มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ มอบทุนประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 รวมมูลค่า 2,525,100 บาท สนับสนุนการศึกษา งานวิจัย และโครงการด้านเภสัชศาสตร์

มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2559 เพื่อมอบทุนสนับสนุนการศึกษา งานวิจัย และโครงการด้านเภสัชศาสตร์ต่างๆ โดยเริ่มต้นจากความมุ่งมั่นของคุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ บุตรชายเพียงคนเดียวของ เภสัชกร ดร.เกษม และคุณทับทิม ปังศรีวงศ์ เพื่อสืบสานปณิธานและตอบแทนพระคุณของบิดา หนึ่งในปูชนียบุคคลผู้ทุ่มเทเพื่อพัฒนาวิชาชีพเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย

มูลนิธิฯ ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนเริ่มต้น 100 ล้านบาท โดยมีแผนมอบทุนทั้งหมดภายใน 20 ปี และจัดมอบเป็นประจำทุกปี ปีละครั้ง แบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่ ทุนการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์สำหรับนักศึกษาที่ตั้งใจเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์, ทุนอบรมวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรม, ทุนสนับสนุนการวิจัย, ทุนสนับสนุนการประชุมวิชาการ และทุนสนับสนุนการพัฒนาการประกอบวิชาชีพด้านเภสัชกรรม รวมถึงการอบรมระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ และทุนสนับสนุนด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเภสัชศาสตร์

คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ ได้จัดมอบทุนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยไม่มีข้อผูกมัด โดยในปี พ.ศ.2568 ได้จัดพิธีมอบทุนให้แก่นักศึกษาและบุคลากรด้านเภสัชศาสตร์ รวมทั้งทุนสนับสนุนโครงการงานวิจัย จำนวน 57 ทุน/โครงการ รวมเป็นเงิน 2,525,100 บาท ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 ผ่านระบบ Zoom Webinar และโอนเงินทุนสนับสนุนฯ เข้าบัญชีธนาคารของผู้ที่ได้รับทุนทุกท่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับมอบทุน

คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ ย้ำถึงเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ที่ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่มั่นคงและเข้มแข็งให้กับวงการเภสัชศาสตร์ของประเทศไทย “หนึ่งในภารกิจสำคัญของมูลนิธิฯ คือ การส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม ที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มูลนิธิฯ ต้องการผลักดันให้ผู้ศึกษาด้านเภสัชศาสตร์ในประเทศไทยมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และการวิจัยที่ทันสมัย เพื่อนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปใช้พัฒนาการดูแลสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงการคิดค้นยาที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยและประชาชนในยุคปัจจุบัน รวมทั้งปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามชีวิตประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน และการอุบัติของโรคใหม่

“มูลนิธิฯ หวังว่าทุนสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ที่มอบให้ในวันนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ การเข้าถึงทรัพยากร และการสนับสนุนที่จำเป็นต่อการดำเนินงานวิจัยที่สำคัญ ทั้งในการค้นพบวิธีรักษาแบบใหม่ การพัฒนายา การออกแบบวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผล และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในอนาคตโดยฝีมือคนไทย การสนับสนุนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพของประชาชนไทย แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพเภสัชศาสตร์ของประเทศให้ก้าวหน้า มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความท้าทายทางการรักษาพยาบาลในโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง” 

ด้าน เภสัชกร ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จอมจิน จันทรสกุล กรรมการบริหารมูลนิธิฯ และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง  ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับมอบทุนฯ ในปี 2568 นี้ว่า “ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับทุนทุก ๆ ท่าน ทั้งที่มารับทุนด้วยตนเอง และที่ทางมูลนิธิฯ จะจัดส่งไปให้

“มูลนิธิฯ จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อร่วมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพวิชาชีพเภสัชกรรมทุกสาขาให้มีความเจริญก้าวหน้า โดยมุ่งเน้นพัฒนาการศึกษา ซึ่งรวมถึงการให้ทุนการศึกษาแก่นิสิตนักศึกษาที่ตั้งใจเรียนและมีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ การส่งเสริมสนับสนุนเงินทุนในการวิจัยและพัฒนาความรู้ พัฒนาศักยภาพของเภสัชกร การร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ และเพื่อให้เภสัชกรรุ่นหลังได้รับทราบถึงประวัติความเป็นมา และปณิธานของเภสัชกรรุ่นบุกเบิก ซึ่งรวมทั้งท่านอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ด้วย

“ผมขอถือโอกาสนี้ ขอบพระคุณท่านประธานมูลนิธิฯ กรรมการบริหาร และคณะอนุกรรมการฯ ที่ได้ให้ความกรุณาช่วยเหลือในการดำเนินงานของมูลนิธิ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้ด้วยดีเสมอมา และขอให้ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนทุนทุก ๆ ท่านใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเพื่อตัวท่านเองและเพื่อความก้าวหน้าของวิชาชีพเภสัชกรรมของประเทศไทยต่อไป”

พิธีมอบทุนการศึกษา งานวิจัย และโครงการด้านเภสัชศาสตร์ ประจำปี 2568 มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์  นำโดย คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยกรรมการบริหารมูลนิธิฯ คุณวัลลิยา ปังศรีวงศ์, ภก.ศ.(พิเศษ) ดร.จอมจิน จันทรสกุล และ คุณธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ ร่วมมอบทุนสนับสนุนการศึกษา งานวิจัย และโครงการด้านเภสัชกรรม ยอดเงินรวม 2,525,100 บาท

ธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ (คนที่ 6 จากซ้าย), ภก.ศ.(พิเศษ) ดร.จอมจิน จันทรสกุล (คนที่ 7 จากซ้าย) วัลลิยา ปังศรีวงศ์ (คนที่ 5 จากซ้าย) และ ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ (คนที่ 4 จากซ้าย)  พร้อมคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมมอบทุนการศึกษา งานวิจัย และโครงการด้านเภสัชศาสตร์ ประจำปี 2568

ข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์

เกียรติประวัติ เภสัชกร ดร.เกษม ปังศรีวงศ์ “อาจารย์เกษม” เภสัชกรไทยคนแรกที่สำเร็จปริญญาโทเภสัชศาสตร์ (Master of Science in Pharmacy) จาก Philadelphia College of Pharmacy and Science ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในวิชาชีพเภสัชศาสตร์ และมุ่งมั่นในการวางรากฐานพร้อมบูรณาการวงการเภสัชกรรมแบบครบวงจร  อีกทั้งยังสร้างคุณูปการต่อวิชาชีพเภสัชกรรมในหลากหลายด้าน อาทิ เป็นผู้สร้างรากฐานการจัดการเรียนการสอนนิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479  ในขณะนั้น อาจารย์เกษมได้ร่วมกับ ศ.ชลอ โสฬสจินดา และเภสัชกรอาวุโสบางท่าน เข้าพบ ดร.ตั้ว ลพานุกรม เพื่อขอให้ท่านช่วยติดต่อกับรัฐบาล พร้อมกันนั้นได้ยื่นหนังสือถึง จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เพื่อขอปรับปรุงแผนกอิสระเภสัชกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เจริญทัดเทียมกับต่างประเทศ

จากหลักสูตรเภสัชศาสตร์เดิมซึ่งใช้เวลาเรียน 3 ปี เรียนอยู่ในห้องขนาดเล็ก  2 ห้อง ติดกับห้องผสมยาและจ่ายยาของโรงพยาบาลศิริราช และผู้จบการศึกษาได้รับเพียงประกาศนียบัตร ก็สามารถขยายหลักสูตรการศึกษาเป็น 4 ปีจนสำเร็จ โดยที่ผู้เรียนจะได้รับวุฒิปริญญาเภสัชกรรมศาสตร์บัณฑิต ขอใช้สีเขียวมะกอกเป็นสีประจำแผนก  และก่อสร้างตึกเรียนตึกแรกของแผนกเภสัชกรรมศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาจารย์เกษมเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างหลักสูตรวิชาเภสัชอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโรงงานผลิตยาระดับอุตสาหกรรม  ท่านจึงเลือกศึกษาวิชาเภสัชอุตสาหกรรมเพื่อผลิตเภสัชกรที่สามารถดำเนินการผลิตยาขั้นอุตสาหกรรมได้ แม้ว่าประเทศไทยในเวลานั้นยังไม่มีโรงงานผลิตยาในระดับอุตสาหกรรมได้แม้แต่แห่งเดียว อย่างไรก็ตาม ท่านอาจารย์จำลอง สุวคนธ์ ได้เป็นผู้จัดทำหลักสูตรและสอนวิชาเภสัชอุตสาหกรรมแทน เนื่องจากอาจารย์เกษมต้องรับภาระดำเนินธุรกิจของครอบครัวแต่ท่านก็ยังเป็นอาจารย์พิเศษสอนแผนกอิสระเภสัชกรรมศาสตร์มาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการจัดการเรียนการสอนนิสิตเภสัชศาสตร์ของประเทศไทย อีกทั้งยังมองเห็นการณ์ไกลโดยได้ร่วมลงทุนกับบริษัทผลิตยาชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างโรงงานเมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม (ประเทศไทย) ขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นโรงงานอุตสาหกรรมยาขนาดใหญ่แห่งแรก ๆ ของประเทศไทยที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศ และนับเป็นบริษัทแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จากรัฐบาล นอกจากนี้ อาจารย์เกษมได้พยายามสร้างความยอมรับและเครือข่ายวิชาชีพเภสัชศาสตร์กับวิชาชีพอื่น ๆ ในแวดวงสาธารณสุข โดยได้ร่วมกับคุณพิชัย รัตตกุล ก่อตั้งสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (TPMA) และได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมคนแรกในปี พ.ศ. 2512  เพื่อยกระดับวิชาชีพและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างผู้ผลิตและจำหน่ายผลผลิตเภสัชกรรม  รวมทั้งได้มีบทบาทช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย อาทิ ดำรงตำแหน่งนายกเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในปี พ.ศ. 2489 มีส่วนช่วยงานสมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2494 - 2519  ดำรงตำแหน่งอุปนายกสมาคมปราบวัณโรคฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2503 - 2507 และเป็นกรรมการมูลนิธิวิจัยประสาทในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2507 โดยดำรงตำแหน่งกรรมการมูลนิธิยาวนานกว่า 10 สมัย ฯลฯ

ด้วยคุณงามความดีที่ท่านได้สั่งสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน อาจารย์เกษมได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานปริญญาเภสัชศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ในปี พ.ศ. 2497 และยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบญจมาภรณ์ช้างเผือก ในปี พ.ศ. 2499 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ในปี พ.ศ. 2502  รวมถึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก ในปี พ.ศ. 2505

มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ เปิดให้นักศึกษาและเภสัชกรที่สนใจยื่นเสนอโครงการเพื่อขอรับทุนด้านเภสัชศาสตร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2569 เป็นต้นไป  ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ doctorkasem-foundation.org หรือติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ 0-2253-0178 – 81 ต่อ 308 หรืออีเมล admin@doctorkasem-foundation.org