วันอาทิตย์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 16:38 น.

การเมือง

 ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวงเดินหน้าลุยกวาดล้างยาเสพติด ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล

วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567, 12.20 น.

 ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวงเดินหน้าลุยกวาดล้างยาเสพติด ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นสร้างความผาสุกให้แก่สังคมไทย 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดตามนโยบายจัดระเบียบสังคมสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง นำโดย นายอมรฤทธิพล เขียวรุ่งเพ็ชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอคลองหลวง ที่ 2 เข้าทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีได้รับรายงานว่า นายภาพ (นามสมมุติ) มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ให้กับบุคคลในบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งและมีการขายบริเวณบ้านพักย่านคลองสี่ หมู่ 12 

"ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง จึงได้ส่งสายลับเข้าทำการล่อซื้อยาเสพติด โดยสามารถดำเนินการจับกุม นายภาพ อายุ 56 ปี (สงวนชื่อสกุลจริง) พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ลักษณะเป็นยาเม็ดสีส้มด้านหนึ่งมีอักษร WY อีกด้านผิวเรียบ จำนวน 198 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ลักษณะเป็นยาเม็ดสีส้มด้านหนึ่งมีอักษร WY อีกด้านผิวเรียบ จำนวน 152 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ลักษณะเป็นยาเม็ดสีส้มด้านหนึ่งมีอักษร WY อีกด้านผิวเรียบ จำนวน 3 เม็ด พบอยู่ใต้โต๊ะเหล็กหน้าบ้าน หมู่ที่ 12 ตำบลคลองสี่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทำบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" นางสาวอภิสรา กล่าว
 
นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอคลองหลวง กล่าวต่อไปอีกว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกระบวนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ด้วยกลไกมหาดไทยและภาคีเครือข่าย ที่เข้มข้นและจริงจังเพื่อลดปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเกิดมาจากปัญหายาเสพติด ทั้งการทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินส่วนบุคคลและทรัพย์สินสาธารณะ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามกฎหมายเพื่อระงับเหตุและรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น ปฏิบัติการในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน "การตัดไฟตั้งแต่ต้นลม" อันเป็นต้นตอที่จะนำมาซึ่งเหตุแห่งการสูญเสีย ด้วยการปราบปรามผู้ที่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและป้องกันสังคมไม่ให้ตกอยู่ในอันตรายที่อาจจะตามมาได้
 
"สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การปราบปรามผู้กระทำความผิดควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้และสร้างความร่วมมือให้กับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนได้เห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ ร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องกลุ่มเสี่ยง และแจ้งเบาะแสผู้เสพ ผู้ขาย ผู้ซื้อ ให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าไปกำกับติดตาม และปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างทันท่วงที เพราะสังคมจะสงบสุขได้ ทุกภาคส่วนที่เป็นภาคีเครือข่ายจะต้องร่วมกันทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยร้ายแรง และเป็นต้นตอของปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมา อันจะก่อให้เกิดความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ วันนี้ตนจึงอยากขอความร่วมมือและขอกำลังกาย กำลังใจของพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นปราการด่านแรก ได้ร่วมกันทำหน้าที่พลเมือง สอดส่อง ป้องกันและแจ้งเบาะแสยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ และข้าราชการเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งเป็นปราการด่านที่สอง จะต้องปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ยึดถือกฎหมายบังคับใช้ เพื่อจับกุม และขจัดภัยจากยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคม อย่างเข้มข้น ไม่โอนอ่อนต่อสิ่งผิดและอุปสรรคที่มาขัดขวางการทำงาน โดยจะต้องพึงระลึกถึงบทบาทหน้าที่ของตนเป็นสำคัญ ในการทำงาน เพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" สร้างความสงบปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ"   นางสาวอภิสรา กล่าวในช่วงท้าย

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI 

 
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง