วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 09:55 น.

ข่าวสังคม

เปิดให้กิน"ฟรี!!" ทั้งทุเรียนและบุฟเฟ่ต์มังสวิรัตินานาชาติต้นตำรับ ที่วังรี รีสอร์ทนครนายก

วันจันทร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 13.22 น.

คึกคักสุดๆ!! ที่วังรี รีสอร์ท นครนายก ในงาน "เฉลิมฉลองมรดกมังสวิรัติ&ทุเรียนอินทรีย์วังรี" เปิดให้กิน"ฟรี!!" ทั้งทุเรียนและบุฟเฟ่ต์มังสวิรัตินานาชาติต้นตำรับ

เมื่อวันเสาร์ ที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ที่วังรีรีสอร์ท หมู่ 12 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก นางกมลทิพ พยัฆวิเชียร กรรมการผู้จัดการวังรี รีสอร์ท เป็นประธานเปิดงา น "เฉลิมฉลองมรดกมังสวิรัติ&ทุเรียนอินทรีย์วังรี" ประจำปี 2565 ซึ่งจัดให้รับประทาน...ฟรี!!!!! ทั้งทุเรียนอินทรีย์และอาหารบุฟเฟ่ต์มังสวิรัตินานาชาติต้นตำรับ... โดยมี นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานรัฐสภา ดร.พีรพล ตริยะเกษม พล.อ.ท.วัชระ ฤคธานี นายไพโรจน์ สังวริบุตร ตัวแทนจังหวัดนครนายก แขกผู้มีเกียรติ ประชาชนทั้งในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร อ่างทอง นนทบุรีและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก สนุกสนาน อบอุ่นและอิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า

นางกมลทิพ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานนี้ว่า เพื่อบอกกล่าวให้ทุกคนรับทราบว่า "นครนายกก็มีทุเรียน" โดยเฉพาะ"ทุเรียนอินทรีย์ในพื้นที่วังรี" ที่พวกเราปลูกมาหลายปีและวันนี้เริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาด โดยที่สวนของวังรี รีสอร์ท ก็มีทุเรียนอินทรีย์ทั้งพันธุ์หมอนทองและพวงมณี ซึ่งนอกจากทุเรียนอินทรีย์แล้วเรายังมีผัก ผลไม้อินทรีย์อีกหลากหลายชนิด ทั้ง เงาะ มังคุด ลองกอง กระท้อน น้อยหน่า ส้มโอ กล้วย เมล่อน มะม่วงนาๆพันธุ์ รวมถึงพืช ผักอินทรีย์ชนิดอื่นๆกว่า20 ชนิด รวมถึงผักเมืองหนาวที่เราปลูกในเรือนเพาะชำ PlantFac. หรือโรงเรือนปลูกผักอัจฉริยะ​ ที่ลดการพึ่งพาแสงแดด​ สายลมตามธรรมชาติและใช้น้ำน้อย เราควบคุมทุกเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคปัญหา จนทำให้พืชผักอินทรีย์ของเราโตและอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และสามารถออกผลผลิตตลอดปี​ ซึ่งผักที่เราปลูกจะมีจุดเด่นไม่เหมือนใคร คือ ปลูกผักรักษาผู้ป่วยหรือผักที่มีวิตามินสูงด้วย

นางกมลทิพ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากปลูกผัก ผลไม้อินทรีย์ออกสู่ตลาดด้วยตัวเอง เรายังไปส่งเสริม สนับสนุน ถ่ายทอดความรู้ในการเพาะปลูก วางแผนและพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับพืช ผัก ผลไม้ หาช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการช่วยแก้ปัญหาผลผลิตที่ล้นตลาดด้วยการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า การให้ความรู้ในการขนส่งเพื่อรักษาและคงความสดใหม่ของพืชผล ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีกินมีใช้ ซึ่งเราทำมาหลายปีแล้ว โดยมีเกษตรกรหลายจังหวัดทั้งในพื้นที่นครนายก ภาคอีสาน และภาคเหนือ ที่หันมาปลูกพืช ผัก ผลไม้อินทรีย์กับเรา 

