธิที่จะจดจ่อเพื่อให้ขนมปังออกมาสมบูรณ์ที่สุด 
    

โชคุปัง ความจริงก็คือชื่อเรียกขนมปังสีขาวที่ทุกครัวเรือนรู้จัก สิ่งที่ทำให้ต่างออกไป คือเนื้อสัมผัสที่เบา เนียนละเอียด ทำให้เนื้อขนมปังนุ่มละมุน โดยทางร้านเพิ่มการอบกรอบให้ขนมปังมีเนื้อสัมผัสที่ต่างออกไป เพิ่มดิปหลากรสชาติให้ลูกค้าได้เลือกทาน  ร้านหนึ่งนมนัวเปิดสาขาแรกที่ จ.ภูเก็ต ก่อนขยายสาขาที่สองไปที่กรุงเทพมหานคร ย่านบรรทัดทอง ย่านที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหารคาวหวานมากมาย “การตัดสินใจเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้คนมากมายต่างออกมาซื้อ-ขาย จะช่วยเปิดโอกาสให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นหนทางที่ดี ที่จะทำให้ร้านไปได้ไกลกว่าเดิม”หนึ่งกล่าวแบบนั้น
พิเศษใส่ใจ...
    

เมื่อลูกค้าตั้งใจมารับประทาน สิ่งที่ร้านส่งคืนกลับไปให้ลูกค้า คือความใส่ใจ ขนมปังที่ใช้เวลาทำมากกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อให้ได้เนื้อที่อร่อย กรอบ ฟู วัตถุดิบที่ถูกคัดสรรอย่างเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเปิดร้านนี้เขาใช้เวลาศึกษาการทำขนมปัง 3-4 เดือนกว่าจะได้โชคุปัง ที่มีคุณภาพ พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกกค้า คุณภาพที่คุ้มค่ากับราคาที่จับต้องได้  ไม่ว่าใคร ชนชั้นไหน ก็สามารถเข้ามาทานที่ร้านได้ เพราะสินค้าทุกอย่างเป็นโฮมเมดทำเองทั้งหมด ทำให้ราคาต้นทุนไม่สูงมากนัก ลูกค้าสบายใจที่มาทาน ไม่ว่าจะขนมปัง นม หรือแม้แต่ดิป ทุกอย่างผ่านการทำอย่างพิถีพิถัน ความตั้งใจ จึงเป็นจุดแข็งที่ลูกค้ารับรู้ได้และกลับมาทานซ้ำ ไฮไลท์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ นมเย็น ๆ หลากรสชาติ ถูกเสิร์ฟมาในแก้วเก็บความเย็น เลือกที่จะไม่ใส่น้ำแข็งเพื่อรักษารสชาติเดิมของนมไว้ คงความ “นัว” หอมมัน  ไม่หวานแสบคอ ทานคู่ไปพร้อมโชคุปังอบกรอบ ที่มีดิป ให้เลือกมากมาย
    

หนึ่ง กล่าวต่อว่า ในส่วนของโลโก้ก็คือตัวของเขาเอง ย้อนกลับไปในช่วงโควิด ร้านตัดผมต่างปิดกันหมด ผมที่ยาวมากกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ตัดสินใจเลือกคุณแม่เป็นช่างประจำตัวเสียเลย ไถแบตตาเลี่ยนจนกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้ากลม ทุกคนบอกว่าเป็นเอกลักษณ์แถมน่ารักดี ตัดสินใจเอาตัวเองขึ้นเป็นโลโก้ร้าน เกิดเป็นร้านหนึ่งนมนัวถึงปัจจุบัน ณ ตอนนี้นับว่ามาไกลเกินฝันมาก เป้าหมายแรกคงเพียงการมีร้านขนมปังสังขยาเล็ก ๆ เป็นของตัวเองที่ภูเก็ต ถึงวันนี้เกินฝันเขามากจริง ๆ ถึงแม้จะมาเกินเป้าหมายที่ตั้งใจแล้ว ทุกอย่างต้องพัฒนาต่อไป ไม่คิดจะหยุดอยู่แค่นี้ คิดค้น ครีเอทเมนูใหม่มาให้กับลูกค้าต่อไป 

“คงไม่ปฏิเสธถึงความกังวลที่ว่าจะถูกลอกเลียนแบบ สุดท้ายแล้วคงต้องเริ่มปรับที่ตัวผมก่อน เราควบคุมสิ่งอื่นรอบตัวไม่ได้ ต้องหันกลับมาจัดการสิ่งที่เรามีอยู่ให้ออกมาดีที่สุด คุณภาพสินค้าที่ออกมาจากร้าน ต้องดีและได้มาตรฐาน เป็นสิ่งที่ผมย้ำกับพนักงานอยู่เสมอ”หนึ่งทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น
    

สำหรับใครที่อยากลิ้มลองโชคุปังร้านดังเมืองภูเก็ต ที่ยกทัพมาเสิร์ฟให้ถึงกรุงเทพ แวะไปอุดหนุน พูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหนึ่ง ได้ที่ร้านหนึ่งนมนัว บรรทัดทอง ที่เป็นมากกว่าร้านขนม ยังคงเป็นมุมไม่ลับของนักเรียน นักศึกษา ที่ใช้เวลาหลังเลิกเรียนเพื่อพบปะสังสรรค์กันอีกด้วย