การเมือง
สภา มธ.แถลงเชื่อมั่นแนวทางหารือแบบสันติวิธี - กมธ.ชี้ปฏิรูปยธ.-แก้รธน.สร้างสมานฉันท์
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563 สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มีการประชุมเพื่อรับฟังรายงานของคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 โดยสภามหาวิทยาลัยได้มีข้อสรุปจากการประชุมดังนี้ 1. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยืนยันในจุดยืนของการเป็นสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2. มหาวิทยาลัยยอมรับในสิทธิเสรีภาพและการแสดงออกของนักศึกษาภายใต้ขอบเขตแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย 3. คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอรับไปดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างรอบด้านเพื่อชี้แจงให้สังคมได้ทราบต่อไป4. มหาวิทยาลัยจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในมหาวิทยาลัย โดยเชื่อในแนวทางการปรึกษาหารือกันแบบสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวคิดสันติวิธีหลักๆมี 3 สำนักคือ สำนักสันติวิธีในฐานะเป็นเครื่องมือจัดการความขัดแย้ง สำนักสันติวิธีในฐานะเป็นฐานของการเรียกร้องความต้องการโดยปราศจากความรุนแรง และสำนักพุทธสันติวิธี ที่เน้นการสร้างสันติภายใน เพราะมีหลักธรรมที่ตรงกับธรรมนูญของยูเนสโกที่ว่า "สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นที่ใจของมนุษย์" เป็นสำคัญ และพระพุทธเจ้าตรัสว่า "นาหํภิกฺขเวโลเกน วิวทามิ" แปลความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตย่อมไม่ขัดแย้งกับชาวโลกแต่ชาวโลกย่อมขัดแย้งกับเรา ธรรมวาทีย่อมไม่ขัดแย้งกับใครๆ ในโลก"
เพราะหากทุกคนรักสงบมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็ไม่จำเป็นต้องทำ "สิทธิสัญญาสงบศึก" เพราะทำสนธิสัญญาสงบศึกแล้วพากันละเมิด จึงควรหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ก่อให้เกิดสงคราม ด้วยการเริ่มจัดการกับสงครามภายในใจของเราเอง ดับสงครามภายใน เพื่อป้องกันสงครามภายนอก" และรู้จักเลือกคบกัลยาณมิตร สร้างเครือข่ายพระพุทธศาสนามีพุทธธรรมอยู่หมวดหนึ่ง ชื่อว่า "มงคลสูตร" คือเคล็ดลับการสร้างความสุขความเจริญ สูตรแห่งความสำเร็จข้อแรกของพระพุทธเจ้าคือ "ต้องหลีกเลี่ยงคนพาล สังสรรค์บัณฑิต" แล้วโลกให้คำสัญญากับการสร้างสันติภาพภายในมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตามสามารถสรุปแนวคิดสันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งดังนี้ (1) การจัดการความขัดแย้งโดยวิธีทางการทูตเชิงสันติ สามารถจำแนกสันติวิธีตามแนวนี้ได้ 4 วิธี กล่าวคือ การเจรจา การไต่สวน การไกล่เกลี่ย และการประนีประนอม (2) การจัดการความขัดแย้งโดยวิธีทางกฎหมายเชิงสันติ สามารถจำแนกสันติวิธีตามแนวนี้ได้ 3 วิธี กล่าวคือ อนุญาโตตุลาการ กระบวนการทางศาล และกระบวนการออกกฎหมาย (3) ทางเลือกเชิงสันติอื่น ๆ ตามที่มักจะมีการใช้ในโลกนี้ ประกอบด้วย การหลีกเลี่ยง หรือการถอนตัว การเผชิญหน้า การโน้มน้าว การสนับสนุน การบังคับและการผลักดัน การโอนอ่อนผ่อนตามหรือทำให้ราบรื่น การร่วมมือกัน หรือการแก้ปัญหา และการมีส่วนรวม ทั้งนี้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในหลักสูตรสันติศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
"เอนก"เรียกอธิการ 2-3มหาวิทยาลัย ถกปมม็อบ "บิ๊กตู่"ย้ำไม่มีวันมองนศ.เป็นศัตรู
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รายงานถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาหลายสถาบัน ว่า พรุ่งนี้ (14 สิงหาคม 2563) จะมีการเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง 2-3 แห่ง มาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าหลักการโดยรวมนั้น อยากให้มีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอยู่แล้ว และไม่อยากให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม รัฐบาลเปิดกว้างในเรื่องสิทธิ เสรีภาพในการชุมนุม แต่ขอให้เนื้อหาอยู่กรอบของกฎหมาย ไม่ก้าวล่วงสิ่งที่ละเอียดอ่อน เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
"ขณะที่ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อนั้น การคุมคามนั้น เราไม่มีการคุกคามอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พูดกันต้องไปดูในรายละเอียดว่าบริบทในการชุมนุมแต่ละที่ ผู้ที่ขึ้นปราศรัยมีการแสดงออกอย่างไรบ้าง แต่รัฐบาลต้องย้ำว่าไม่เคยเห็นประชาชนโดยเฉพาะนักศึกษา ไม่มีวันที่จะมองว่าเป็นศัตรู มองเสมอว่าเป็นอนาคตของชาติ และอยากเปิดพื้นที่ให้มาร่วมคิดร่วมพัฒนาประเทศด้วยกัน ฉะนั้นเรื่องคุกคามนั้นตัดไปได้เลย แต่เนื้อหาบางอย่างที่หมิ่นเหม่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องเข้าไปดำเนินการ อยากให้เข้าใจตรงนั้นด้วย" น.ส.รัชดา กล่าวและว่า
