เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 สื่อออนไลน์ของเมียนมาเปิดเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ยกเลิกกำหนดอายุเกษียณของผู้บัญชาการกองทัพที่ 65 ปี ซึ่งจะเปิดทางให้นายพลมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้

เว็บไซต์ข่าวอิรวดีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัฐบาลทหารเมียนมาได้ยกเลิกการจำกัดอายุของผู้บัญชาการทหารสูงสุดและรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายพลมิน ออง หล่าย ก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.          

ทั้งนี้ นายพลมิน อ่อง หล่าย จะมีอายุครบ 65 ปีในเดือนก.ค.นี้  นายพลมิน อ่อง หล่าย เข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย และเปลี่ยนจากการปกครองของทหารไปสู่การปกครองของพลเรือน
          
นายพลมิน อ่อง หล่าย ก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซูจี และสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันเผด็จการทหารเมียนมาได้ประกาศไม่จ่ายเงินเดือนกับทหารที่สนับสนุนม็อบ

นักข่าวญี่ปุ่นแฉเผด็จการทหารเมียนมา"ซ้อมทรมาน"นักโทษการเมือง

นายยูกิ คิตะซุมิ ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นที่ถูกทางการเมียนมาคุมขังในเรือนจำอินเส่งนครย่างกุ้ง เพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน เผยกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียวว่า เขาได้พบกับนักโทษการเมืองหลายคนที่ถูกย้ายตัวจากเรือนจำกองทัพมาอยู่ที่อินเส่ง
          
"พวกเขาร้องขอให้ผมช่วยส่งต่อข้อความ เพราะถึงแม้พวกเขาจะได้รับการปล่อยตัว แต่ไม่มีทางได้พูดจาอย่างอิสระ การทรมานที่ผมได้ยินบ่อยๆ มีทั้งถูกปิดตาโดยเอามือไพล่หลังใส่กุญแจมือไว้ แล้วถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นคอนกรีต ผมได้ยินมาด้วยเรื่องที่ผู้คุมดื่มสุราแล้วทรมานนักโทษ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผู้คุมสั่งให้นักโทษเลือกระหว่างมีดกับปืน ถ้าคุณเลือกปืน เขาก็เอาปืนจ่อหัวแล้วสอบสวนต่อ"
          
เหล่านักโทษยังบอกกับนายคิตะซุมิด้วยว่า ถ้าปฏิเสธข้อกล่าวหานักโทษก็จะถูกทุบด้วยไม้ บางครั้งก็ถูกสอบสวนยาวนานไม่ได้นอน ขณะที่ผู้คุมเปลี่ยนเวรกันได้นักโทษไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องน้ำ หากทนไม่ไหวขับถ่ายออกมาก็เป็นเหตุผลให้ถูกทุบตีอีก
          
สำหรับนักข่าวญี่ปุ่นรายนี้ ถูกจองจำในห้องขังเก่าสมัยอาณานิคมขนาด 4 คูณ 2 เมตรและไม่ถูกซ้อมทรมาน เขาถูกจับกุมครั้งแรกในเดือน ก.พ. แต่ได้รับการปล่อยตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นถูกจับอีกครั้งในเดือน เม.ย.พร้อมกับผู้สื่อข่าวอื่นๆ อีกหลายสิบคน เขาถูกตั้งข้อหาเผยแพร่เฟคนิวส์ แต่ถูกถอนฟ้องเมื่อได้ปล่อยตัว
          
สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวีของทางการรายงานว่า ตัดสินใจปล่อยตัวนายคิตะซุมิเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีกับญี่ปุ่น การปล่อยตัวสอดคล้องกับที่ญี่ปุ่นประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านอาหารฉุกเฉินแก่เมียนมามูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ผ่านโครงการอาหารโลก หลังจากระงับความช่วยเหลือใหม่ทั้งหมดแก่เมียนมาแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าอาจระงับโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ด้วย
          
นายคิตะซุมิ เรียกร้องให้รัฐบาลโตเกียวใช้ความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานกับกองทัพเมียนมาช่วยเหลือนักโทษการเมือง
          
"ว่ากันว่ามีนักโทษการเมืองถูกควบคุมตัวอยู่กว่า 4,000 คน ผมหวังว่าพลังที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ให้ปล่อยตัวผมจะถูกใช้เพื่อประชาชนในเมียนมา"นักข่าวญี่ปุ่นกล่าวทิ้งท้าย

รัฐบาลเอกภาพเมียนมาส่งเสียงถึงนานาชาติสนับสนุนเป็นรัฐบาลหนึ่งเดียวของพม่า 
          
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า เกิดจากการรวมตัวของนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งในปี 2020 มีภารกิจหนักในการรณรงค์ให้นานาชาติรับรองสถานะว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม และปฏิเสธสภาบริหารแห่งชาติที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหาร โดยทั่วไปแล้ว การให้การยอมรับว่ารัฐบาลใดเป็นตัวแทนของประเทศใดประเทศหนึ่ง มักทำกันโดยการประกาศของนานาชาติว่าให้การรับรองรัฐบาลนั้นๆ  สิ่งที่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติจะต้องทำคือ หามติจาก 9 ใน 15 ชาติที่เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่ให้การยอมรับรัฐบาลทหาร เพื่อทำให้ที่นั่งในสหประชาชาติของพม่าว่างลง 

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติประกาศจัดตั้งกองทัพแห่งสหพันธ์ขึ้นมา แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่ากองกำลังอยู่ที่ไหน มีจำนวนเท่าใด มีความเป็นไปได้ว่าจะแสวงหาจากกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งน่าจะมีอยู่ประมาณ 80,000 นาย แต่กระจัดกระจายตามฐานที่มั่นของตัว ซึ่งคงจะผนึกกำลังในการต่อสู้กับตัตมาดอว์ได้ยาก ไม่นับว่าจำนวนและแสนยานุภาพยังเทียบกันไม่ได้