"อ้น"ดักคอฝ่ายค้านถกงบฯอย่าออกนอกประเด็น ทำลายบรรยากาศและอย่าบล็อกโหวต ขณะที่ "สมบูรณ์" เผย "ชวน" ลดเวลาอภิปรายจาก 40 ชม.เหลือ 30 ชม. ค้าน-รัฐบาล ได้ฝ่ายละ 15 ชม.  ด้าน "ธนกร" ยัน "บิ๊กตู่" จริงใจอยากให้คนไทยเลิกทะเลาะกันเพื่อเดินหน้าประเทศ จวก"อนุสรณ์-ช่อ"จมปลักกับความขัดแย้ง วอนคำนึงถึงประเทศชาติบ้าง ย้อน5ปีที่ผ่านมาต้องมาแก้ไขปัญหาเพราะใคร

 
วันที่ 15 ต.ค.2562  น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ"อ้น" รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯในวันที่17-19ตุลาคมนี้ ว่า การอภิปรายครั้งนี้ได้รับความสนใจติดตามจากประชาชน นอกจากการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลว่าเม็ดเงินจะลงไปสู่หน่วยงานใดบ้างแล้ว ในส่วนของฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบแทนประชาชน ย่อมได้รับการคาดหวังเป็นอย่างมาก โดยหวังให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ อยู่ในกรอบกฎหมายงบประมาณ ไม่นอกประเด็น หรือใช้วาทกรรมยั่วยุ อันจะเป็นการทำลายบรรยากาศในสภาฯ พร้อมกันนี้ การอภิปรายจะต้องครอบคลุม สอดคล้องกับพันธกิจในการดูแลประชาชน ตามยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ที่สำคัญคือต้อง เป็นไปเพือประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ
 
"ไม่ควรใช้เวทีอภิปรายงบประมาณ เป็นเวทีสร้างวิวาทะทางการเมือง หรือให้ข้อมูลบิดเบือน จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชนและสังคม" น.ส.ทิพานัน กล่าว

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลเรื่องเสียงสนับสนุนร่างกฎหมายไม่เพียงพอจนอาจถูกคว่ำร่างฯ ดังกล่าวนั้น รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในส่วนพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับส.ส.ทุกคนให้เช้าร่วมประชุมสภาฯอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนไม่ว่าจะอยู่พรรคใด พรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ย่อมเล็งเห็นประโยชน์สูงสุดของประชนและประเทศชาติเป็นหลัก  ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องหากมีการห้ามไม่ให้ส.ส.โหวตสนับสนุนร่างกฎหมายนี้

"สมบูรณ์"เผย"ชวน" ลดเวลาอภิปรายจาก 40 ชม.เหลือ 30 ชม. ค้าน-รัฐบาล ได้ฝ่ายละ 15 ชม.

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้นายชวน  หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ติดภารกิจร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาครั้งที่ 141 ที่กรุงเบลเกรด สาธารณรัฐเซอร์เบีย จะเดินทางกลับใสวันที่ 17 ตุลาคม จากนั้นจะขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เลย 

"เท่าที่ทราบในขณะนี้มีการตกลงเวลาอภิปรายรวม 30 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล 15 ชั่วโมงและฝ่ายค้าน 15 ชั่วโมง จากเดิมที่คิดว่าจะกำหนดเวลาอภิปราย 40 ชั่วโมงฝ่ายละ 20 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละฝ่ายต้องไปจัดสรรเวลากันเอง แต่ในส่วนของฝ่ายค้านอิสระที่ต้องการขอเวลา 10 นาทีสำหรับการอภิปรายนั้น คิดว่าน่าจะไปตกลงกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อให้ได้ข้อยุติร่วมกัน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็เชื่อว่าคงมีการขอหารือในที่ประชุม ซึ่งประธานสภาก็คงจะพิจารณาใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควร เนื่องจากเจตนาของฝ่ายค้านอิสระที่ต้องการทำหน้าที่ในสภาถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และการจัดสรรเวลาในอนาคตด้วย" เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว 

"ธนกร"ยัน"บิ๊กตู่"จริงใจอยากให้คนไทยเลิกทะเลาะกัน 

ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องการให้ทุกฝ่ายเลิกทะเลาะกันเพื่อเดินหน้าปฏิรูปการเมือง เป็นความต้องการจากหัวใจของท่านเพื่อที่จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ตนไม่เข้าใจนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเหน็บแนมบอกว่า ถ้าทำได้ประเทศคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ อยากบอกนายอนุสรณ์ให้เข้าใจว่า 5 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรให้บ้านเมืองมากมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของพรรคที่นายอนุสรณ์สังกัดใช่หรือไม่ บ้านเมืองเสียหายอย่างหนักจนพล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้ามาแก้ปัญหาใช่หรือไม่ อยากให้นายอนุสรณ์ใช้สมองคิดก่อนพูดบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นบ้านเมืองปรองดองไม่ได้ ขอให้เข้าใจเจตนาดีของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย 

นายธนกร กล่าวอีกว่า ไม่มีใครใช้อำนาจในการจัดการฝ่ายตรงข้าม หรือใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเพื่อหวังผลทางการเมืองเหมือนที่รัฐบาลในอดีตที่นายอนุสรณ์รู้จักดี อย่าคิดว่าคนอื่นจะทำเหมือนรัฐบาลในอดีตที่ใช้อำนาจแทรกแซงทุกองค์กร ไม่เว้นแม้แต่องค์กรอิสระ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็ว่ากันไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ แต่อย่างเคลื่อนไหวยุยงปลุกปั่นให้ประเทศขัดแย้งอีกเหมือนที่บางกลุ่มกำลังทำอยู่ สำหรับกรณีที่นส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ย้อนพล.อ.ประยุทธ์ว่าทำให้คนรุ่นเก่ารุ่นใหม่แตกแยกกันนั้นก็ไม่เป็นความจริง หากนางพรรณิการ์มีวิธีคิดแบบนี้บ้านเมืองก็ไม่สามารถปรองดองได้เลย วันนี้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศมีความสุขเพราะบ้านเมืองสงบ แต่มีบางคนพยายามชักศึกเข้าบ้าน อยากให้เหมือนฮ่องกง ซึ่งพี่น้องคนไทยทั่วประเทศคงไม่ยอม