วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568 00:50 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่"ไม่ขอยุ่ง! ตั้งกมธ.วิสามัญสอบเงินกู้สู้ภัยโควิ

วันศุกร์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 16.48 น.

"บิ๊กตู่"ไม่ขอยุ่ง! ตั้งกมธ.วิสามัญติดตามเงินกู้สู้ภัยโควิด  ชี้ไม่เกี่ยวกับตนเองเป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยืนยันการใช้เงิน 4 แสนล้าน เป็นไปตามกรอบแผนงานที่วางไว้ มีหน่วยงานตรวจสอบอยู่แล้ว          

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2563   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า กรณีที่ฝ่ายค้านมีความเป็นห่วงการใช้งบประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งต้องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องชี้แจง เพราะการใช้งบประมาณทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามปกติของกฎหมาย ซึ่งในการจัดทำแผนงานของโครงการภายหลังจากที่มีกรอบใหญ่มาแล้ว ก็จะเป็นไปตามหลักการและวัตถุประสงค์ตามกรอบการใช้งบประมาณที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องมีการคัดกรอง รับฟังความคิดเห็น ตั้งแต่ระดับล่างเหมือนกับโครงการอื่นๆ ทั่วไป โดยมีกลไกตรวจสอบการใช้งบประมาณอยู่แล้ว เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เป็นต้น ซึ่งโครงการที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าต้องเสนอขึ้นมาตามลำดับโดยผ่าน คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบรณาการ หรือ กนจ. ไม่ใช่ตนเองไปตั้งหน่วยงานเอง ต้องไปไล่ดูว่าก่อนที่จะมาถึงรัฐบาลมีการทำงานกันอย่างไร ขออย่าให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งกับเค้าก็แล้วกัน

ผู้สื่อข่าว ถามว่าแสดงว่านายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบการใช้เงินใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผตน เป็นเรื่องของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ตนไม่มีสิทธิ์ไปชี้ ไม่ยุ่ง

"ฝ่ายค้าน"ยื่นญัตติเสนอตั้งกมธ.วิสามัญสอบเงินกู้  

ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภาฯ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ร่วมยื่นหนังสือที่สมาชิกได้ลงนาม ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบการใช้เงิน1.9ล้านล้านบาท ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯผู้แทนราษฎร

นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้เสนอญัตติกล่าวว่า ตามที่ครม.ได้เสนอพรก.เงินกู้3ฉบับ ในวงเงิน1.9ล้านล้านบาท ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คงยากที่จะไปคัดค้าน พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกต มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพรก.ฉบับต่างๆ ไม่มีรายละเอียด แผนงานในโครงการ ในส่วนของการกู้เงินในพรก.ฉบับแรก วงเงิน1ล้านล้านบาท เราไม่ได้ติดใจวงเงิน6แสนล้านบาท ที่จะนำมาเยียวยา และวงเงิน4.5หมื่นล้านบาท ที่จะมาใช้ในด้านสาธารณสุข ต้องมาดูและตรวจสอบต่อไป แต่วงเงิน 4แสนล้านบาท ที่ระบุให้เป็นงบฟื้นฟู ก็มีแต่เพียงแผนงาน จึงทำให้น่าสงสัยว่า งบที่จะนำไปพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ในเรื่องเศรษฐกิจชุมชนฐานราก หรือการจะนำมากระตุ้นที่เกี่ยวกับภาคเอกชน ภาคประชาชน เป็นอย่างไร ซึ่งเราเป็นห่วงการใช้เงิน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน ติดตามตรวจสอบ เนื่องจากการกู้เงิน ที่ในเดือนมิ.ย.จะมีการอนุมัติเงิน เดือนก.ค.จะเริ่มมีการใช้เงิน และจะต้องใช้ให้แล้วเสร็จในเดือนก.ย.2564 โดยไม่เป็นงบผูกพัน การที่ส.ส.ร่วมลงนามเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการใช้เงินกู้1.9ล้านล้านบาท เพื่อจะเสนอให้มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบ และได้มีสมาชิกลงนาม42คน เป็นไปตามข้อบังคับสภาฯข้อที่50 และหวังว่า สภาฯจะบรรจุญัตติให้เป็นเรื่องด่วน จากการอภิปราย มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล บางคน ก็มีท่าทีขอร่วมตรวจสอบด้วย หวังว่าทั้งส.ส.ฝ่ายค้านและส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะให้ความร่วมมือในการตั้งคณะกรรมาธิการในชุดดังกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า นอกจากช่องทางการเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบการใช้เงินกู้1.9.ล้านล้านบาทแล้ว พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังเตรียมเสนอ พระราชบัญญัติแก้ไขพระราชกำหนด โดยจะมีเนื้อหาสาระ โดยให้มีกลไกลในการป้องกันการใช้เงินเพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยจะมีการเสนอหลังจากนี้ ประเด็นที่จะเสนอให้มีการแก้ไข มีหลายประเด็น อาทิ คณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อให้เกิดความสุจริต โปร่งใส ในคณะกรรมการนั้นต้องกำหนดคุณสมบัติเงื่อนไขของผู้ทรงคุณวุฒิเอาไว้ให้ชัดเจน

นายสุทินกล่าวว่า จะเสนอให้เพิ่มจำนวนส.ส.เข้าไปร่วมทำหน้าที่ในคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินด้วย และจะเสนอให้มีการแก้ไขการประมูล จากเดิมที่จะไม่ใช้การประกวดราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-biding) ต้องให้ประกวดราคาผ่าน e-bidding เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเสนอให้มีการรายงานในรายละเอียดการใช้เงินต้องมารายงานสภาฯ 3เดือนต่อครั้ง

หน้าแรก » การเมือง