วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:59 น.

บันเทิง

คนบันเทิงขอปลุกสังคม "ตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน" ตบเท้าเข้าร่วมเวิร์กชอป "ค้นหาความเป็นมนุษย์"

วันพฤหัสบดี ที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 15.41 น.

วีวันเนส (WE ONENESS) หรือโครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกันโดยมูลนิธิสหธรรมิกชนภายใต้การสนับสนุนของสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชวนเหล่าคนบันเทิงร่วมกิจกรรมCreative Awakening Workshop for Stars and Writers เวิร์ก
ชอปสร้างแกนนำคนบันเทิงและนักเขียนเพื่อการตื่นรู้สู่สุขภาวะทางปัญญา ซึ่งเป็นกิจกรรมพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารสุขภาวะทางปัญญาที่สร้างการการเรียนรู้ภายในและสุขภาวะทางปัญญาผ่านประสบการณ์จริงโดยวีวันเนสเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในการสร้างกิจกรรมสร้างพื้นที่และโอกาสในการเรียนรู้ที่ได้ใช้ทั้งความคิดการสัมผัสและการตระหนักรู้เพื่อค้นพบความเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง

โดยกิจกรรมนี้มีกว่า 20 ชีวิตที่มาเข้าร่วมทั้งดารานักแสดงผู้จัดผู้กำกับและนักเขียนทั้ง แพม ภัคธภา ฉัตรโกเมศ / ส้มพิมพรรณอรทนเสน / มิเนย์กฤศณัฐฐิกาจูไต๋ / ตุ้ม ปาณิสรา วัฒนพฤกษ์  / จิ๊บ จารุภัส ปัทมะศิริ / ดี้ ปัทมา ปานทอง / จิ๋ม กุณกนิช คุ้มครอง / ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์ / ติ๋ว อรสา พรหมประทาน / กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ / พรีม ธีรตี พิศาเตวิชพศุตม์ / ฝน วรัตม์ชยา มหาขันธ์ / กิ๊ฟ อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์/ บูม ปิยะวัลย์วงศ์สว่าง / ป้อม ชัญญาพัชญ์ ธนโชติสวัสดิพร / ดิพ เบญจวรรณ สุวรรณสุขุม / จอย ชวัลนุช กิจเจริญ / แอ้ เพ็ญลักษณ์ เรืองระเบียบ / ธงธง มกจ๊ก คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ/ หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์  / แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์ / พิมพ์ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร / หน่อง กิ่งเทียน เจริญยัง / จ๋าสายฤดี รสานนท์ / อุ้ม พรดี สาตราวาหะ / กฤษณ์ กฤษณ์ มงคลเกษม     

ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์ หรือ แม่ก้อย ที่เคารพของคนในวงการบันเทิง ถึงกับออกปากว่า “ตอนแรกที่ติ๋ว(อรสาพรหมประทาน) ชวนมาก็คิดว่าเป็นคอร์สปฏิบัติธรรมทั่วไปเหมือนที่ชอบไปกันแต่ว่ากิจกรรมที่ได้ทำมีความสนุกได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและได้เข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วยสำคัญคือได้รู้จักและเปิดใจให้น้องๆในวงการได้เข้าหา”คอร์สพิเศษนี้ออกแบบมาอย่างร่วมสมัยเพื่อสร้างประสบการณ์การมีสติรู้ตัวรู้เท่าทันอารมณ์ความคิดความรู้สึก แล้วเห็นประโยชน์ในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาให้แก่ตนเองและสังคม โดยแต่ละกิจกรรมมีความสนุกและไม่น่าเบื่อ"