ุนางกมลทิพ เปิดเผยต่อว่า เราเริ่มทำตั้งแต่เดือน พ.ย.2559 เมื่อในหลวง ร 9. ท่านเสด็จสวรรคต​ เราจึงอยากช่วยชาวเขาซึ่งทำเกษตรในแหล่งต้นน้ำลำธาร ที่เราเรียวว่าเกษตรที่ราบสูงเปลี่ยนจากเกษตรเคมีเป็นเกษตรอินทรีย์​ ตามรอยพระยุคลบาท​ ซึ่งที่ในช่วงปี 2510 พระบาทสมเด็จฯในหลวง ร.9 ได้เปลี่ยนให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น​ มาปลูกกาแฟ​ และดอกไม้เมืองหนาว และเมื่อไม่มีพระองค์ท่าน​ เราจึงคิดทำเพื่อท่านโดยมีเป้าหมายเปลี่ยนจากเกษตรเคมี​ เป็นอินทรีย์ โดยทำโครงการแบบครบวงจร เริ่มจากปลูก​ ขายสด​ แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ลดค่าใช้จ่ายการขนส่ง และเราเป็นผู้จำหน่ายผลผลิตของเกษตรกร สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การพัฒนาตัวเกษตรกรให้เป็นเกษตรกร 4.0 ให้ทุกคนมีรายได้​ เป็นเงินสดไว้ใช้จ่าย โดยเราจะเปิดช่องทางในการให้ความรู้เพิ่มเติมอีก 1 ช่องทาง การให้ความรู้ออนไลน์ ผ่าน www.โรงเรียนเกษตรพาณิชย์ครูแอ๋ว โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในปลายปีนี้

"ที่แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ เราทำจนมีชนเผ่าหลายกลุ่มยอมรับ และเลิกทำเกษตรแบบเคมี แล้วมาทำการเกษตรอินทรีย์กับเรา ยกตัวอย่างที่แม่เกี๊ยะ เชียงใหม่ ปีแรกๆเราไปชักชวนเกษตรกรที่ปลูกกะหล่ำปลีให้มาปลูกแบบอินทรีย์กับเราแต่เขาไม่สนใจมองว่า ผลผลิตออกมาน้อยได้ไม่คุ้มทุน เราจึงไปการันตีราคาและรับซื้อผลผลิตทั้งหมดกับเกษตรกรที่มาปลูกแบบอินทรีย์ โดยช่วงที่เราไปส่งเสริมปลูกกล่ำปลีกำละ 10 บาท เราต้องการจูงใจให้เขาเปลี่ยนแบบอินทรีย์จึงการันตีไว้กิโลกรัมละ20บาท แต่เมื่ผลผลิตออกมาราคากะหล่ำปลีทั่วไปกิโลกรัมละ 3 บาท ก็ต้องจ่ายกิโลกรัมละ 20 บาทตามสัญญา แต่ผู้บริโภคไม่ยอมซื้อกระหล่ำปลีของเราเลยเพราะราคามันต่างจากผักทั่วไปมาก ทำให้เรามีผักที่ไม่ได้เน่าเหม็นฟุ้งอยู่ในบ้านถึง 2 ตัน เราสู้มาแบบนี้รวมไปแล้วเราขาดทุนไปเกือบ 2 ล้านบาท แต่เราก็สู้มาจนกลุ่มชนเผ่าเหล่านั้นหันมาทำเกษตรอินทรีย์กับเรามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรามีศูนย์บรรจุหีบห่อและกระจายสินค้าอยู่ที่นั่น แล้วลำเลียงมาขายที่กรุงเทพฯ" นางกมลทิพ กล่าว

กรรมการผู้จัดการวังรี รีสอร์ท กล่าวอีกว่า สำหรับงานนี้นอกจากแนะนำให้ทุกคนรู้จักทุเรียนอินทรีย์ของวังรีแล้ว งานนี้ยังส่งเสริมให้เราๆหันมาใส่ใจสุขภาพรับประทานพืช ผัก ผลไม้อินทรีย์ที่ปลอดสาร โดยเราจัดให้รับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มังสวิรัตินานาชาติ..ฟรี!!! ซึ่งเราได้ร่วมมือกับ 2 ปรมาจารย์ด้านอาหารมังสวิรัติ คือ อาจารย์ใจฟ้า และป้ายุพาพรรณ ที่มาลงมือปรุงอาหารมังสวิรัติหลากหลายเมนูด้วยตัวเอง พร้อมสาธิตการทำอาหารหลายเมนูให้ชมและทานกันสดๆ เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับทุเรียนอินทรีย์ของวังรี และอิ่มอร่อยแบบอิ่มบุญกับอาหารมังสวิรัติ