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ได้แล้ว ซึ่งอยู่ในกระบวนการ ส่วนการเรียกร้องให้ยุบสภา ถ้ายุบสภาก็จะแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ อยากให้นักศึกษาแสดงออกและมองทุกอย่างด้วยเหตุและผล ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ขอให้ทุกอย่างอยู่กรอบกฎหมาย และไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
กมธ.ชี้ปฏิรูปยธ.-แก้รธน.สร้างสมานฉันท์
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองประธานกรรมาธิการกฎหมายหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยนชน สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปทบทวนและแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กล่าวถึงข้อสังเกตในรายงานของคณะกรรมาธิการ มีทั้งหมด 9 ข้อประกอบด้วย การให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนและแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง และอาญาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม รักษาบรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์ การให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับสื่อ เรื่องการเยียวยา การแสดงความรับผิดชอบด้วยการขออภัยต่อสังคม ข้อสังเกตเกี่ยวกับกองทัพ และข้อสังเกตเรื่องการชุมนุมและสิทธิการชุมนุม
ดังนั้น สำคัญคือ ประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 หากประชาชนไม่มีความสามัคคีปรองดอง จะไม่สามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้ อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายหลักของรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลสามารถยิบยกผลการศึกษาชิ้นนี้ไปดำเนินการได้ทันที
นายชวลิต ยังกล่าวว่า ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการ ไม่ได้หยิบยกเรื่องการชุมนุมของนักศึกษามาร่วมพิจารณาเนื่องจาก การชุมนุมของนักศึกษาเกิดขึ้นภายหลังจากได้รับความเห็นชอบให้นำรายงานดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อมารับความคิดเห็นของนักศึกษาโดยเฉพาะอยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถรับข้อเรียกร้องดังกล่าวเองได้โดยตรงด้วย
สภาถกข้อเสนอนิรโทษฯจุดปรองดอง
ขณะที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณารายงาน "แนวทางการสร้างความปรองดอง สมาน ฉันท์ของคนในชาติ" ตามที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เสนอมา มีสาระสำคัญคือ การเสนอแนวทางสร้างความปรองดอง โดยการให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หรือแก้ไขรัฐธรรม นูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่มีการสืบทอดอำนาจ และการเสนอนิรโทษกรรมเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองตั้งแต่ปี2548-ปัจจุบัน เฉพาะคดีที่มีมูลเหตุจากแรงจูงใจทางการเมือง ไม่รวมคดีอาญา ความผิดตามมาตรา112 และคดีทุจริต โดยเสนอให้ออกเป็นพ.ร.ก.หรือร่างพ.ร.บ. ตลอดจนการเสนอให้กองทัพวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช้อิทธิพลกดดันนโยบายรัฐบาล
ส.ส.ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับดังกล่าว อาทิ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่ารายงานเล่มนี้แทบไม่มีประโยชน์ ตราบใดที่ฝ่ายบริหาร กองทัพ ยังไม่เข้าใจต้นเหตุปัญหา แบ่งประชาชนเป็นคนชังชาติกับคนรักชาติ โดยเฉพาะผบ.ทบ.ควรทบทวนตัวเอง เรื่องวุฒิภาวะที่พูดเหน็บแนมประชาชน สะท้อนจิตสำนึกที่ต้องปรับปรุง ผู้มีอำนาจควรหยุดยัดเยียดความเกลียดชังให้เกิดความแตกแยกไปมากกว่านี้
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- “ภูมิใจไทย” เปิดตัว “จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล” ลูกสาว “ธีระ” ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 8 ก.ค. 2568
- พรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำจุดยืนชัด! ขอบคุณพรรคร่วมหนุนร่าง พ.ร.บ.สันติสุข – ไม่เอานิรโทษ ม.112-คดีโกง-อาญาร้ายแรง 8 ก.ค. 2568
- “ทวี” ย้ำจับ “ก๊ก อัน” ทำตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่ตอบโต้กัมพูชา – เดินหน้าปราบอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 8 ก.ค. 2568
- ฉะเชิงเทราประเดิม ขานรับนโยบาย รมว.ภูมิธรรม ปราบปรามยาเสพติด ตามมาตรการ Seal Stop Safe 8 ก.ค. 2568
- "ภูมิธรรม" แจงโยกย้ายอธิบดีไม่เกี่ยวการเมือง ชี้ทำงานไม่ตอบโจทย์ปราบยาเสพติด 8 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.มหานิยม" ลงพื้นที่ติดตามข้อพิพาทที่ดินวัดดอยธรรมเจดีย์ ย้ำทุกขั้นตอนต้องชัดตามกฎหมาย – พระสงฆ์สายวิปัสสนาชี้วัดดูแลป่ามาตลอด 20:16 น.
- "อรรรถกร" ลุยสั่งการ ส.ป.ก.สระแก้ว เร่งจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.แปลงว่างอย่างเป็นธรรม เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ 20:11 น.
- "ประภัตร" ประกาศพร้อมสละเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา "อนุชา-วราวุธ" วอนอย่าเพิ่งลาจาก 20:06 น.
- กองทัพภาค 2 ยันไม่ปิดกั้นส่งยา ช่องจอมเดินหน้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านตามหลักมนุษยธรรม 19:01 น.
- กต.ยันไทยแจง UN ครบถ้วน ปมกัมพูชาส่งหนังสือฟ้องปมชายแดน 18:29 น.