ตา สุรางคณา ดารานักแสดง ในฐานะวิทยากรของโครงการ ผู้ชักชวนเหล่าคนบันเทิงและนักเขียนมาร่วมกิจกรรมนี้กล่าวว่า“กิจกรรมตลอดทั้ง 2 วัน 1 คืนถูกออกแบบให้มีการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสวิธีการเจริญสติรู้ตัวในรูปแบบที่เหมาะสมกับในชีวิตประจำวัน เช่นการรับประทานอาหารอย่างมีสติการฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้งการสำรวจความทุกข์และความสุขภายในตนเอง และการทำกิจกรรมที่สร้างการตระหนักรู้และเข้าใจในความเป็นจริงของกายและใจ รู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกและความคิดของตนเอง ตลอดชีวิตในวงการบันเทิงตาคิดว่าการให้ธรรมะนี่แหละเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ตาจะตอบแทนกลับไปสู่วงการและเมื่อคนในวงการมองเห็นความเป็นมนุษยในตัวเองและผู้อื่นตาเชื่อว่าจะเกิดสิ่งดีๆขึ้นในสังคมอีกมากมาย”

อีกเสียงที่ยืนยันความสนุกของกิจกรรมได้คือ กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ซึ่งกล่าวว่า “ในเวิร์กชอปนี้กิ๊กมองว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะปลุกศรัทธาปลุกความมีกัลยาณมิตรคือต้องบอกว่าคนที่มาเข้าคอร์สนี้มีหลากหลายอันนี้กิ๊กถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงเพราะว่าสามารถที่จะมอบธรรมะอันเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตในการเข้าใจตนเองและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้อย่างครบถ้วนเป็นอีกหนทางที่ทุกคนจะสามารถช่วยเหลือสังคมได้เลยแม้ไม่ได้ไปเข้าคอร์สธรรมะเข้มข้นสิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือมีกัลยาณมิตร ซึ่งเราก็จะจับมือกันเป็นเครือข่ายในการเป็นตัวอย่างของการทำความดีแล้วบอกต่อคนอื่น เป็นกำลังใจให้คนอื่นในการทำความดีร่วมกันไป ถ้าเราในวงการสื่อสารมวลชนมีความเห็นตรงกันว่าเราจะช่วยกันนำพาสังคมไปในทิศทางแห่งความดี เราก็มาปลูกฝังทัศนคติให้ตรงกันอย่างในเวิร์กชอปนี้แล้วจูงมือจับมือไปด้วยกัน”

กิจกรรมครั้งนี้จะพาเหล่าผู้เข้าร่วมมาค้นหาตัวตนและความแตกต่างของตนเอง เพื่อให้มองเห็นคุณค่าของตัวเองในการดำรงอยู่กับผู้อื่นในโลกใบนี้คนที่ดูจะเข้าใจในตัวเองมากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมเห็นจะเป็น  ธงธง มกจ๊ก ที่ได้กลับมาทำความรู้จักกับตัวเองใหม่อีกครั้งโดยกล่าวว่า “เราได้เห็นในมุมมองที่ว่าตัวเองเป็นคนที่ยอมคนอะไรที่มันไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็จะรับได้ยอมเป็นผู้ตามมากกว่าหากในจังหวะนั้นเขาต้องการความเป็นผู้นำจากเราเราก็ให้ได้กิจกรรมนี้ทำให้รู้สึกถึงเบื้องลึกในใจเราอาจจะเป็นเพราะเราดูละครเยอะตอนเด็กๆก็เลยติดมุมของนางเอกมา (หัวเราะ) ทุกครั้งที่มีความรักและอกหักร้องไห้หนักมากเพิ่งมาเห็นในกิจกรรมนี้ว่าในตอนนั้นเรามีความสุขได้อย่างไรก็เพราะเรายึดนางเอกในละครเป็นแบบอย่างไง (หัวเราะ) แต่เมื่อนึกย้อนไปในขณะที่ร้องให้เราก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่อยู่ในจิตใจเลยว่าเราเป็นคนยอมคนเป็นคนมีวินัยเป็นคนมีความรับผิดชอบเป็นผู้นำที่ดีได้เป็นผู้ตามที่ดีได้เป็นคนที่แบ่งรับแบ่งสู้ได้ ทั้งหมดมันทำให้เรารู้สึกศรัทธาตัวเองเห็นคุณค่าในตัวเองว่าตัวเรามีคุณค่าแต่ใครจะเห็นหรือไม่เห็นเราไม่รู้แต่วันนี้เรารู้ตัวแล้วจุดยืนของเราเปลี่ยนไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแล้วนะเราสามารถภาคภูมิใจในตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปไขว่คว้าหาใครเราอยู่ได้และมีความสุขกับสิ่งที่เป็นจริงๆ”

