วันอังคาร ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 16:06 น.

ต่างประเทศ

"ทรัมป์" แข็งกร้าวต่อรัสเซีย หลังออกมาแสดงบทบาทหยุดศึกไทย-กัมพูชา

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 10.24 น.

วอชิงตัน, 4 ส.ค. 2568 – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซีย หลังออกมาแสดงบทบาทว่าเป็นผู้นำแห่ง “สันติภาพ” จากการที่สามารถกดดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงผ่านการข่มขู่ด้านภาษีการค้า

ล่าสุด ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า ได้สั่งการให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพสหรัฐฯ 2 ลำ เข้าประจำการใกล้พรมแดนรัสเซีย เพื่อตอบโต้คำกล่าวของนายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งรัสเซีย ที่เตือนให้ทรัมป์ “ตระหนักถึงศักยภาพของรัสเซียในการใช้อาวุธนิวเคลียร์”

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ วิเคราะห์ท่าทีของทรัมป์ว่า “คือยกใหม่ของเกมระดับโลก” หลังจากสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการกดดันไทย-กัมพูชาให้ยุติความตึงเครียด ทรัมป์ก็เริ่มเดินเกมกับ “คู่ต่อสู้ที่อันตรายกว่า” อย่างรัสเซีย โดยเขาระบุว่า การเคลื่อนเรือดำน้ำดังกล่าว “เป็นอีกก้าวที่อาจนำไปสู่การปะทะระหว่างมหาอำนาจ”

ผลจากท่าทีดังกล่าว เขย่าตลาดการเงินโลกทันที:
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 600 จุด
Nasdaq ลดลง 2%
Bitcoin ดิ่ง 2%
ราคาทองคำทะยานทะลุ $3,400

ด้าน รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐกิจและการเมือง มองว่าการเคลื่อนเรือดำน้ำของทรัมป์มีลักษณะเชิงสัญลักษณ์มากกว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์จริง โดยเป็นความพยายามสร้างภาพความเด็ดขาดต่อรัสเซียมากกว่าการจุดชนวนความขัดแย้ง

ภาษีทรัมป์-ไทย ส่งผลบวกเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในประเด็นการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ภายใต้ "ข้อตกลงภาษีทรัมป์" ส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากไทยลดลงจาก 36% เหลือ 19% ใกล้เคียงประเทศในอาเซียน และต่ำกว่าของเวียดนาม

ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ราว 90% ของรายการสินค้า และปรับลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับประมาณการส่งออกไทยในครึ่งปีหลังดีขึ้น โดยคาดว่า GDP ปี 2568 จะขยายตัวได้ 1.5% จากเดิมที่คาดไว้ 1.4% แม้ยังมีแรงกดดันจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่ำ และสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจต่ำกว่าคาด

“ทรัมป์” ยังเป็นตัวแปรสำคัญของโลก
นักวิเคราะห์เตือนว่า บทบาทของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ทุกคำพูดและการเคลื่อนไหวทางนโยบายของเขาส่งแรงกระเพื่อมต่อเวทีระหว่างประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญทั้งสงคราม, ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ และภาวะเปราะบางในภูมิภาคต่าง ๆ
 

หน้าแรก » ต่างประเทศ