วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 18:53 น.

ต่างประเทศ

อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ชี้ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลภาคธุกิจทั่วโลก

วันพุธ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567, 17.44 น.

อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ชี้ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลภาคธุกิจทั่วโลก

 

อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) เผยรายงานประเมินแนวโน้มความเสี่ยง ประจำปี 2567 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลึกจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีต่อธุรกิจทั่วโลก โดยสภาพอากาศที่รุนแรงอาจทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงักลง ขณะเดียวกันส่งผลถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงทางด้านสุขภาพจิตและการขาดงานของพนักงาน

 

รายงานฉบับนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความตระหนักรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญของปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและมีผลต่อการดำเนินงาน ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

นพ.จามร เงินจารี ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มทางการแพทย์ว่า ทุกวันนี้ สภาพอากาศเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพอากาศที่แย่ลง การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ ไปจนถึงปัญหาสุขภาพจิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ในความเป็นจริง มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คนเราเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ขณะที่รูปแบบของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปยังก่อให้เกิดการอุบัติและการแพร่ระบาดของโรคที่มีแมลงเป็นพาหะในพื้นที่ที่ไม่เคยได้รับผลกระทบมาก่อน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้คน ก่อให้เกิดความหวาดระแวงเรื่องสภาพอากาศและภาวะซึมเศร้าในระยะยาวได้

 

สราวุฒิ ธัมจุล ผู้จัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ให้ความคิดเห็นว่า องค์กรต่าง ๆ ควรคำนึงถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว โดยการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถรับมือกับพายุหรือปัญหาได้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่หลายฝ่ายกังวล แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรื่องนี้ยังเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคคลและบริษัทต่าง ๆ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความตึงเครียด ความเปราะบาง และความท้าทายในการดำเนินงานที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้นอย่างมาก โดยผลกระทบที่สะสมมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจจุดชนวนเหตุการณ์ความไม่สงบ ความรุนแรง และปัญหาความมั่นคงในระดับสูงได้ อีกทั้งยังทำให้สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจสังคมที่มีอยู่เดิมขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น

มาตรการ 5 อันดับแรกสำหรับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปกป้องบุคลากร ได้แก่

1.พัฒนาแผนจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนกลยุทธ์ในการบรรเทาผลกระทบและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมทั้งองค์กร โดยอาศัยความเชี่ยวชาญที่หลากหลายของแต่ละส่วน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

3.ยกระดับระเบียบด้านความปลอดภัยและเร่งเตรียมความพร้อมทางการแพทย์ เมื่อเกิดสถานการณ์หรือความผันผวน

4. ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพจิตแก่พนักงาน หลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง (PTSD)

5.ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและข้อมูลภายนอก: รู้จักหาข้อมูลเชิงลึกและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความเปราะบางของสภาพอากาศ พร้อมศึกษาวิธีการที่ดีที่สุดในการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