การตลาด
วันไทยฯ ครบ 50 ปี ตั้งเป้าขับเคลื่อน “ยำยำ” โตยั่งยืน
วันจันทร์ ที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 16.46 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชั้นนำในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “ยำยำ” ที่ยืนหยัดเติบโตเคียงคู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ในปี 2564 นี้ ด้วยเป้าหมายใหญ่ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตแบบยั่งยืน ขยายฐานผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ “อยากทานยำยำอีกครั้ง”
ในโอกาสครบรอบ 50 ปี นายยูจิ มิซุตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ประกาศวิสัยทัศน์และพันธกิจใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจไปสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคต “เรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทที่มุ่งมั่นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนและสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนทั่วโลก และมีพันธกิจที่จะส่งมอบมื้ออาหารพร้อมรับประทานที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้น ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อสร้างประสบการณ์ “อยากทานยำยำอีกครั้ง”
ที่ผ่านมา เรามีการปรับปรุงรสชาติและรูปโฉมบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ ยำยำ ทั้งแบบซอง และถ้วย เพื่อให้ถูกใจผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขายอยู่ตลอดเวลา เราได้มีการ “รีเฟรช แบรนด์” ครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ ในปี 2557โดยปรับโลโก้และแพ็กเกจใหม่ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมชูคอนเซ็ปต์ ส่งความสุขที่มาจากความอร่อย โดยเพิ่มรอยยิ้มเข้าไปในโลโก้ เพื่อสื่อถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ ยำยำ ในการส่งความสุขจากความอร่อยสู่ผู้บริโภค และในปี พ.ศ.2562 ได้มีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแบรนต์อีกครั้ง เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นชัดเจน มีการปรับโลโก้เพิ่มรูปทรงกลมซึ่งสื่อถึงความมุ่งมั่นท้าทายของยำยำเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด และความอร่อย นอกจากจะมีเปลี่ยนโฉมด้านรูปลักษณ์และรสชาติแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เรานำมาสร้างกระแส คือการดึงศิลปิน-นักแสดง ที่เป็นที่รู้จักมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อาทิ ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก, เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ,กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร และศิลปินวง ทรี แมน ดาวน์ เป็นต้น
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ปรับตัวไปตามเหตุปัจจัยต่างๆ ตลอดเวลา ทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม ผู้คนต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นหนึ่งในอาหารคู่บ้าน คู่ครัวแล้ว ยังหันไปพึ่งพาความหลากหลายในการเลือกบริโภคและการให้บริการที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น อาทิ บริการส่งอาหาร (Food Delivery) แค่เปิดสมาร์ทโฟน เราก็สามารถสั่งอาหารร้านโปรดผ่านแอพพลิเคชั่น ให้ส่งตรงมาถึงหน้าประตูบ้าน หรือที่ทำงานได้ภายในเวลาไม่กี่นาที รวมไปถึงบริโภคอาหารที่วางขายอยู่ใน “ร้านสะดวกซื้อ” ไม่ว่าจะเป็น อาหารแช่แข็ง (Frozen Food) อาหารพร้อมทาน (Ready-To-Eat) ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นบริษัทฯ ต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย อยู่ตลอดเวลาเพื่อรับมือกับภาวะการแข่งขันสูงในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อรักษาฐานลูกค้า และสร้างการเติบโตของธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เช่น การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ เว็บไซต์ www.ajinomoto.com แพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ ช้อปปี้ (Shopee), ลาซาด้า (Lazada) แอพพลิเคชั่นไลน์ @iloveyumyum และเพจเฟซบุ๊ค I Love Yum Yum

