“อีโวลูชั่น เวลส์เนสส์” ลุยขยายธุรกิจเดินหมากก้าวสู่เป้าหมาย ผู้นำในธุรกิจฟิตเนสในเอเชียชูกลยุทธ์ Brand Portfolio ใช้ 3 แบรนด์ดังในพอร์ต “Fitness First”, “Celebrity Fitness” และ “GoFit”รุกตลาดไทยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้บริการฟิตเนสแบบลงลึกในแต่ละเซกเมนต์ พร้อมเดินหน้าต่อยอดจากธุรกิจ Fitnessสู่ Wellness เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว

 

 

นายมาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโวลูชั่น เวลส์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการของ Fitness First และ Celebrity Fitness ซึ่งถือเป็น 2 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจฟิตเนสคลับของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อตั้งบริษัทโฮลดิ้งใหม่ในชื่อ บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ เอเชีย จำกัด เมื่อปี 2560ทำให้ อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์เอเชีย กลายเป็นผู้ประกอบการด้านฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียโดยมีคลับหรือศูนย์ให้บริการรวมกว่า 166 แห่งใน 6 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง และประเทศไทย มีจำนวนสมาชิกรวมมากกว่า 375,000 คนมีพนักงานรวมกว่า 6,000 คนโดยมีผู้เข้ามาใช้บริการรวมกว่า 25ล้านครั้งต่อปี

 

 

การควบรวมกิจการของทั้ง 2 แบรนด์ ยังมีการขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจให้ครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเม้นต์ ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์ เอเชีย ได้เข้าไปซื้อกิจการFivelements ซุปเปอร์ลักชัวรีรีทรีต รีสอร์ท ในบาหลี ที่เป็นรีสอร์ทสุดหรูชื่อดังที่ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย อาทิ World LuxuryHotel & Retreat Spa และรางวัลด้านสถาปัตยกรรมชั้นนำของโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะมีการต่อยอดและขยายธุรกิจจาก Fitness สู่ Wellness ของ อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์เอเชียเพื่อรองรับกับแนวโน้มของตลาดที่กำลังมุ่งสู่ทิศทางดังกล่าว

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น เดือนตุลาคม 2561 อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ เอเชีย ยังเข้าซื้อกิจการของ Chi Fitness ในมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริหารฟิตเนสรายใหญ่ของมาเลเซียที่มีสาขารวม 13 สาขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการเดินหน้าสู่ความเป็นหนึ่งในตลาดเอเชีย โดยในเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ยังได้มีการต่อยอดแบรนด์Fivelements สู่โยคะสตูดิโอสุดหรูแห่งแรกในฮ่องกงรวมถึงได้มีการเปิดฟิตเนสคลับ แบรนด์ใหม่ในชื่อ GoFitในมาเลเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาอีกด้วย 

 

 

สำหรับในประเทศไทย ภายใต้ชื่อบริษัท อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับแผนการดำเนินงานของบริษัทแม่ โดยจะมีการนำแบรนด์ใหม่ๆ ในพอร์ตเข้ามาให้บริการลูกค้าชาวไทยที่เติบโตและมีความหลากหลายตามความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อนมากขึ้น 

 

 

“การขยายธุรกิจในประเทศไทยนั้น อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์ ประเทศไทย จะเน้นการขยายธุรกิจผ่าน 3 แบรนด์หลัก นั่นคือ แบรนด์ Fitness First, Celebrity Fitness และ GoFitโดยภายในสิ้นปีนี้จะมี Fitness First เพิ่มขึ้น3 สาขา รวมทั้งสิ้นเป็น 34 สาขา และ Celebrity Fitness ที่จะเปิดรวด 2 สาขา ส่วนในปี 2563 จะมีการนำแบรนด์ใหม่ล่าสุด คือ GoFitมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการเติมเต็ม Brand Portfolio ให้มีความสมบูรณ์แบบเพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มแบบลงลึกตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น” 

 

 

สำหรับการวางตำแหน่งของทั้ง 3 แบรนด์ที่ทำตลาดในประเทศไทยนั้น เน้นการเข้าหาผู้บริโภคที่รักสุขภาพเช่นเดียวกัน แต่อาจมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เช่น Fitness First จะเป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มคนอายุ 25 – 40 ปี ในขณะที่ Celebrity Fitness เจาะกลุ่มคนอายุ 21 – 35 ปี ซึ่งจะเน้นคนที่สนใจการดูแลสุขภาพ มีความแตกต่างในความชอบประเภทคลาส และความสะดวกในพื้นที่ที่ต่างกัน ทั้ง 2 แบรนด์จะให้บริการแบบ Full Facility คืออุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งคาร์ดิโอ ฟรีเวทครบครันสตูดิโอสำหรับคลาสมากมาย ครูฝึกมืออาชีพที่ผ่านการรับรองระดับนานาชาติ และมีบริการครูฝึกส่วนตัว ส่วน GoFitจะเป็นคลับที่เน้นเทคโนโลยีมาช่วยการให้บริการ ตั้งแต่การเข้าใช้สถานที่ การตรวจวัดร่างกาย การเข้าคลาส และเหมาะกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัลเป็นหลัก

 

 

