วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 23:19 น.

การเมือง

'ไพศาล'ชี้ยุยง 'ดักตบช่อ' เป็นการสร้างความรุนแรงผิดอาญา

วันจันทร์ ที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 17.14 น.

วันที่ 8 ก.ค.2562 หลังจากที่นักร้องชื่อดัง ทาทา ยัง ได้แสดงความคิดเห็นถึง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่แสดงถึงความรุนแรง หลังมีนักธุรกิจรายหนึ่งโพสต์ความคิดเห็นว่าอยากดักตบ น.ส.พรรณิการ์ วานิช จนทำให้กระแสตีกลับอดีตนักร้องชื่อดังอย่างรุนแรงนั้น นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol โดยระบุว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป การยุยงให้ทำร้ายกัน อาจมีความผิดทางอาญาได้ เราต้องคัดค้านการสร้างความรุนแรงทุกรูปแบบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความรุนแรงนั้นมีทั้งโดยตรงและโดยอ้อม   โดบรศ.ดร.โคทม  อารียา   ได้นำเสนอตามกรอบความคิดของ “โยฮันกัลตุง” (Johan Galtung) โดยแบ่งเป็น 3  ระดับ คือ   ทางตรงหรือกายภาพ   เชิงโครงสร้าง   และเชิงวัฒนธรรม   ความรุนแรงทางกายภาพนั้นจะต้องมีผู้กระทำให้เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางวาจา  ส่วนความรุนแรงเชิงโครงสร้างหรือเชิงระบบจะไม่ปรากฏผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ มีลักษณะเป็นการขัดขวางไม่ให้มีการตอบสนองต่อความจำเป็นขั้นพื้นฐาน  การแบ่งชนชั้น ลัทธิเหยียดผิว ชาติพันธุ์ การทำลายตนเอง การทำลายชุมชน  และการทำลายรัฐ-ชาติ โดยรัฐประหาร การกบฏ การก่อการร้าย สงคราม ขณะที่ความรุนแรงเชิงวัฒนธรรมก็จะไม่ปรากฏผู้กระทำและผู้ถูกกระทำเช่นกัน โดยจะการถ่ายทอดออกมาเป็นความเกลียด ความกลัว อคติ ความเจ็บแค้น เป็นความรุนแรงทางศาสนา อุดมการณ์ ภาษา และศิลปะ ซึ่งความรุนแรงนี้ถือว่าเป็นทุกข์ในอริยสัจ 4 ประการหนึ่ง 


7 พรรคฝ่ายค้านถกกรอบทำงาน แก้ รธน.จัดเวทีโชว์วิสัยทัศน์ 

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกคณะกรรมการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อประชาชน แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังปวงชนไทย ว่า ที่ประชุม 7 พรรคการเมืองได้หารือ 3 กรอบใหญ่ในการทำงาน คือ 

1. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการชุดนี้จะสนับสนุนให้มีการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนเกิดความตื่นรู้และมองว่าต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแนวทาง คือ เปิดเวทีให้ความรู้ จากนั้นให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อกันมากกว่า 50,000 ชื่อ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 2. การทำงาน "ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน" โดยจะเริ่มต้นจัดงานเสวนา และผลิตเนื้อหาออกสื่อทางเลือกใหม่ช่องทางต่างๆ ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค มาแสดงวิสัยทัศน์การทำงานของแต่ละพรรค โดยกลางเดือนกรกฎาคมนี้ จะเริ่มเปิดเวทีเสวนาได้ และจะมีเวทีนักวิชาการให้ความรู้ประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ผู้นำฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคลงไปพบประชาชนด้วย เริ่มจากพื้นที่ตลาดสด ดูสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชน

3. การตั้งคณะกรรมการวิสามัญติดตามการทำร้ายผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งฝ่ายค้านขอต่อต้านการใช้ความรุนแรกทุกรูปแบบ รวมถึงการใช้ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง กรณีกลุ่มดารากับ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย 

 
 

หน้าแรก » การเมือง