"ฮุน มาเนต" ลั่นกัมพูชาจะเปิดตอบภายใน 5 ชั่วโมง หลังจากไทยยอมเปิดด่านทั้งหมดตามปกติ เตือนหยุดปลุกกระแสรักชาติ-กดดันทางเศรษฐกิจ ขณะที่ชาวกัมพูชา กว่า 100 คน ลุกฮือประท้วง ร้องขอรัฐบาล "ฮุน มาเนต" เห็นใจเปิดด่านรับชาวบ้านที่ติดอยู่ฝั่งไทยกลับภูมิลำเนา

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในการปิดการประชุมคณะกรรมการกลางของสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา (UYFC) ณ จังหวัดเสียมราฐว่า "ผมขอประกาศตรงนี้ว่า เมื่อกัมพูชาปิดจุดผ่านแดนแล้ว จะไม่มีการเปิดเป็นบางจุดตามที่ฝ่ายไทยต้องการ จุดผ่านแดนจะยังคงปิด จนกว่าไทยจะยอมเปิดทุกจุดพร้อมกันและครบถ้วน เหมือนกับที่เป็นก่อนวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา กัมพูชาจึงจะพิจารณาเปิดบ้าง ขอให้เข้าใจให้ชัด"

ฮุน มาเนต ย้ำว่า กัมพูชาไม่มีนโยบายเล่นเกมหรือดำเนินการแบบสองมาตรฐาน เมื่อรัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจเรื่องใด ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด เราไม่ต้องการเล่นเกมกับเพื่อนบ้าน แต่ถ้าเพื่อนบ้านจะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นการใช้กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจหรือปลุกกระแสรักชาติ กัมพูชาจะไม่อยู่เฉย

ฮุน มาเนต ระบุว่าต้นตอของกระแสรักชาติในกัมพูชาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ได้เริ่มจากรัฐบาลกัมพูชา แต่เป็นผลจากการกระทำของฝ่ายไทย โดยเฉพาะการปิดจุดผ่านแดนฝ่ายเดียวที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และการใช้ภัยคุกคาม เพื่อกดดันกัมพูชา ซึ่งทั้งหมดนี้ยิ่งปลุกกระแสรักชาติในกัมพูชาให้รุนแรงขึ้น พร้อมกล่าวหาว่าไทยฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายในประเทศ ทั้งยังใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจและการทหารต่อกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังย้ำด้วยว่า กัมพูชาจะไม่เจรจากับไทยเรื่องการเปิดจุดผ่านแดน เพราะไทยเป็นฝ่ายที่ปิดก่อน ดังนั้นไทยต้องเป็นฝ่ายเปิดก่อน หากไทยยอมเปิด กัมพูชาจะเปิดตอบภายใน 5 ชั่วโมง และการเปิดทุกจุดกลับสู่ภาวะปกติจะสะท้อนถึงน้ำใจและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน แต่หากไทยยังไม่ยอมขยับก่อน กัมพูชาจะไม่เข้าร่วมเจรจาใด ๆ โดยเฉพาะในกรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC)

ทั้งนี้ก่อนเกิดความตึงเครียดในปัจจุบัน กัมพูชาและไทยเคยเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น. แต่ปัจจุบัน ฝั่งไทยเปิดเวลา 08.00 น. ฝั่งกัมพูชาเปิดเวลา 09.00 น. และทั้งสองฝ่ายปิดเวลา 16.00 น. ซึ่งการเลื่อนเวลาเปิดของกัมพูชา เป็นการตอบโต้การเปลี่ยนแปลงฝ่ายเดียวของไทย

ชาวกัมพูชา กว่า 100 คน ลุกฮือประท้วง ร้องขอรัฐบาล "ฮุน มาเนต" เห็นใจเปิดด่านรับชาวบ้านที่ติดอยู่ฝั่งไทยกลับภูมิลำเนา
 
เวลา 09.00 น. วั ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ในวันนี้เป็นการเปิดด่านตามมาตรการของ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งให้เปิดเฉพาะวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. ล่าสุดทางกองทัพภาคที่ 2 ยังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตอบโต้กัมพูชา แต่อย่างใด ขณะที่ทางกัมพูชา ประกาศปิดด่าน คือ ด่านจวม ในอำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย (ตรงข้ามด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568

หลังมีมาตรการปิดด่านกะทันหันของฝั่งกัมพูชา ทำให้ช่วงเช้าวันนี้ ชาวกัมพูชากว่า 120 คน พากันมารอที่บริเวณหน้าด่าน พร้อมมีการร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ด่านของฝั่งกัมพูชา เร่งวอนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ช่วยเปิดด่านให้เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาที่ประเทศกัมพูชาด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนกัมพูชา ที่มารอบริเวณหน้าด่าน ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยและครอบครัวที่เดินทางเข้า-ออกโดยพาสปอร์ต และบอร์เดอร์พาส มายังฝั่งไทย จึงเป็นการเข้าออกโดยถูกกฎหมาย เพื่อขอรับบริการด้านสุขภาพของโรงพยาบาลในประเทศไทย ทั้งใน จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ โดยส่วนใหญ่เข้ามารักษาโรคทางสมองและโรคมะเร็ง

ล่าสุด ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ไทย-กัมพูชา ว่า ให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางโดยพาสปอร์ต และบอร์เดอร์พาส ไปใช้บริการเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ทั้งหมด

ส่วนทางด้านการขอเข้ารับบริการรักษาพยาบาลนั้น ทางการไทย ได้ใช้มาตรการเพื่อมนุษยธรรม จึงไม่ได้มีการสกัดกั้นการเข้ามาขอรับการรักษาด้านสุขภาพแต่อย่างได แต่การเข้าออกให้เป็นไปตามประกาศของกองทัพภาคที่ 2 ตามคำสั่งที่ 163/68 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เรื่องการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี

"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านรับคนกลับบ้านแล้ว 

 นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางฝั่งกัมพูชา ได้ยอมเปิดประตูด่านจวม ในอำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อรับประชาชนชาวกัมพูชากลับประเทศแล้ว โดยมีชาวกัมพูชาจำนวนนับร้อยคน รีบเร่งเดินทางกลับภูมิลำเนากันอย่างโกลาหล เพราะเกรงว่าอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้กับทั้งสองฝั่ง

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ผ่านด่านอีก จำนวนประมาณ 10 คัน โดยทางการไทย ได้ใช้มาตรการเพื่อมนุษยธรรม จึงไม่ได้มีการสกัดกั้นการเข้ามาขอรับการรักษาด้านสุขภาพแต่อย่างได แต่การเข้า-ออกให้เป็นไปตามประกาศของกองทัพภาคที่ 2 ตามคำสั่งที่ 163/68 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 68 เรื่องการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี.

ทั้งนี้ ทางกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้า ในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน และเป็นไปตามสถานการณ์ จึงมีคำสั่งให้ปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 68 เป็นต้นไป