การเมือง
"อนุทิน"ลั่นไม่มีทางรอด! คนเรียกหักหัวคิวกักตัวโควิด กินแกลบกันเป็นแถวแน่
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
"อนุทิน"ลั่นไม่มีทางรอด! คนเรียกหักหัวคิวกักตัวโควิด กินแกลบกันเป็นแถวแน่ คนจ่ายมีความผิดด้วย
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุมจะหารือรายละเอียดมาตรการผ่อนปรนต่างๆ โดยก่อนหน้านี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และปลัดกระทรวงต่างๆ ได้หารือในคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้ว ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้กำชับปลัดสธ.ไว้ว่าความปลอดภัยของประชาชนต้องมาเป็นลำดับแรก ขณะนี้ผู้ป่วยติดเชื้อตัวเลขกลับมาเป็นสองหลักต้องมาดูว่าตัวเลขสองหลักมาจากสถานที่กักกันตัวของรัฐทั้งหมด เป็นคนที่มาจากต่างประเทศที่เป็นประเทศมีการติดเชื้อสูงและให้เข้ามา 200-300 คน ต่อวัน เมื่อคนไทยจะกลับบ้านเราก็ต้องอำนวยความสะดวกให้เพราะอยู่ที่เมืองไทยดีกว่าที่เมืองนอก แต่เราไม่เคยประมาทและต้องมั่นใจว่าเมื่อเข้ามาแล้วจะไม่ไปที่ใด ต้องมากักตัว 14 วันตามกติกา ใครติดเชื้อต้องรักษาพยาบาล และในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ไม่มีการติดเชื้อจากในประเทศกันเอง
ทั้งนี้หากมีการผ่อนปรนระยะที่ 3 แล้ว ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดคือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ไม่ไปในที่เสี่ยง เป็นสิ่งที่ยังต้องทำต่อไป โดยปฏิบัติให้เป็นชีวิตวิถีใหม่ แต่หากมีวัคซีนแล้วอาจจะไม่ต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างและหักหัวคิวสถานที่ที่ต้องการจะมาเป็นที่กักกันตัวของรัฐ จะมีความชัดเจนเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ใครจะทำคงรับประทานแกลบกันเป็นแถว ทุกคนรู้อยู่แล้วใครจะกล้าทำ และคนที่จะอนุมัติงบเหล่านี้ต้องเอาแว่นขยายส่อง ไม่มีทางรั่วไหล ส่วนคนที่จ่ายไปแล้วก็ซวยไป และถือว่ามีความผิดด้วย เพราะร่วมกันทุจริตในราชการ หากมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นเราจะรู้ได้อย่างไร เพราะอาจจะมีการแอบอ้างได้ว่าเป็นญาติ เช่น มีคนกระทำผิดแอบอ้างว่าเป็นคู่เขยตน ทั้งที่ตนไม่มีเมีย แล้วจับเป็นคู่เขยได้อย่างไร ไปของานหรือบีบคั้นราชการได้อย่างไร
เมื่อถามว่าทราบหรือยังว่าคนที่แอบอ้างเป็นใคร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปทราบในส่วนนั้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะไม่ทนต่อการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่มีทางรอด เพราะจะต้องมีการคัดกรองและผ่านการเซ็นอนุมัติในหลายขั้นตอน
เมื่อถามว่า เมื่อสิ้นสุดการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะมีกฎหมายใดที่เข้ามาควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นายอนุทิน กล่าวว่า ยังมีพ.ร.บ.โรคติดต่อ และประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดร้ายแรงอยู่ ตนได้เรียนนายกรัฐมนตรี ว่าแม้จะไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังต้องคงคณะทำงานที่ร่วมทำงานในระหว่าง 3-4 เดือนที่ผ่านมาไว้ เพื่อทำงานร่วมกันต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับชาติ และนายกรัฐมนตรีก็ยังมีอำนาจสั่งการในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของการบริหาราชการแผ่นดิน สามารถสั่งการได้ทุกเรื่อง เราไม่ได้ใส่ใจกับคำว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ใส่ใจกับคำว่าสปิริตการทำงานร่วมกัน
เมื่อถามว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเดือนมิ.ย.จะเป็นเดือนสุดท้ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิ์ไปตอบ แต่เรื่องโควิด-19 สำคัญกว่าเรื่องการเมือง เรื่องศักดิ์ศรีอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น อะไรที่ทำให้ประชาชนปลอดภัยจากการติดเชื้อตนยอมหมด
ทั้งนี้ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 กล่าวก่อนการประชุมว่า แนวโน้มของการลดเวลาเคอร์ฟิวออกไป 1 ชั่วโมง น่าจะเป็นช่วง ช่วง 23.00 น. – 03.00 น. ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ประเมินจากความจำเป็นของประชาชนในการประกอบกิจการ ซึ่งก็ต้องติดตามที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ เห็นชอบวันนี้ ส่วนการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการใดบ้างในระยะ 3 เลขา สมช. ขอให้รอติดตามผลการประชุม ศบค. ซึ่งเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนจะพยายามทยอยเปิดกิจกรรมกิจการให้สามารถประกอบอาชีพได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายวันเพราะกิจกรรมกิจการในระยะหลังจากนี้มีความเสี่ยงในระดับสีเหลืองและสีแดง ทั้งนี้คณะกรรมการฯ มีความคิดที่จะทยอยเปิดเรื่อยๆ ในเดือนมิ.ย.ในกิจกรรมกิจการที่มีความพร้อมควบคู่กับต้องดูสถานการณ์ด้วย ไม่ต้องรอ 14 วันตามหลักการเดิม แต่ทั้งนี้ต้องหารือกับ ศบค. ว่าจะเห็นชอบตามหลักการนี้หรือไม่
ส่วนภายหลังเดือนมิ.ย. มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เลขา สมช. กล่าวว่า ต้องมีการหารือกันว่ากฎหมายพิเศษยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ และประเมินสถานการณ์ซึ่งก็อาจกลับไปใช้กฎหมายปกติ ทุกอย่างมีความเป็นไปได้หมด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง
- "ดร.นิยม เวชกามา" จับมือกรรมาธิการศาสนา สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหาตั้งวัดในศรีสะเกษกว่า 300 แห่ง 25 เม.ย. 2567
- “อนุทิน” เปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดิน เพื่อพัฒนาพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ชูกลไกความร่วมมือรัฐ ประชาสังคมแกร่งหนุนการพัฒนาเมือง 25 เม.ย. 2567
- ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวงเดินหน้าลุยกวาดล้างยาเสพติด ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล 25 เม.ย. 2567
- "เศรษฐา" นำ ครม. แต่งชุดจิตอาสาพระราชทาน ศึกษาดูงานเศรษฐกิจพอเพียง 25 เม.ย. 2567
- "สุวัจน์"ประชุมใหญ่กลับใช้ชื่อพรรคชาติพัฒนาตามเดิม ตั้งอดีตสส.ก้าวไกลเป็นรองหัวหน้าพรรค 25 เม.ย. 2567
ข่าวในหมวดการเมือง
- "ดร.นิยม เวชกามา" เป็นประธานงานบุญประจำปีอำเภอพญาเต่างอย 22:08 น.
- "เศรษฐา" ไปแม่สอด 23 เม.ย. ติดตามสถานการณ์ปะทะฝั่งเมียนมา 22:04 น.
- ปลัดมหาดไทย เผยผลไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบสำเร็จ 28,236 ราย มูลหนี้ลดลง 1,083 ล้าน 17:14 น.
- ประชุมใหญ่ “ไทยสร้างไทย ก้าวต่อไปเพื่อคนตัวเล็ก” คึกคัก สุดารัตน์ ประกาศจุดยืนเป็นพรรคทางรอดประเทศไทย 15:41 น.
- ฝ่ายปกครองอำเภอกระนวน บุกจับผู้เสพยาพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 เม็ด 15:11 น.