บันเทิง
“ตูมตาม ยุทธนา” เผยสถานะหัวใจ ตอนนี้เป็นสีชมพู
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นักร้อง นักแสดงมากความสามารถ "ตูมตาม ยุทธนา" หรือ "ตูมตาม เดอะสตาร์ 7" ที่กว่าจะมีวันนี้ได้เจ้าตัวต้องดิ้นรนจนเกือบไม่ได้เรียน เพราะที่บ้านค่อนข้างลำบาก เป็นหนี้เกือบล้าน ล่าสุด "ตูมตาม" ควง คุณพ่อคุณแม่ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31
เจอผลกระทบไหม? "จริงๆ มันเจอมาได้สักพักแล้ว เพราะว่าตั้งแต่เริ่มต้นที่มีการแพร่ระบาด งานอีเว้นต่างๆ ผมยกเลิกหมดเลยครับ และนี่คือรายการสุดท้ายของเดือนนี้ แล้วเดือนหน้ายังไม่มีแพลนอะไรด้วย" หลายคนคิดว่าตูมตามเป็นคนอีสาน แต่ไม่ใช่คุณเป็นคนที่ไหน? "ผมเกิดและโตที่นครสวรรค์ ที่บ้านเป็นอำเภอใหม่ที่มีคนจากหลายจังหวัดมารวมตัวกัน แล้วหลักๆ จะเป็นคนอีสานที่มาอยู่ แล้วจะคุยกันภาษาอีสาน และผมก็พูดภาษาอีสานตั้งแต่เด็ก" มาเริ่มเข้าเวทีเดอะสตาร์ทั้งที่ไม่ชอบการประกวดเลย? "ใช่พี่ คือด้วยเหตุผลหนึ่งในการใช้ชีวิตของผมมันเป็นเพราะว่าเรารับรู้ปัญหาในครอบครัวตลอด พอทีนี้ถึงจุดหนึ่ง จุดที่ต้องใช้เงินเยอะมากขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ก็เริ่มไม่สบาย พี่ชายเรียนวิศวะ ผมก็ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แล้วผมก็รู้สึกว่ามันไม่มีเงิน แล้วผมก็โอเค...เรื่องเรียนเอาไว้ก่อนก็ได้ ตอนนั้นผมจบ ม.6 ก็เลยบอกคุณพ่อ คุณแม่ว่าเดี๋ยวจะช่วยงานหาเงินเพื่อส่งพี่ชายให้เรียนจบก่อน เขาจะได้เอาเงินมาส่งผมต่อ แต่เราโชคดีที่ได้ใช้โควต้าการเป็นนักร้อง ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้เรียนฟรี แต่ก่อนหน้านั้น เราเป็นเด็กต่างจังหวัดก็จริง แต่เราคิดต่างนะ เราคิดว่าถ้ามีโอกาสตรงไหนก็อยากไปประกวดเพื่อจะช่วยครอบครัว ทีนี้ เดอะสตาร์ ปี6 เปิดพอดีในช่วงที่ผมอยากจะประกวด ผมก็ไปประกวดแต่ตกรอบ แต่พอปีที่7 เป็นช่วงที่ผมย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็เลยมาประกวดอีกที และได้เข้ามาเป็นเดอะสตาร์ ปีที่7 คือทุกครั้งก็จะคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ตลอด เขารู้ดีว่าผมไม่ชอบการประกวด ผมไม่กล้าแสดงออก เขาก็เลยบอกมีเวทีประกวดลูกทุ่งที่วัดไปประกวดให้ดูก่อน ตอนนั้นผมได้ที่2"
พ่อ-แม่ ภูมิใจไหมที่ลูกได้รางวัลตอนนั้น? (แม่) "ภูมิใจมากค่ะ" (พ่อ) "ไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ คือเขาเป็นคนที่ทำอะไรเนี่ยไม่ค่อยเป็นชิ้น เป็นอัน ผมก็เลยไม่ค่อยมั่นใจ" ชีวิตก่อนเป็นศิลปินกับหลังเป็นศิลปินต่างกันขนาดไหน? "ต่างกันโดนสิ้นเชิงเลยครับ คือด้วย 1.คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องทำงานแบบหาเช้ากินค่ำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนประกวดคุณแม่ขายน้ำพริก ขายผลิตภัณฑ์แปรรูปทุกอย่างจากเนื้อสัตว์ แล้วก่อนหน้านั้นก็จะเป็นโรงเชือดแล้วก็ขายหมู แต่พอหลังจากที่ผมมาประกวดคุณพ่อ คุณแม่ก็เริ่มหยุดแล้ว ก็จะไม่ได้ทำงานหนักแล้ว ผมก็จะเป็นคนดูแล เป็นกำลังหลัก" (พ่อ) "เขากลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้พ่อ แม่ได้พักผ่อนขึ้น พี่ชายก็เรียนจบด้วยดี" เห็นว่าครอบครัวเคยเป็นหนี้หลายล้าน? "เกือบล้านครับ เมื่อก่อนถ้าเงิน 7-8 แสนตอนนั้นมันคือภาระหนักมากสำหรับคนต่างจังหวัด คนที่หาเช้า กินค่ำ" หนี้เกิดจากอะไร? (แม่) "เกิดจากส่งลูกเรียน" (พ่อ) "แล้วก็เอามาลงทุนขายปุ๊บได้กำไรก็เอามาส่งลูกเรียน ไม่พอก็เอาทุนลงไปด้วย ก็เลยขาดไปเรื่อยๆ"
