วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568 16:54 น.

ต่างประเทศ

"ฮุน เซน" บล็อกคนไทยอีกแล้ว! หลังโพสต์กดดันไทยส่งนักเคลื่อนไหว เขมรไม่หวั่นไทยเล็งตัดไฟตามแนวชายแดน

วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.21 น.

"ฮุน เซน" บล็อกคนไทยอีกแล้ว! หลังโพสต์กดดันไทยส่งนักเคลื่อนไหว เขมรไม่หวั่นไทยเล็งตัดไฟตามแนวชายแดน ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชาสั่งยกระดับรับมือสถานการณ์ชายแดน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia”  ปิดกั้นไม่ให้คนไทยเห็น  อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดการมองเห็นไปเมื่อวันจันทร์ (9 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย. 68) ก่อน “สมเด็จฯ ฮุน เซน” จะบล็อกไอพี เจ้าตัวได้มีการโพสต์ภาพประกาศสำนักงานตำรวจกัมพูชาล่าตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านที่ไปกบดานอยู่ในประเทศไทย พร้อมท้าหากไทยไม่ได้สมคบคิดกับบุคคลดังกล่าว ก็ให้ทางการไทยส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านให้กับกัมพูชานำตัวไปดำเนินคดี

เขมรไม่หวั่นไทยเล็งตัดไฟตามแนวชายแดน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่านายชุม ซุนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา แถลงว่า ในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องชายแดนกับไทย กัมพูชายังคงยึดมั่นจุดยืนเดิมอย่างแน่วแน่ นั่นคือ การร่วมกันจัดทำรังวัดและปักปันเขตแดน ผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ( เจบีซี ) และเป็นไปตามข้อตกลงร่วมระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะบันทึกความเข้าใจ ที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2543 ( เอ็มโอยู 2543 )

ขณะเดียวกัน กัมพูชายึดมั่นการแก้ไขปัญหาโดยใช้กลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ไอซีเจ ) หรือศาลโลก และยืนยันจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจบีซีตามกำหนดการเดิม คือที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้

เกี่ยวกับการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนของทางการไทย ซึ่งรวมถึงการจะตัดกระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต โฆษกกระทรวงกาต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจุดยืนของกัมพูชา ในเรื่องที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด และเตือนว่า การใช้มาตรการกดดันทางสาธารณูปโภค มีแต่จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศทวีความตึงเครียด 

รัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา สั่งยกระดับรับมือสถานการณ์ชายแดน
 
สื่อกัมพูชารายงานว่า “ ซอร์ ซกคา “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน สั่งการณ์ให้มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นบริเวณแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย

รัฐมนตรี ซอร์ ซกคาเตือนว่า “เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นของสถานการณ์ตามแนวชายแดน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการเผชิญหน้าทางอาวุธ”
เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทยกัมพูชา จึงกำหนดมาตรการเร่งด่วนและครอบคลุมสำหรับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดน ได้แก่:

• เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราแนวชายแดน: กำลังพลทุกหน่วยต้องเฝ้าติดตามและจดบันทึกพฤติกรรมฝ่ายไทยที่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของชายแดน หรือฝ่าฝืนบันทึกความเข้าใจปี 2000 ว่าด้วยการปักปันเขตแดน

• รักษาความสัมพันธ์อันสงบ: ให้หน่วยงานท้องถิ่นประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายไทยเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการดำเนินการเกินขอบเขตอำนาจโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลส่วนกลาง

• ควบคุมการผ่านแดนอย่างเข้มงวด: ห้ามใช้ช่องทางข้ามแดนที่ไม่ได้รับอนุญาต และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด

• คุ้มครองชาวกัมพูชาในไทย: รัฐบาลเตรียมแผนอพยพประชาชนกลับประเทศในกรณีฉุกเฉิน พร้อมทั้งขอให้ประชาชนงดเว้นการเดินทางข้ามแดน หากไม่จำเป็นอย่างยิ่ง

• เตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน: รวมถึงการเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว การจัดหาเวชภัณฑ์และสิ่งของยังชีพ และการวางระบบอพยพที่เป็นระบบ

• จัดตั้งศูนย์รายงานตลอด 24 ชั่วโมง: เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด เทศบาล และอำเภอ ต้องรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเป็นปัจจุบัน

• ควบคุมข้อมูลและข่าวสารสาธารณะ: เพื่อป้องกันข่าวลือและการปลุกปั่นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยจะมีการดำเนินคดีต่อผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือสร้างความแตกแยก

• ห้ามทำข้อตกลงระดับท้องถิ่นกับฝ่ายไทย: หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกระทรวงมหาดไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา ยังแสดงความกังวลต่อพฤติกรรมฝ่ายไทยที่ดำเนินการฝ่ายเดียว เช่น การเปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีและสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคง รวมถึงส่งผลกระทบต่อการค้าและการเดินทางของประชาชน
 

หน้าแรก » ต่างประเทศ