เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ขอให้ไปปฏิบัติดังนี้ 1.บอกเกษตรกรให้หยุดหว่านข้าวจนกว่าจะมีฝน 2.จัดทำตารางการทำนาข้าวและทำไรเสียใหม่ตามสภาวะ เอนีโญ ที่กระทบต่อไทย 3.หางานระยะสั้นให้เกษตรกรเพื่อประทังชีวิต 4.ชะลอหนี้เกษตรกรที่กู้ใหม่เฉพาะปีนี้(เพราะกู้ไปแล้วไม่เกิดผล) 5.ทำฝนเทียมกระจายไปทุกจุด(แต่ก็พึงระวังอย่าไปกวนจนเมฆแตกทำให้เสียของไปเปล่าๆ) 6.เตรียมพันธุ์ปลาปล่อยในแหล่งน้ำที่แห้งขอดเพราะเชื้อหรือพ่อแม่ตายหมดแล้ว 7.หากจะต้องขนน้ำเยอะๆเพื่อการบริโภคอุปโภคใช้ขบวนรถไฟ (ขนน้ำมัน) แล้วไปจอดทิ้งไว้จะได้ไม่ต้องสร้างที่เก็บน้ำอีก(ยกเว้นพยายามหาหัวคิว) 

นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า อยากเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำฯว่า พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจการบริหารจัดการน้ำมาทั้งหมด จนกรมน้ำทั้งหลายไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวไม่ตรงใจ ความจริงแล้วแล้งเกิดมานานแล้วและเกิดติดต่อเป็นปีที่สามแล้ว แต่ในที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ ก็จำนน ต้องยอมประกาศว่าตอนนี้เกิดภัยแล้ง  เหตุผลที่ต้องอำมาตลอดก็เพราะคุยว่าการบริหารจัดการน้ำประสบผลสำเร็จ ขายหน้าไหมและเชื่อขนมกินได้ยังจะต้องโดนขย่มอีกอ่วมในสภาฯแน่

"รัฐมนตรีช่วยเกษตรก็ชวนกันไปดูเขื่อนว่ามันแห้งอย่างไร ไม่ต้องไปหรอกครับ ทุกเขื่อนมีระบบ CCTV ดูได้ซูมได้พวกคุณนี้เชยจริง หาเสียงละมั่ง รัฐมนตรีอีกคนก็ไปกว้านพะเยาบอกราษฎรว่าอย่าห่วง รับรองมีน้ำกินน้ำใช้ไปอีก 4 เดือนแน่นอน พุทโธ่ พูดคนละเรื่องอีกแล้ว เขากำลังพูดเรื่องไม่มีน้ำทำนา ทำไร่ ไปดูประวัติศาสตร์ที่กว้านพะเยามีน้ำทุกวันนี้เพราะอธิบดีกรมประมงที่ชื่อปลอดประสพตอนนั้นใช้เงินกู้ OECF ส่วนรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก็ไปลงภาคใต้ ไปทำไมครับตอนนี้ภาคใต้ฝนตกชุกทุกวันเพราะอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เพื่อเกษตรกรตาดำๆผู้ทุกข์ยาก ผมขอให้คำแนะนำ"  นายปลอดประสพ กล่าว