นายยูจิ มิซุตะ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการระบาดของ โควิด-19 ตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 จนถึงปัจจุบัน เรายังเชื่อมั่นว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีท่ามกลางวิกฤติ เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบ จึงมีความต้องการสินค้าราคาประหยัดเพื่อใช้ในการบริโภค จากแนวโน้มดังกล่าว ด้านการผลิต บริษัทฯ ยังคงเตรียมความพร้อมและเร่งกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งตลาดภายในและตลาดต่างประเทศที่ยังคงมีการเฝ้าระวัง ประชาชนยังต้องอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่กระจาย ธุรกิจขายอาหารยังเปิดให้บริการได้ไม่เต็มที่ ผู้คนต้องซื้ออาหารแห้งมาตุนไว้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
นอกเหนือจากการทำธุรกิจ บริษัทฯ ยังมีโครงการแบ่งปันและช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤต นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับโควิด-19 มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ “ยำยำ ส่งยิ้ม” ที่เชิญชวนพนักงานและประชาชนโพสต์รูปรอยยิ้มส่งต่อกำลังใจ และความอิ่มอร่อย ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งทุก 1 รอยยิ้มที่ร่วมกิจกรรม จะมีมูลค่า 20 บาท ทางบริษัทฯ ได้มอบเงินจากกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ ยำยำ มูลค่ารวม 2 แสนบาท ให้แก่ มูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิสวนแก้ว และในปีนี้ วันเกิดบริษัทครบรอบ 50 ปี เราได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ “ยำยำ” สูตรเด็ดรสทะเลผัดฉ่า รวมถึงผลิตภัณฑ์ยำยำจัมโบ้ และยำยำคัพให้แก่องค์กร มูลนิธิเพื่อการกุศล โรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่มารอรับบริการตามจุดฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ตั้งแต่ 7 มิถุนายน และจะยังคงเดินหน้าส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
ในส่วนของบุคลากร บริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย ตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ออกมาตรการการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ผ่านการคัดกรองบุคลากรภายใน และภายนอกที่จะเข้ามาในสถานที่ประกอบการของบริษัทฯ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ สอบถามประวัติความเสี่ยง และตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ รวมถึงการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคทุกวัน อีกทั้งบริษัทฯ ได้รณรงค์ให้บุคลากรภายในรับทราบข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 แบบรายวัน มีนโยบายให้บุคลากรปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) ส่งเสริมให้พนักงานได้รับการฉีดวัคซีนตามแผนมาตรการการป้องกันของภาครัฐ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงทั้งหมดเป็นขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรให้ผ่านพ้นวิฤตินี้ไปด้วยกัน
“ยำยำ” มีผลิตภัณฑ์ 4 รูปแบบ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน คือ
“ยำยำ สูตรเด็ด” ซึ่งเจาะกลุ่มพรีเมียมแมส (Premium Mass)
รูปแบบซองหรือ “ยำยำ จัมโบ้”
รูปแบบถ้วยหรือ “ยำยำ คัพ”
“ยำยำ ช้างน้อย” ซึ่งเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับเด็กตัวแรกของไทย
โดยมีสัดส่วนการวางจำหน่ายในประเทศ 75% และต่างประเทศ 25% โดยตลาดในประเทศ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองมีสัดส่วนยอดขาย 82% แบบถ้วย 5% และ ยำยำช้างน้อย 13% นายยูจิ มิซุตะ กล่าวสรุป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การตลาด
ข่าวในหมวดการตลาด ![]()
“ฐาปณี” แม่ทัพหญิง BJC ร่วมเสวนาเวที AWS ExecLeaders 2025 20:34 น.
- โฟลวฟิก Triple Biotic ตัวท็อปจากไต้หวัน แบรนด์แรกของไทย มาแล้ว! มีครบ จบ ทุกมิติ สุขภาพลำไส้และตับ 20:33 น.
- โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นจัดโปรกลางปีราคาดีสบายกระเป๋า Mid-Year Escape Deal 14:07 น.
- “MAMA OK BIG CUP” โฉมใหม่ ใหญ่กว่าเดิมกับ 3 รสชาติสุดฮอต โดนใจสายเกาหลี 14:01 น.
- สนามกอล์ฟ ที่ไม่ได้มีดีแค่กอล์ฟ “ไพน์เฮิร์สท”ใกล้แค่รังสิตแต่ให้ ฟิลลิ่งแบบเขาใหญ่ 13:51 น.