วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:40 น.

บันเทิง

น้ำตาไหลพราก! "แพท วงเคลียร์" เผยความรู้สึกหลังสูญเสียคุณพ่อ รับเคยคบซ้อนกับคนที่แต่งงานแล้ว

วันอังคาร ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 17.05 น.

เปิดหัวใจครั้งแรกแบบเปลือยหมดเปลือกของชีวิตของสาวมาดเท่ “แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย” หรือ “แพท วงเคลียร์” (Klear) นักร้องสาวที่มากด้วยความสามารถ ที่ล่าสุดได้มาเปิดใจเล่าเรื่องราวของหัวใจในรายการClub Friday Show ที่แต่ใครจะคิดว่า จากเหตุการณ์การสูญเสียคุณพ่อไป ทำให้ แพท ไม่สามารถหลุดจากคำถามมากมายใน "ใจ" ได้จึงทำ แพท ต้องไขว่คว้าหาความรักมาเพื่อเป็นหลักยึดให้กับตัวเอง แต่ความรักทุกครั้งของ แพท กลับกลายเป็นเส้นทางรักแสนขรุขระที่มีแต่ความทุกข์ใจ

"เราก็มานั่งคิดว่าถึงแม้พ่ออยากให้เราเคารพในการตัดสินของพ่อ แต่ถ้าพ่อให้โอกาสเราหน่อยตอนนั้นมันจะมีหลายเรื่องเลยที่มันจะไม่ค้างมาจนถึงทุกวันนี้ คือ แพทรู้สึกว่าอาจจะเป็นคนที่เป็นแบบคุณพ่อแพทอยู่ตลอดนี้แล้วรู้สึกว่า ทำตัดสินใจเพราะรัก จริงๆแล้วมันมีอีกหลายเรื่องที่อีกฝ่ายหนึ่งเขารู้สึกว่าเดี๋ยวจะบอก แล้วอีกฝ่ายคิดว่าอยากจะขอโทษ อีกฝ่ายคิดว่าเดี๋ยวค่อยกอด แต่เดี๋ยวนั้น มันไม่มามันไม่มี เหมือนที่คุณพ่อคิดว่าตัวเองเข้าห้องผ่าตัดแล้วออกมาพรุ่งนี้เจอกัน สุดท้ายคือมันไม่มี แล้วเราก็รู้สึกว่าอย่าให้คนที่ตัวเองรักต้องพลาดโอกาสแบบที่เราพลาดเลย คือเราอยากจะบอกว่าตอนนั้นเราเป็นเด็กวัยรุ่น เรารู้สึกว่าเราไม่ได้น่ารักกับเขาขนาดนั้น มันเป็นช่วงแบบปี 1,ปี 2, ปี 3 เราไปอยู่เองที่กรุงเทพฯ แล้วเราก็รู้สึกว่าเราเริ่มห่างกับเขา แล้วคุณพ่อเป็นคนแบบเคร่งครัดประมาณหนึ่ง เราก็จะเข้าหาเขาน้อยกว่าคุณแม่ จนถึงทุกวันนี้ ยังรู้สึกว่าอยากคุยอะไรกับเขาเยอะมากเลย แล้วเราโตพอที่จะคุย อยากจะกลับไปขอโทษ คุณพ่อ ก็ไม่ทัน ถ้ามีใครเป็นแบบคุณพ่อเราอยู่ได้โปรดให้โอกาสคนที่เขารักคุณเถอะ"

