โลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์มามากกว่า 20 ปี กับป้าโน๊ต กฤษ อินสมพันธ์ อดีตผู้บริหารของโมโนฟิล์ม ควบคุม
โปรดักชั่นทั้งหนัง ละคร ซีรี่ย์กว่า 30 เรื่อง เช่น ตำนานสมเด็จพระนเรศวร the series โมโน 29, นางฟ้าล่าผี the series , ภาพยนตร์ sweet boy, เดอะกิ๊ก และอื่นๆอีกมากมาย เหมือนปิดทองหลังพระไม่มีตัวตน เพราะไม่เคยถูกประกาศชื่อชิงรางวัลอะไรเลย ล่าสุด ป้าโน๊ตสุดดีใจ ได้กำกับภาพยนตร์สมใจ กับภาพยนตร์เลี้ยงรุ่น ของค่ายโกลด์ไฟเตอร์ และขึ้นแท่นบริหาร ดูแลฝ่ายผลิตภาพยนตร์ในปีหน้า อีกประมาณ 3-4 เรื่อง

ป้าโน๊ตเผย จากความฝันของกะเทยช่างกล เข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยมีคุณสิน ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องสตรีเหล็ก เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งตอนนั้นป้านโน๊ตเอง ได้รับเชิญเป็นตัวประกอบให้ไปเล่นสตรีเหล็ก เป็นนักแข่งวอลเลย์บอล จากนั้นทำให้ความฝันเฟื่องฟู อยากเข้าสู่วงการบันเทิง

"เริ่มจากทำแคสติ้งภาพยนตร์รับน้องสยองขวัญค่ายบาเรมยูของพี่เพื่อน ภาคภูมิ ตอนนั้นมีพี่ตั๊ว พี่หยี คอยเป็นพี่เลี้ยง จากนั้นได้มีโอกาสขยับเข้ามาอยู่ใน mono film เริ่มจากการทำฝ่าย creative ไต่เต้าทีละขั้น จนไปถึง producer ของ mono ทั้งหมด ได้ร่วมงานภาพยนตร์และซีรี่ย์มากว่า 30 เรื่อง

คนที่ทำให้ป้าโน๊ต มีความรู้ทางด้านภาพยนตร์มีหลายๆท่าน ตัวอย่างคุณบัณฑิต ทองดีช่วยสอนเรื่องการเขียนบทภาพยนตร์ , คุณปรัชญา ปิ่นแก้วช่วยสอนงานบริหารกองถ่าย คุณชายอดัม มรว. เฉลิมชาตรี ยุคล ช่วยสอนงานในธุรกิจกองถ่ายทั้งหมด และยังมีผู้ใหญ่หลายๆท่านที่ช่วยส่งเสริมทำให้เรามีประสบการณ์ในการทำภาพยนตร์อย่างมากมาย เช่นคุณจีรัญ รัตนวิริยะชัย เจ้านายที่แสนดีมากๆตอนอยู่โมโน

วันนี้ป้าโน๊ตรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มากำกับภาพยนตร์อย่างเต็มตัว เรื่อง "เลี้ยงรุ่น" ค่ายโกลด์ ไฟเตอร์ เป็นบริษัทน้องใหม่ของวงการภาพยนตร์ แต่ทีมงานทุกคนต้องบอกเลยว่ามืออาชีพ นอกจากจะได้กำกับภาพยนตร์เรื่องเลี้ยงรุ่นแล้ว ป้าโน๊ตยังได้ดูแลในฝ่ายบริหารการผลิตภาพยนตร์ของโกลด์ไฟเตอร์ในปีหน้า คาดว่าจะมีเปิดกล้องอีก 3-4 เรื่องที่อยู่ในแพลน"

หรือว่าเป็นความฝันสูงสุดหรือเปล่า? "จริงๆแล้วป้าโน้ตบริหารงานภาพยนตร์ ตำแหน่งสูงกว่าผู้กำกับนะ เพราะตอนอยู่โมโน ถ้าโน๊ตเป็นโปรดิวเซอร์ เพราะว่า producer ควบคุมผู้กำกับอีกที แต่การที่ป้าโน้ตมารับกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะว่าสนิทกับเจ้าของค่าย เรารู้จักกันมานานแล้วมากกว่า 20 ปี เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง เขาก็ชวนป้าโน้ตมาช่วยดูแล เพราะเห็นว่าป้าโน๊ตทำงานเกี่ยวกับภาพยนตร์มา 20 กว่าปีแล้ว รู้ทั้งเรื่องการบริหาร การตลาด การผลิต รู้ทุกอย่างในการผลิตภาพยนตร์

กับภาพยนตร์เลี้ยงรุ่น เรื่องนี้ลงทุน ไปเกือบ 20 ล้าน ตั้งแต่ pre production, production และ post production จนถึงการตลาดทั้งหมด ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งเป็น 3 ตอน ตอนไอ้เพื่อนรัก ตอนคิดถึง และ ตอนสัญญามีความหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งหลอน ทั้งตลก ทั้งเศร้า ก็อยากให้ทุกคนไปลองชมดู มีกระแสนบอกว่าหนังเรื่องนี้ตายทีละคนหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าเปล่าไม่มีใครตายทีละคนแต่มันเป็นเรื่องราวของหลังจากที่ทุกคนมาเลี้ยงรุ่น ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรกับชีวิตบ้าง บางคนเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นก่อนที่จะมางานเลี้ยงรุ่น เพราะฉะนั้นคำว่าเลี้ยงรุ่น ไม่ได้แปลว่าเหตุการณ์ในหนังจะต้องเกิดขึ้นในคืนวันเลี้ยงรุ่นเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องราวความรู้สึกความทรงจำของกลุ่มเพื่อนๆ ตอนแรกเราตีความคำว่าเลี้ยงรุ่น คุณจะนึกถึงอะไร หลายคนอาจจะนึกถึงงานปาร์ตี้ นึกถึงงานเลี้ยงรุ่นที่เพื่อนๆเก่ากลับมาเจอกัน แต่ในความรู้สึกของป้าโน้ต กลับคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเพื่อนๆมากกว่า มีโปรแกรมฉายวันที่ 18 กันยายนนี้"

คำว่าป้าโน๊ต กะเทยช่างกลมาจากไหน ? "ป้าโน๊ตก็คือตัวเรา ส่วนกะเทยช่างกล ก็มาจากที่เราเรียนจบช่างกลมาสมัยเรียนปวช หลังจากนั้นได้มาเจอคุณสิน ผู้กำกับสตรีเหล็ก ตัวป้าโน๊ตเองได้เล่นเป็นตัวประกอบในเรื่องสตรีเหล็ก เพราะว่าเราเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล คุณสินมาถ่ายทำที่ลำปาง เราได้เห็นกระบวนการถ่ายทำ การทำงานภาพยนตร์ จากนั้นจึงทำให้เราชอบ และทำให้เราคิดว่านี่แหละคืออาชีพที่เราอยากทำ แต่ตอนที่เรียนช่างกล ตอนนั้นทางครอบครัวไม่มีใครสนับสนุนหรอก แต่เราหนีตามผู้ชายไป ไปเรียนกับเขา รักเขา ไม่ได้อยากเรียนช่างกลเท่าไหร่ แต่พอได้เข้าไปเรียน ป้าโน๊ตก็ได้เป็นราณีในหมู่ผู้ชาย มันก็สนุกไปอีกแบบนึง พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็ได้เปลี่ยนไปเรียนนิเทศศาสตร์"