โดย Fitness First ยังคงทำหน้าที่เป็นแบรนด์ “เรือธง” ของ อีโวลูชั่นเวลล์เนสส์ ประเทศไทย โดยในปี 2562  เปิดคลับใหม่ทั้งสิ้น 3 คลับ ได้แก่ ฟิตเนส เฟิรส์ท คลับ ไอคอน ที่ ไอคอนสยามฟิตเนส เฟิรส์ท แพลตินัม เพิร์ล แบ็งค็อก อารีย์และ ฟิตเนส เฟิรส์ทแพลตินัมที-วัน ทองหล่อ ใช้เงินลงทุนในการเปิดสาขาเพิ่มในปี 2019 รวมเป็นเงินกว่า 490 ล้านบาท 

โดยจำนวนสมาชิกของ Fitness First ในประเทศไทย ณ ปัจจุบันมีตัวเลขสูงกว่า 80,000 คน ใน 1 ปีมีสมาชิกหมุนเวียนมาใช้บริการมากถึง 7.67 ล้านครั้ง สูงขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนสาขา จำนวนคลาส จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น และกิจกรรมในสาขาที่สร้างแรงจูงใจให้สมาชิกมาออกกำลังกายมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญที่สุดคือการเห็นผลลัพธ์ความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายที่สร้างแรงบันดาลใจต่อเนื่อง

 

 

ส่วนราคาสมาชิกในปัจจุบันแบบ 12 เดือนต่อเนื่อง เริ่มต้นที่ 2,395 บาทต่อเดือน สำหรับสมาชิกประเภทพรีเมียม และราคาสูงสุดคือ 2,785 บาทต่อเดือน สำหรับสมาชิกประเภทคลับคลาส ที่เป็นสมาชิกสูงสุดเข้าใช้บริการได้ทุกคลับของ Fitness First ทั้งในไทยและ 6 ประเทศในเอเชีย

 

 

“ผลการดำเนินงานของ Fitness First ยังคงมีตัวเลขการเติบโตที่ดี โดยมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 7% รายได้จากบริการครูฝึกส่วนตัวหรือ Personal Trainer สูงกว่า 11% เช่นเดียวกับจำนวนสมาชิกที่เพิ่มสูงขึ้น 1.5% ทำให้เราวางเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2020 ว่า จะมีตัวเลขรายได้เพิ่มสูงขึ้น 11% รายได้จากบริการครูฝึกส่วนตัวหรือ Personal Trainer สูงกว่า 13% พร้อมกับตั้งเป้าจำนวนความถี่ของการใช้บริการของสมาชิกเพิ่มเป็น8.6 ล้านครั้งและมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 89,000 คน”นายมาร์คกล่าวเสริม

 

 

ด้านแบรนด์ Celebrity Fitness นั้นจะเจาะกลุ่มอายุระหว่าง 21 – 35 ปี ชอบความสนุกสนาน กล้าแสดงออกชื่นชอบการเข้าคลาสและพบปะผู้คน ได้เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ด้วยคลาสเต้นที่มีความหลากหลายและเป็น Signature ของแบรนด์นี้ นั่นคือ DNA Series โดย Celebrity Fitness จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรทั้งห้องสตูดิโอสำหรับจักรยานและคลาส อุปกรณ์คาร์ดิโอ ฟรีเวท อุปกรณ์การสร้างกล้ามเนื้อ รวมทั้งห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายพร้อมล๊อคเกอร์นิรภัย ทีมงานคุณภาพมาตรฐานสากลของ Evolution Wellness Thailand ดังนั้นสมาชิกจะได้รับการดูแลในมาตรฐานและคุณภาพครูฝึกมาตรฐานสากลเช่นเดียวกัน

 

Celebrity Fitness จะมีการเปิดรวด 2สาขาในเดือนพฤศจิกายน2562 ใน2 โลเคชั่นกลางเมือง ได้แก่ สามย่าน มิตรทาวน์ และ สิงห์ เอสเตท ใช้เงินลงทุนเพื่อการเปิดสาขากว่า 120 ล้านบาทตั้งเป้าธุรกิจในปีแรก มีรายได้ 50 ล้านบาทพร้อมสมาชิก 3,000 คนโดยรูปแบบการตั้งราคาของ Celebrity Fitnessจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,750 บาทต่อเดือน

 

 

เมื่อ Celebrity Fitness เปิดให้บริการแล้ว ทางบริษัทฯ จะมีสมาชิกประเภทเข้าใช้บริการได้ทั้ง 2 แบรนด์ หรือ Dual Access Membership เพื่อเป็นการต่อยอดและประโยชน์สูงสุดให้กับสมาชิก โดยราคาจะอยู่ที่   +100 บาท จากราคาสมาชิกเดิมของ Fitness First ตามประเภทที่สมาชิกถืออยู่นั่นเอง

 

 

ส่วนแบรนด์ใหม่อย่าง GoFitจะเป็นคลับแนวใหม่ที่เน้นเจาะกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ เน้นการนำเอาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชั่นมาช่วยในเรื่องให้บริการ ให้เกิดความคล่องตัว อีกทั้งยังจะเป็นแบรนด์ที่จะเข้าไปเติมเต็มพื้นที่ให้บริการ ให้ทั่วถึงผู้บริโภคมากขึ้น

 

 

“สิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้ ไม่เพียงแต่การขยายธุรกิจเชิงรุกผ่านแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในมือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมอบประสบการณ์เหนือกว่าให้กับสมาชิกจากทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ ประเทศไทย ให้ได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้บริการแบรนด์ที่หลากหลายให้เกิดความสนุกและเพลิดเพลินในการออกกำลังกายหรือการได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งนี่จะเป็นจุดที่จะสร้างความโดดเด่นและจุดได้เปรียบทางธุรกิจ” นายมาร์ค กล่าวในตอนท้าย