เมื่อคุณพ่อเสียไปแล้วความสัมพันธ์ของแพทกับคุณแม่ ต้องแยกกันไปอยู่คนละทาง เพราะว่าแตะกันไม่ได้?  "หลายปีมากค่ะ คือ หนูกับคุณแม่สนิทกันมาก จนกระทั่งมาเจอเรื่องคุณพ่อเราจะมีเรื่องเว้นไว้ไม่เล่า คือ เราร้องไห้อยู่ถ้าแม่เห็นแม่จะร้องไห้หนักกว่าจุดนั้นเลยกลายเป็นว่า เวลาเราคิดอะไรเรื่องพ่อเราจะไม่ค่อยโผหาแม่ เพราะเรารู้ว่าตัวเขาเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน"  แล้วถ้าร้องไห้ด้วยกันล่ะ ? "ตอนนั้นแม่ไม่ยอม ตอนนี้เริ่มยอมแล้ว ตอนนี้หลังจากที่กลับมาซึ่งมันเป็นช่วง ตั้งแต่ไปเรียนต่อประมาณ 8 ปีมั้ง หลังจากคุณพ่อเสีย ปรึกษาทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเดียวคิดถึงพ่อ นานๆเราจะยอมพูดกับเขาสักทีเพราะเรารู้สึกว่า เพราะแผลเขาใหญ่กว่าเราอีก เวลาเราเสียใจเวลาเรานึกถึงพ่อ ช่วงนั้นดีที่เรามีวง เพื่อนแล้วก็แฟนค่ะ ซึ่งแฟนเป็นสิ่งที่เราโผไปที่เขาเลยใครก็ตาม ที่เราคบอยู่ตอนนั้นเหมือนเราพยายามเอามาแทนคุณพ่อเลยค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้โอเคเลยสักที" เคยพูดอะไรที่ค้างคาใจกับคุณพ่อหรือยัง? "เคยพูดประมาณว่า ขอโทษที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของพ่อ เหมือนแบบมีช่วงที่เขาอารมณ์ร้อน แต่คิดจริงๆตามไทม์ไลน์คือช่วงที่เขาป่วย แล้วเราดื้อ จะมีครั้งหนึ่งที่เขาพูดขึ้นมาว่าถ้าพ่อตายจะเป็นยังไง แล้วตอนนั้นเราก็โกรธว่าพ่อพูดใส่หนูแบบนี้ได้ยังไง (เริ่มเสียงสั่นจะร้องไห้) แล้ววันนี้เรารู้ เรารู้สึกว่าแบบ ตอนนั้นมันเป็นอย่างนั้นได้ไง  (แพทร้องไห้) คือแบบไม่รู้เหรอว่าพ่อกำลังเจ็บปวดขนาดไหน ที่เขาต้องเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง  อยากขอโทษที่แบบเราเด็กแล้วเราก็เขล่ามากที่ไม่ได้อ่านลึกไปว่า อารมณ์ที่เขาพุ่งใส่เรา เราคิดแค่แบบพ่อพูดแบบนี้ใส่หนูได้ยังไง เราก็พูดไม่ดีกับเขาเราก็เถียงๆแบบเด็กๆก็เลยรู้สึกว่าอยากขอโทษที่ไม่ได้ใส่ใจมากพอ"

เมื่อคุณพ่อจากไปทำให้เราใช้ความรักดึงคนเขามาในชีวิต ในวิธีการอีกรูปแบบหนึ่ง เล่าให้ฟังได้ไหมความรักที่เกิดขึ้นตรงนั้นยังไง? "เราไม่เข้าใจว่าความพุ่งพล่านของเรามันเกิดมาจากเรื่องไหน มันกลายเป็นว่าถ้าใครที่เข้ามาหาเราแล้วตอบเรื่องนี้กับเราได้เราก็ไปคบกับเขา หรือให้เขาเข้ามาในชีวิต อย่างตอนแรกที่แพท คบกับแฟนคือเขาเป็นเพื่อนสนิทค่ะคนนี้เราเรียนด้วยกันตั้งแต่มอปลาย เขาเป็นคนดีมากเลยคนนี้ เราสนิทกัน พอแพท มีเรื่องคุณพ่อเข้ามาในตอนนั้น แล้วแพทไปเจออีกคน คือ แพท กับแฟนตอนที่เรียนคือเรียนกันคนล่ะมหาลัยไม่ได้เจอกันบ่อยมาก แล้วเราก็ไปเจออีกคนผ่านงานก่อน โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะไปกิ๊กอะไรกับเขา แต่เราชอบกันด้วยผลงาน แต่คุยกันไปกันมามันกลายเป็นไม่ใช่งานล่ะ เราไปชอบเขาแล้วเขาก็ชอบเรา"

