นายอัญชลิน พรรณิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TQM) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายในการเติบโตอย่างตอเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ Growth Engine ใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. Strenghten Core Business ชูจุดแข็งในการทำประกันภัยรถยนต์ 2.การเพิ่มช่องทางประกันภัยแบบใหม่ๆ 3.การสร้างการเติบโตในช่องทางการควบรวมกิจการ (M&A) ซึ่งจะขยายไปยังประเทศกัมพูชา และ 4.TQM InsurTech การสร้างการเติบโตกบความร่วมมือไปสู่ InsurTech เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ในส่วนแนวโน้มของธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 นี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนงานที่ได้วางไว้ ทั้งในส่วนของ Organic Growth และ Inorganic Growth เช่น การเตรียมตั้งบริษัทรับเคลมประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ เพื่อรองรับตลาดประกันสุขภาพภายในประเทศและตลาดผู้อายุ รวมถึงบริษัทยังมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ นอจากนี้ยังมีในการร่วมมือกับบริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ข้อมูเชิงลึก

 

 

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในกิจการ บริษัท ทีโอ 2020 จำกัด จำนวน 49,998 หุ้น ราคา 100 บาท/หุ้น โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99 % วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท Asia Investment and Financial Services Co., Ltd. (AIF) ในนามบริษัท BIC Insurance จำกัด เพื่อเปิดตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีสัดส่วน 49% ทั้งนี้หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จและโอนหุ้นทั้งหมดได้ภายในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าในปีแรกที่เริ่มดำเนินการจะมีเบี้ยประกันภัย 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

“การเข้าลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการต่อจิ๊กซอว์ก้าวสู่การเป็น “Digital Insurance Broker” อันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเป็นการทำการขยายตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเบื้องต้นกำลังดำเนินการเปิดกิจการที่ประเทศกัมพูชาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถสร้างการเติบโตและผลักดันเบี้ยประกันภัยแตะ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569”นายอัญชลิน กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 169.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือน มีเบี้ยประกันภัย 12,975 ล้านบาท รายได้รวม 2,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.6% กำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43.7% ซึ่งมาจากยอดขายประกันภัยเกือบทุกประเภทเติบโตขึ้นในทุกช่องทาง อย่างไรก็ตามในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15,000 ล้านบาท