"ที่ใช้ชื่องานว่า "เฉลิมฉลองมรดกมังสวิรัติ" เพราะพี่ได้รับโอกาสที่ไม่เคยคิดมาก่อน คือ การได้รับมรดกมังสวิรัติจากอาจารย์ใจฟ้า​​ และป้ายุพาพรรณ​ เจ้าของร้านหัวใจมังสวิรัติ ปรมาจารย์ผู้สอนอาหารมังสวิรัติที่มีชื่อเสียง​ของประเทศให้เป็นผู้ดำเนินการสืบทอดการสอนของสถาบันอาหารมังสวิรัติ และยังมอบร้านหัวใจมังสวิรัติให้สืบทอดการจำหน่าย​อาหารมังสวิรัติ​ เครื่องปรุง​ และวัตถุดิบทั้งหมด​เพื่อให้อาหารมังสวิรัติตาม​เมนูอาหารไทยที่แสนอร่อยอยู่คู่ประเทศไทยและคู่โลกของชาวมังสวิรัติตลอดไป" นางกมลทิพ กล่าว

นางกมลทิพ บอกอีกว่า การยกมรดกและเคล็ดลับในการปรุงอาหารให้กับคนที่ไม่ใช่ลูกหลานครั้งนี้​ นับเป็นปรากฎการณ์ในยุค New​ Normal​ ที่เจ้าของสูตรจะทิ้งวิชาความรู้ให้เติบโตไปในโลกกว้างเพื่อมวลมนุษยชาติจะมีสุขภาพที่ดีคู่กับความอร่อยจากประเทศไทย

สำหรับแนวทางการตลาดสำหรับผัก ผลไม้อินทรีย์จากสวนวังรี รีสอร์ทและเครือข่ายนั้นนางกมลทิพ ยังเปิดเผยว่า จัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยออนไลน์ขายผ่าน Facebook: Wangree Clean และหัวใจมังสวิรัติ ส่วนออฟไลน์มีหน้าร้านอยู่ที่ "ร้านหัวใจมังสวิรัติ" ศูนย์รวมวัตถุดิบปรุงอาหารมังสวิรัติจากทั่วประเทศและอาหารมังสวิรัติปรุงสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนนวมินทร์ปากซอยนวมินทร์ 50 แขวงบึงกุ่ม เขตนวมินทร์ กรุงเทพฯ

กรรมการผู้จัดการวังรี รีสอร์ท กล่าวอีกว่า นอกเหนือวัตถุประสงค์กล่าวมาแล้ว งานนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งหลังจากที่ทุกคนเจอกับวิกฤตโควิด 19 มากว่า 2 ปี เราจึงถือโอกาสชักชวนทุกท่านให้ขับรถออกจากบ้านมาสูดอากาศบริสุทธิ์ และทานอาหารมังสวิรัตที่อร่อยและปลอดภัย 

สำหรับบรรยากาศในงาน"เฉลิมฉลองมรดกมังสวิรัติ&ทุเรียนอินทรีย์วังรี" ประจำปี 2565 ไปอย่างคึกคักตั้งแต่ 09.00 น. โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน ซึ่งทุกคนได้มีโอกาสลิ้มลองความอร่อยของทุเรียนอินทรีย์จากสวนวังรี รีสอร์ทและทานอาหารมังสวิรัตินานาชาติ กว่า 30 เมนู และในภาคบ่ายทางวังรี รีสอร์ทได้เปิดให้เข้าชมสวนผลไม้และสวนผักด้วย โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศการเก็บผลไม้สดๆจากต้นมารับประทานเองแบบ เดินไป กินไป ทั้ง เเงาะโรงเรียนอินทรีย์ที่มีรสหวาน​ กรอบเนื้อแห้งและกำลังสุกเต็มต้น​ รวมทั้งลองกองรสหวานฉ่ำมีรสเปรี้ยวแทรกนิดๆเป็นที่พออกพอใจของทุกคน 

และก่อนจบงานโบกมือลาในวันนั้น นางกมลทิพ บอกกับทุกคนว่า "ขอแจ้งให้ทุกท่านใส่ปฏิทินกันลืมล่วงหน้าว่า ต้นเดือนมิถุนายนในปีหน้า 2566 เราจะมาทานทุเรียนฟรี!!!กันที่วังรี รีสอร์ทเหมือนเดิม"