ตอนนั้นแฟนคนเก่าก็ยังอยู่ ? "ยังอยู่ ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะคบซ้อน เราคิดว่าเหมือนเจอเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่เราชื่นชอบผลงานเขาคุยไปคุยมามันไม่ใช่เรื่องงานแต่จุดนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับมาแต่เรารู้สึกผิดตลอดเวลา จนคนนั้นเขารู้เพราะไม่ได้เพราะเราก็ไม่ได้ปิดบังว่าเรามีแฟน พอเขารู้เขาก็หายไปช่วงหนึ่ง คือเขาเองก็ไม่อยากคุยแล้ว  ส่วนแฟนแพทคือไม่รู้เรื่องเลย แพท ก็กลับมาเจอกับแฟนแพทปกติ เพราะคนนั้นหายไปแต่เราก็รู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่เป็นไร กลายเป็นว่าพอผ่านไปอีกประมาณ 6-7 เดือน เราบังเอิญไปเจอกับเขาอีกที่งาน แล้วเรารู้สึกว่าเราชอบคนนี้ชอบจริงๆจนรู้สึกว่าผิดเกินไปกับแฟน เลยตัดสินบอกเลิกแฟนเหมือนไปสารภาพผิดกับเขาเพราะเขาดีมากสมควรที่จะได้รับเกียรติในการที่เราซื่อสัตย์ว่าฉันผิดเอง เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก็บอกเขาไปตามตรงว่าเราพลาดผิดไป เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าเราชอบความท้าทายด้วยมั้ง แล้วไปคบกับอีกคน คนนี้เขาจะติสท์ๆ ตอนนั้นเราชอบศิลปะด้วยแล้วเขาก็ทำงานสายนี้ มันมีอะไรแบบสนุกสำหรับเรา คุยคบกันได้ 2 ปี เราเจอเกือบทุกวัน เจอกันเที่ยง บางทีมาเจอกันตอนเย็นด้วยมารับกลับบ้าน รักกันมากเลย แต่คือเขาชอบปิดมือถือตอนกลางคืน เราก็โกรธว่าถ้าฉันเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร ตอนนั้นเราก็หาข้ออ้างให้เขาเพราะความติสท์มั้ง จนมีพี่ในวงการศิลปะแบบคนนั้นเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ แต่เขาเข้าใจว่าก็นึกว่า แพท รู้และก็คบนึกว่า แพท จะไม่รู้ ที่วงบอกว่าไม่ถ้า แพท รู้มันจะไม่ยุ่งหรอก ก็เลยสืบก็เลยค้นหาก็เห็นว่าเขาทำงานร่วมกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็ชื่อในงานเขาจะอยู่ร่วมกันตลอด เราเลยถามพอถามเขาเขาก็ไม่ได้โกหกแล้วเขาบอกว่าเขาจะหย่า"

