การศึกษา
"นฤมล" ปาฐกถาในการประชุม ISAT ศธ. ใช้ 3 เสาหลักนำทางการศึกษา "ลดภาระครู-ทักษะอนาคต-เทคโนโลยี AI" สร้างคุณภาพและความเท่าเทียมทั่วไทย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11.00 น. ศาสตราจารย์ ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวปาฐกถาในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ. 2568 ของสมาคม ISAT ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลแบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล
ศ.ดร. กล่าวว่า หากกล่าวถึงโรงเรียนสมาชิก 204 แห่ง ของ ISAT ท่านคือพันธมิตรสำคัญยิ่งในพันธกิจด้านการศึกษาระดับชาติของเรา โรงเรียนของท่าน มอบการศึกษาที่ครอบคลุมและมีคุณภาพระดับโลกให้แก่นักเรียน ด้วยหลักสูตรที่หลากหลายที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ท่านมีส่วนร่วมโดยตรงในการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทยและเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขัน ให้แก่ประเทศของเราในฐานะศูนย์กลางการศึกษาระดับภูมิภาค
ในศตวรรษที่ 21 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาไม่อาจถูกจำกัดด้วยพรมแดนอีกต่อไป ประเทศไทยมองว่าการศึกษาในระดับนานาชาติ ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นเสาหลักของยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจในระยะยาว
รมว.ศธ. กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ตอนหนึ่งว่า วิสัยทัศน์ของรัฐบาลเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการศึกษาไทยให้เข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้พลเมืองทุกเพศทุกวัยให้สามารถเติบโตได้ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ด้วยรากฐานทางศีลธรรมที่แข็งแกร่ง มีทักษะที่จำเป็น และมีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงแนวโน้มที่เห็นได้ชัดและเป็นเรื่องสำคัญ นั่นคือ ความนิยมของโรงเรียนนานาชาติยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนผู้เข้าเรียนหลักสูตรทั่วไปของไทยมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ปกครองที่มีกำลังซื้อมองว่า หลักสูตรนานาชาติมีความทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมให้บุตรหลานของตน มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในเวทีโลก นอกจากนี้ มาตรฐานการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับของประเทศไทยและค่าเล่าเรียนที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักเรียนต่างชาติได้
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า เสาหลัก 3 ประการ ของนโยบายการศึกษา นโยบายดังกล่าว ออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่า ระบบการศึกษาไทยมีความยืดหยุ่น ตรงประเด็น และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ได้แก่ 1. ลดภาระด้านกฎระเบียบและส่งเสริมการพัฒนา โดยจะสร้างกฎระเบียบที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและการขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติ ิิกมาตรการเชิงรุกเพื่อปรับปรุงกระบวนการออกใบอนุญาต ให้มีความรวดเร็วและชัดเจนขึ้น เสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแล โดยมีเป้าหมายคือ การดำเนินการกระบวนการขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และใบอนุญาตเริ่มต้นดำเนินกิจการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อให้มั่นใจว่า ท่านจะได้รับบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และไม่เกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น ในขณะเดียวกัน เรายังส่งเสริมการประกันคุณภาพผ่านการกำหนดกรอบหลักสูตรที่ชัดเจน ซึ่งมีความยืดหยุ่นและมีนวัตกรรมทางการสอนที่มีคุณภาพ
