วันศุกร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:38 น.

การศึกษา

อาจารย์ 2 คณะ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ รุดขอการไฟฟ้าสุราษฎร์ช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าตกให้ชุมชนขอบมหาวิทยาลัย

วันพุธ ที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2568, 20.11 น.

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูภณัช รัตนชัย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ธวัช บุญนวล อาจารย์ประจำสาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เพื่อประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้การไฟฟ้าได้ทำการตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าในเขตหมู่ที่ 7 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่ากระแสไฟฟ้าตกหรือไม่ โดยมีนายกิตติ ไทยปาน, นายมังกร บุญช่วย, นายสมชาย ท่ากั่ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และดร.ธนสาร เดชนะ ตัวแทนพี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์จากกรณีดังกล่าว โดยมีนายวันชัย แต่งเรียม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองสุราษฎร์ธานีให้การต้อนรับอย่างมิตรภาพ

ในการพูดคุยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองสุราษฎร์ธานี รายงานว่าจากการสำรวจก่อนหน้านี้พบว่า กระแสไฟฟ้าได้ตกจริง และจำเป็นต้องเพิ่มหม้อแปลงไฟฟ้า เนื่องจากในพื้นที่ได้มีการขยายครัวเรือนเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน นายวันชัย แต่งเรียม กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้บริการลูกค้า และทำให้ทุกคนได้ใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ หากมีปัญหาในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงก็ขอให้ทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองสุราษฎร์ธานีได้บริการอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากอาจจะมีบางพื้นที่ที่เริ่มเกิดปัญหาดังกล่าว การพูดคุยในครั้งนี้สร้างความพึงพอใจแก่ทุกคนที่ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ โดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวว่าตนจะกลับไปแจ้งพี่น้องชาวบ้านในวันประชุมหมู่บ้านว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นต่อไป

กรณีดังกล่าว เป็นนโยบายหนึ่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้าน และมหาวิทยาลัยมองว่าพี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นดั่งญาติมิตร มหาวิทยาลัยต้องสร้างรั้วชุมชนที่แข็งแรง เพื่อเป็นที่พึ่งให้แก่พี่น้องชาวบ้าน และทุกคนมองมหาวิทยาลัยเป็นเสมือนบ้านของตนเองที่ต้องร่วมกันดูแลเอาใจใส่เช่นกัน ในมุมมองที่ว่า “เมื่อมหาวิทยาลัยไม่ทิ้งพี่น้องชาวบ้าน พี่น้องชาวบ้านก็จะไม่ทิ้งมหาวิทยาลัย” อันเป็นประโยชน์ที่เกื้อกูลระหว่างกันของมหาวิทยาลัยกับชุมชน
    

หน้าแรก » การศึกษา