แปลว่าเขาแต่งงานแล้ว ? "ใช่ค่ะ คือพอเรารู้เขาขอเราแต่งงานเลย ขนาดที่เรารู้เรื่องกำลังวุ่นวาย เขาขอเราแต่งงานเลย ตอนนั้นเราก็สัมผัสเขาได้ว่าเขารักเราจริงๆเราก็รู้สึกว่าเราก็รักคนนี้ ตอนนั้นกำลังออกอัลบั้ม 1 เลยคะ ตอนนั้นพอเรารู้เหมือนเราจะไปแล้ว เขาก็ขอเราแต่งงาน แล้วบอกว่าจะหย่าเขาก็เอาแหวนมาให้เราแต่เราก็ยังไม่ได้ไว้วางใจนะตอนนั้น แต่ก็ยังคบต่อนะคะ ตอนนั้น แต่ไม่ได้ไว้ใจในเรื่องนี้ แต่กลับมาทะเลาะกันเรื่องนี้ ตกลงหน่าแล้วหรือยัง หรือยังไง สุดท้ายก็เคยมีไปดูที่คอนโดเขา คือ เขาพาไปดูแต่ก็ยังมีของผู้หญิงอยู่บ้าง ตอนนั้นเราก็ 60-40 คือ 60 เราก็เห็นความพยายามเขานะ แต่อีก 40 เราก็รู้สึกว่าคุณต้องจัดการได้เรื่องนั้น เราก็เป็นนักสืบอีกครั้งหนึ่งเราก็ค้นหาชื่อของเขาทั้งสองคนเราก็เห็นว่าอยู่คอนโดนี้เราก็เลยไปที่คอนโดเขาเลยค่ะ แล้วไปที่ประชาสัมพันธ์ เราก็ถามว่าพี่เขาออกมาหรือยังเราจะเอาของมาให้ เขาบอกว่าพี่ผู้ชายออกไปแล้วแต่พี่ผู้หญิงยังอยู่ เราก็อ้าว !! ไหนบอกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน  เราเลยตัดสินใจขึ้นไปหาผู้หญิงของเขา ยื่นถุงกระดาษให้พี่เขาแล้วบอกว่าฝากให้พี่ผู้ชายหน่อย คือ ที่เราตัดสินใจแบบนั้นเราไม่รู้ว่าเขารู้หรือไม่รู้ แต่เขามีสิทธิ์ที่จะได้รู้ ซึ่งในถุงนั้นคือ ไดอารี่และแหวนที่อยู่ในนั้น แต่วันนั้นเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะไปลาไปเลิกแต่เมื่อคุณไม่อยู่ พี่ผู้หญิงก็ควรที่จะได้รู้สมองวันนั้น คือ ข็อคไปเลยค่ะ ไปนั่งอยู่สวนรถไฟ ขับรถไม่ได้เลยรู้สึกเหมือนโดนหลอก รู้สึกว่าโง่จัง ทำไมไม่รู้ แต่อีกมุมก็รักมากจัง และก็พอหลังจากพี่คนนี้รักพังตลอดเวลา ใครที่เข้ามาซ้อนเรา ณ จุดที่เราเคว้งคว้างเหมือนตกน้ำว่ายน้ำไม่เป็นใครมาก็คว้า บางคนเข้ามาขอดูแลเราในช่วงนั้นก็คบ ชอบหรือเปล่าไม่รู้ ก็กลายเป็นว่าช่วงนั้นทำร้ายคนไปหลายคนมาก"

ส่วนความรักที่ทำเอาวงเกือบแตกเพราะความขี้หึงของแฟนแพท? "มันน่าแปลกเพราะเขาก็อยู่ในสายงานเดียวกันแต่ว่าเขาไม่เคยเห็นด้วย กับงานที่เราทำ" เขาขี้หึง ? "ขี้หึงแบบเราจะไปร้องร่วมกับใครก็ไม่ได้ ร้องเพลงกับใครก็ไม่ได้ คือเราต้องปฏิเสธงานไปเยอะมากเพราะเราไม่อยากทะเลาะกับเขา" แต่วงแพทผู้ชายเต็มเลยนะ ? "เขาก็ไม่ค่อยโอเคค่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนในวงของเรา เขาไม่ได้หึงแฟนในวงแต่เขาจะว่าเราแบบเธอบ้าผู้ชายหรือเปล่า !! เพราะเขาเห็นว่ารอบตัวเรามีแต่ผู้ชาย และ เขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมออกไปร้องเพลงกลางคืน แต่งตัวออกไปทะเลาะกันทุกครั้งที่หนูออกไปทำงาน" แล้วเราโอเคกับความคิดนี้ด้วยเหรอ ? "เพราะเราตั้งเป้าไว้ว่า เราจะรักษาความสัมพันธ์ให้รอด เรารักคนนี้ เราเข้าใจว่าการยอมแล้วทำให้ความสัมพันธ์มันไปต่อได้มันถูก" รับงานพรีเซ็นเตอร์อะไรก็ไม่ได้เลย ? "ก็ไม่ได้รับค่ะ เขาไม่ได้ห้ามนะคะ แต่เขาจะพูดว่าไม่เหมาะสม คุณอย่าดังไปกว่านี้เลยใช้ชีวิตยาก" เราเชื่อเขาด้วยเหรอ ? "ตอนนั้นเราอยากมีคนนี้ในชีวิตตอนนั้น เขาไม่เคยภูมิใจเลยแพทคิดว่านะคะ เพราะสิ่งที่เขาบอกเราเนี้ย เขาบอกว่าเขาหวังดีนะ แต่งตัวก็ต้องแต่งให้เรียบร้อย" ตอนนั้นคือเราเชื่อเขาหมดทุกอย่างเลยเหรอ ? "80 : 20 ค่ะ คือ 80 เราเชื่อเขา 20 คือ ก็รู้สึกเหนื่อย เพราะเขาชอบพูดว่า ผมกำลังทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นอยู่นะ ทุกคนย้อนกลับไปดูประมาณอัลบั้ม 3 ใน Mv ตอนนั้นแต่งตัวเรียบร้อยมาก เอวลอยไม่เห็นเสื้อกล้ามไม่มี เพราะว่าเขาอยากให้เราแต่งตัวเรียบร้อยค่ะ แล้วเราก็ทำตาม"