ส่วนข้อ 2 คือ การให้ความสำคัญกับทักษะในอนาคต คือ การพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นพื้นฐานที่จำเป็น ได้แก่ ความสามารถในการใช้ภาษาได้คล่องแคล่ว โดยเฉพาะภาษาสากล เช่น ภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก, ความรู้ด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งช่วยให้นักเรียนสามารถเป็นนักคิดอย่างสร้างสรรค์ มีจริยธรรมและเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีอย่างรอบรู้ และทักษะทางสังคมและการคิดเชิงวิพากษ์ ซึ่งจำเป็นต่อการปรับตัวและการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
และ 3. การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่และปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ไม่เพียงเกี่ยวกับความสามารถทางดิจิทัลเท่านั้น แต่รวมถึงการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้อัจฉริยะ ที่สนับสนุนการเรียนรู้รายบุคคลและการเรียนรู้ตลอดชีวิต โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลนี้ช่วยลดช่องว่างด้านคุณภาพของการศึกษา ระหว่างโรงเรียนในเมืองกับชนบท และรับประกันว่าเด็กนักเรียนทุกคนจะสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันทั่วประเทศ
ดังนั้น นโยบายของเรา ตั้งแต่การฝึกอบรมวิชาชีพไปจนถึงการเรียนดิจิทัล ล้วนมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ครอบคลุม เรากำลังสร้างกลไกต่างๆ เช่น ระบบเทียบโอนหน่วยกิตและการเทียบโอนประสบการณ์ เพื่อให้สามารถเกิดการศึกษานอกห้องเรียนได้ในทุกช่วงวัย
"โดยสรุป นโยบายการศึกษาระหว่างประเทศของรัฐบาลไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างคุณภาพ ความเสมอภาค และการบูรณาการความร่วมมือในระดับสากล เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อพันธกิจของ ISAT และโรงเรียนสมาชิกทั้ง 204 แห่ง และเรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างระบบการศึกษาที่เข้มแข็ง ตรงประเด็น และมีความพร้อมมากที่สุดในการรับมือกับอนาคต
ด้วยการลดกำแพงด้านกฎระเบียบ รวมทั้งให้ความสำคัญกับทักษะที่จำเป็นในอนาคต และการสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ดิฉันมั่นใจว่าเรากำลังเตรียมความพร้อมพลเมืองไทยรุ่นต่อไป ให้มีประสิทธิภาพ มีจริยธรรม และสามารถแข่งขันในระดับโลก เราเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือ คือกลไกขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่แท้จริง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ ISAT เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี และผลักดันอนาคตของการศึกษาให้ก้าวหน้าสู่ระดับโลก" รมว.ศธ. กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- "นฤมล" ปาฐกถาในการประชุม ISAT ศธ. ใช้ 3 เสาหลักนำทางการศึกษา "ลดภาระครู-ทักษะอนาคต-เทคโนโลยี AI" สร้างคุณภาพและความเท่าเทียมทั่วไทย 28 พ.ย. 2568
- ว.การแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ยกระดับการวินิจฉัยสุขภาพ เปิดตัวหุ่นยนต์ AI ตรวจสมดุลสุขภาพแพทย์แผนจีน 28 พ.ย. 2568
- อยู่ดี Stay Well Team” นศ.มทร.สุวรรณภูมิ คว้ารางวัลระดับประเทศ ดันท่องเที่ยวชุมชน 28 พ.ย. 2568
- สอศ. ระดมกำลัง สมบท ร.ร.หาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 28 พ.ย. 2568
- สสวท.อบรมฟรี “ครูแกนนำ-โรงเรียนแกนนำ AI ทั่วประเทศ” 28 พ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
MOU เปิดวัดให้ตรวจสอบภายในครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อความโปร่งใสและมั่นใจในการบริหารจัดการวัด 18:54 น.- มทร.สุวรรณภูมิร่วมยกระดับแรงงานไทย ดันทักษะระบบอัตโนมัติ–หุ่นยนต์ 18:31 น.
- นศ.ราชมงคลสุวรรณภูมิ ลุยช่วยน้ำท่วมอยุธยา–สิงห์บุรี 17:32 น.
- รมว.ศธ. “นฤมล” ห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันภาคใต้–หาดใหญ่ กำชับสถานศึกษาเฝ้าระวังใกล้ชิด 15:25 น.
- สอศ. รับมอบห้องฝึกสอนภาคปฏิบัติด้านการขับขี่ปลอดภัยทางถนน จากมูลนิธิฮอนด้า 15:06 น.