เมื่อถามเผื่อท่านผู้อ่านว่าถ้าเข้าใจตัวเองและมองเห็นคุณค่าของตัวเองบ้าง จะทำได้อย่างไรธงธงตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า“ง่ายนิดเดียวก่อนอื่นคุณต้องสังเกตคุณต้องลองอยู่กับกายกับใจนี้อย่างเป็นคนที่มีสติบริบูรณ์แล้วสังเกตว่าเวลามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเราแก้ไขสถานการณ์อย่างไรจิตใต้สำนึกตอนนั้นเป็นแบบไหน เพียงแต่ว่ากฎกติกาคือคุณต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเราเป็นคนแบบไหนถ้าเป็นคนดีก็จงภาคภูมิใจ ในบางมุมที่ไม่ดีนะเราเห็นแล้วเราจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรการค้นหาตนเองและการเห็นตัวตนของตัวเองมีประโยชน์ อยากให้ทุกคนเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่ดีและภาคภูมิใจในการเป็นตัวเอง”

ด้าน ดี้ ปัทมา ปานทอง ก็กล่าวถึงสิ่งดีๆที่เธอได้รับจากกิจกรรมครั้งนี้ว่า “มันคือความผูกพันกับเพื่อนใหม่ที่เราไม่เคยคิดว่าภายในเวลา 2 วันกิจกรรมเหล่านี้มันจะทำให้เราสนิทกันได้เร็ว ดี้พบว่าเราสามารถที่จะเปิดใจให้กับคนที่เราไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย ไม่เคยรู้จักเลยว่าคนนี้เขาคือใครอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือการได้รู้จักตัวเองเห็นความเป็นมนุษย์ของตัวเองและผู้อื่นมันนำมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันเราสามารถไปสร้างความสัมพันธ์กับใครก็ได้ในโลกในนี้ยังมีคนอีกมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากเราหรือว่าต้องการกำลังใจจากเราเราก็จะเอาส่วนนี้ไปแบ่งปันให้กับทุกๆคนรอบตัว”

นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสรับฟังธรรมบรรยายจากพระอาจารย์ไพศาลวิสาโลในหัวข้อ ‘การเป็นหนึ่งเดียวกับตนเองอย่างมีคุณค่า’ และพระอาจารย์พระอาจารย์สมทบปรกฺกโมในหัวข้อ ‘สังคมอริยะชน’ ซึ่งผู้เข้าร่วมทุกท่านให้ความสนใจเป็นอย่างมากรวมทั้งมีการซักถามถึงข้อธรรมอันลึกซึ้งและเกิดแรงบันดาลใจ

โดย ธรากร กมลเปรมปิยะกุล หรือ พงศ์ ครีเอทีฟโครงการวีวันเนส ก็กล่าวปิดท้ายถึงผลลัพธ์อันเป็นเป้าหมายของโครงการนี้ว่า “กิจกรรมนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นโดยหลังจากนี้ที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับการดูแลสนับสนุนอย่างใกล้ชิดในการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงบทละครงานสื่อสารและอื่นๆที่สามารถนำวิถีสุขภาวะทางปัญญาเรื่องการตื่นรู้การตระหนักถึงคุณค่าของการรู้เท่าทันตนเองรู้เท่าทันสื่อและการเป็นหนึ่งเดียวกันผสมผสานลงไปในผลงานของตนได้อย่างน่าสนใจมีความร่วมสมัยส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างงานสื่อสุขภาวะทางปัญญาสู่สังคมร่วมกันต่อไป”

         

หน้าแรก » บันเทิง