เรื่องการแต่งตัวยังพอเข้าใจได้แต่เรื่องที่เขาเข้ามาในเรื่องของงานดนตรีที่เป็นชีวิตแพทมาแต่ต้นเขาต้องการให้เราเปลี่ยน เราก็จะเปลี่ยนให้เขาด้วยเหรอ? "มันจะมีบทสนทนาประมาณว่า สุดท้ายคนที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตคือ มันก็จะมีประโยคประมาณนี้ค่ะ คู่สำคัญกว่างานแล้วคือเราก็ฟัง เรื่องนั้นแล้วเราก็เอามาเป็นความเชื่อของเรา เห็นดีด้วยเพราะเราอยากอยู่กับคนนี้ อยากให้ความสัมพันธ์มันรอด เวลาทะเลาะกันเราเป็นคนง้อตลอด แล้วเราก็อยากให้เขารับกับอาชีพของเราให้ได้ และยังคบกับเราต่อ แต่มันทำไม่ได้ค่ะ เขาบอกรักเราน้อยมาก คบกัน 4 ปีบอกรักถึง 2 ครั้งหรือเปล่าไม่รู้ เราก็รู้สึกว่าตอนนั้นเป็นจุดที่เราต้องเลือก ถ้าเราต้องเลือกระหว่างความรักกับวง  แล้วเขาก็พูดกับเราว่าไหนบอกว่าอยากไปเรียนต่อ เพราะวงใช่ไหม เลยไม่ได้ทำสักที เราก็รู้สึกว่าเราอยากจะพิสูจน์อะไรหลายๆอย่างกับเขา ซึ่งเราก็รู้สึกว่าไม่รู้จะพิสูจน์ทำไม แต่เราก็ตัดสินใจตอนนั้นว่าเราจะเลิกทำวง และจะไปเรียนต่อ เพราะช่วงนั้น แพท ยังไม่เข้าใจวิถีของการเป็นนักดนตรีขนาดนั้น เขาก็ถูกในส่วนหนึ่งที่ว่า ชีวิตคือการออกไปเล่นดนตรีกลางคืนแล้วกลับมา ออกไปเล่นแล้วกลับมา หนูเองก็ยังหาเป้าหมายและคุณค่าความชัดเจนของอาชีพนี้ยังไม่เจอ เลยเลิกก่อน ก็บอกวงไปตรงๆว่าเราไม่รู้ว่าเราจะกลับมาทำอีกหรือเปล่าใช้คำนี้ค่ะ แต่ว่าเราอยากไปเรียนต่อ เพราะการไปเรียนต่อป.โท มันคือหนึ่งในความฝันของเราแต่มันก็ไม่ได้ถูกทำสักทีเพราะมันถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ เพราะเราอยากทำวง แต่สุดท้ายวงบอกว่าจะรอ ซึ่งตอนนั้น แพท หานักร้องให้แล้วนะ ว่าน วันวาน คือตอนนั้นเราก็พา ว่าน ไปทัวร์ด้วย เตรียมตัวที่จะเปลี่ยนแล้ว แล้วสุดท้ายแพท ก็ไม่สบายใจในการตัดสินใจของเรา ก็เลยบอกวงแค่ว่ายังอยากทำ แต่วงจะรอหรือไม่รอก็ได้"