ตอนนั้นคุณพ่อ คุณแม่ลำบากไหม? (แม่) "ลำบากมากเลยเพราะว่านอนน้อย นอนดึก ตื่นเช้าเพื่อไปทำโรงเชือด" (ตูมตาม) "ที่หนักสุดๆ คงจะเป็นช่วงที่หมูเป็นๆ ราคาสูง มันเป็นช่วงที่มีโรคระบาด การไปซื้อหมูที่ฟาร์มมีราคาสูง แต่ว่าพอมาถึงหน้าเขียงจริงๆ ในตลาดเราไม่สามารถอัพราคาได้ เพราะลูกค้ายังซื้อราคาเดิมอยู่ มันก็เลยขาดทุน"
ตอนเข้ามากรุงเทพฯตอนนั้นยังไม่ดังเลย? "ยังครับ จริงๆ ผมเข้าวงการตอนเทอม2 ของปี1" ตอนนั้นลำบากไหม? "ลำบากครับ คุณพ่อ คุณแม่ มีเงินส่งให้ผมเดือนละ 4 พัน และเงิน4 พัน คือกินกับเรียน จิปาถะผมไม่มีเลย ผมเลยใช้ชีวิตอยู่ในหอในมหาวิทยาลัยตลอด แล้วผมก็ กู้ กยศ. ถามว่าพอไหม พอครับ พอเฉพาะกินอยู่ บางทีเราก็แบ่งเงินไปซื้อข้าว ไข่ มาม่า เพื่อหุงกินเอง" ถ้าเรามองกลับไปตอนนี้คิดว่ามันเป็นรสชาติของชีวิตไหม ถ้าเลือกได้เราอยากจะกลับไปผ่านจุดนั้นอีกไหม? "ดีใจมากที่ผ่านจุดนั่นมา เพราะมันทำให้ผมรู้จักคิดในการเอาชีวิตรอดกับสถานการณ์ตรงหน้า โดยมานั่งกล่าวโทษ แต่พอเรามามองตอนนี้ เออ...ตอนนั้นมันลำบากนะ แต่ ณ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย"
ตอนนั้นได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นไหม ได้ไปเที่ยวไหม? "คือถ้าอยากไปจริงๆ เราก็ไป แล้วเราก็มาเมเนจการเงินของเราเอง" สมัยก่อนเป็นเด็กแว้นด้วหรอ? "ครับพี่ แว้นแข่งรถเลย" สถานะหัวใจเป็นยังไง? "ตอนนี้เริ่มกลับมาชมพูๆ เหมือนเดิมแล้ว หมายถึงว่าเมื่อก่อนเราก็ทรงๆ ยังไม่ได้อะไร ตอนนี้ก็เหมือนพร้อมที่จะเปิดรับความรัก แต่ว่ายังไม่มีอะไรเข้ามา" ยังไม่มีเข้ามาเลยหรอ? "มีครับ แต่เรากลับกลายเป็นคนที่เลือกมากมากขึ้น เวลาที่เลือกเนี่ย ผมไม่ได้เลือกว่าเขาดีไม่ดีนะ ผมเลือกว่าคนที่จะเหมาะกับเราที่สุด ตอนนี้ผมมองไปถึงครอบครัวแล้ว พ่อก็อยากอุ้มหลาน" ตอนนี้คุยกี่คน? "เรายังไม่ให้สถานะใคร แต่ว่าเราก็คุย นับว่าเป็นเพื่อน ก็มี 2-3 คนแค่นั้น" แล้วใน 3 คนมีใครเหมาะเป็นแฟนไหม? "ก็มีบางคนที่เรารู้สึกว่าสบายใจที่จะอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมยังโสดอยู่ครับ"
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » บันเทิง
ข่าวในหมวดบันเทิง ![]()
“บิว-ณัฐพล” ชวนลุ้นโค้งสุดท้าย “บาสเกตบอล 3X3 แชมป์กีฬา 7HD 2025” ชิงแชมป์ภาคใต้ 14-15 มิ.ย.นี้ ที่ ศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน 22:47 น.
- ชาบูชิ เปิดตัว “สกาย – นานิ” พรีเซนเตอร์คู่แรก พร้อมแคมเปญ ชาบูชิ x สกาย – นานิ: ALL YOU CAN กรี๊ด ในบรรยากาศฟินสุดกรี๊ด สะเทือนสามย่าน 13:00 น.
- “กัปตัน” ชวนแฟน ๆ ชม “เงากามเทพ” โค้งสุดท้าย อ้อนขอกำลังใจ จากนี้ไปดราม่าหนัก 12:00 น.
- ส้มหยุด! แม่สิตางศุ์ เปิดใจชีวิตตกอับ หมวยโซฮอตโพสต์ขอบคุณนักข่าวช่อง 8 11:30 น.
- กินเที่ยวมูกับ “Taiwan Day” ที่เซ็นทรัลเวิลด์! ร่วมกระทบไหล่ "อาเล็ก ธีรเดช" และพลาดไม่ได้กับแพ็คเกจท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Meet & Greet อาเล็กที่ไต้หวัน” พร้อมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินฟรี! 21:06 น.