ตอนนั้นก็เป็นเรื่องน่าตกใจนะ เพราะมีข่าวว่าวง Klear จะหยุดวงจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ช่วงนั้นก็มีชื่อเสียงแล้วด้วย? "ตอนนั้น คือ เพลง คำยินดี ตอนนั้นมันดังเพลงคนยังจำหน้าเราไม่ได้ แฟนเราไม่อยากให้เราดังเราเลยหดตัวเอง หดในฐานะตัวตน ในฐานะบุคคลเรากลัวเราดัง เพราะเขารู้สึกว่าดังแล้วใช้ชีวิตยาก แล้วเส้นทางนี้เป็นยังไงต่อไม่รู้ แฟนก็ไม่เห็นด้วย มันหลายๆเรื่อง มันเลยทำให้เราตัดสินใจแบบนั้น จุดนั้นเราเลยตัดสินใจว่าไปเรียนแล้วกัน" เขาทำงานวงการเดียวกันกับเราแล้วเขาอยากจะดังไหม? "คิดว่าเขาก็สลับสนตรงนี้อยู่เหมือนกัน แพทรู้สึกว่าพอมองย้อนไป คือความอ่อนแอในตัวเขาเอง ที่เอามาทำลายเราโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน" หรือเขากว่าเราดังกว่า?' "ไม่รู้ค่ะ แต่มีอยู่จุดหนึ่ง เขาจะพูดตลอดเลยว่า หนูจะเป็นแฟนที่ดีมากๆเลยของคนถนัดไปที่ไม่ใช่เขา เขาก็เหมือนบอกเลิก เขาบอกว่าผมไม่ดีสำหรับคุณหรอก เขารู้ แต่ด้วยความที่เราอยากจะประคองความรักของเราไปให้ได้ตลอด ที่ไม่ได้ดูเลยว่าจะไปกันได้ไหม เพราะเรารักมาก แล้วก็รู้สึก ทำยังไงก็ได้ให้รอดให้ได้อยู่กับคนนี้ แต่เขาก็พยายามจะถอย แต่เขาไม่ได้พูดว่าเราเลิกกันเถอะ แต่เขาจะพูดว่าเขาดีไม่พอ แต่จุดที่พังที่สุดเลยคือว่านั้นเราเมา ทะเลาะกันช่วงนั้นเรายังดื่มอยู่ แต่ตอนนี้เรรเลิกดื่มล่ะ แล้วก็ไปบ้านเขาตีสาม นั่งอยู่หน้าบ้านเขาแล้วบอกว่าคุยกันเถอะ แต่ก็เหมือนทุกครั้งที่เราง้อ แต่ครั้งนั้นเราร้องไห้ แล้วคือเขาก็ไม่เปิดประตูสักทีจำได้ว่าผ่านไปเป็นชั่วโมงๆเราไม่ได้โวยวายนะคะ แต่เราคุยกับเขาผ่านโทรศัพท์ เขาอ่านแต่เขาไม่ตอบ เขารู้ว่าเราอยู่ตรงนั้นแล้วบ้านก็มืด ยุงก็กัด แล้วสุดท้ายเขาก็มาเปิดประตูแล้วให้หนูนอนโซฟา แล้วหนูเหมือน zoom out ตัวเองเลยนะคะ มองตัวเองว่าเมื่อกี้เรานั่งอยู่หน้าบ้าน แล้วตัดมาที่เราก็นอนอยู่โซฟาไม่มีผ้าห่มด้วยนะคะ แล้วเราก็บอกตัวเองว่า แพท ทำไมถึงปล่อยตัวเองให้ตกต่ำขนาดนี้ได้ยังไง" 

 

หน้าแรก » บันเทิง