เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  แถลงการณ์หัวข้อ "ถอยคนละก้าว เข้าสภา ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหาร่วมกัน" โดยตอนหนึ่งว่า กำลังเตรียมที่จะยกเลิก พ.ร.ก สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่กรุงเทพฯ เร็วๆ นี้ ยกเว้น หากมีสถานการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้น ในเวลาเดียวกัน ผมก็ขอให้ผู้ประท้วง แสดงความจริงใจในเจตนาดีของท่านที่มีต่อประเทศดังที่ท่านพูด โดยการเคารพกฎหมาย เคารพระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ขอให้ท่านแสดงความคิดความต้องการผ่านผู้แทนราษฎรของท่าน ซึ่งมีขั้นตอน กำหนดเวลา ไปตามลำดับ" 

กลุ่มมวลชนที่เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิโดยมีเป้าหมายไปยังทำเนียบรัฐบาลตามถนนพญาไท โดยได้พักนั่งลงที่แยกราชเทวี 

เวลา 19.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมมวลชนปลดแอก เดินขบวนถึงแยกอุรุพงษ์แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งแนวกั้นไม่ให้ผ่านไปถึงทำเนียบรัฐบาลด้วย โดยผู้ชุมนุมที่อยู่ส่วนหน้าได้ทำการนั่งลงกับพื้น โดยยังไม่มีตัวแทนหรือแกนนำ ที่จะเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่ในที่สุดกลุ่มผู้ชุมนุมมวลชนปลดแอกก็สามารถผ่านไปได้ตามถนนพิษณุโลก โดยมีตำรวจตั้งจุดสกัดที่สี่แยกนางเลิ้ง  

ทำเนียบนำรถเมล์ ลวดหนามแน่นหนาป้องม็อบบุกทำเนียบฯ

เวลา 19.25 น. ที่สะพายชมัยมรุเชฐ เจ้าตำรวจขยับออกจากหลังแนวที่กั้นและลวดหนาม แล้วนำรถตู้ของตำรวจ และรถเมล์ เรียงขวางอยู่บนสะพาน ขณะที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ กลุ่มม็อบคณะราษฎร์ กำลังพยายามที่จะผลักดันเจ้าหน้าที่ตั้งแผงกั้นไม่ให้ไปทำเนียบรัฐบาล

แยกศรีอยุธยาตรึงกำลังขึงลวดหนาม 

เวลา 18.30 น. บริเวณแยกศรีอยุธยา ฝั่งมุ่งหน้ากองบังคับการตำรวจทางหลวง มีกำลังตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนมาตรึงไว้ทั้ง 8 เลน พร้อมวางรั้วลวดหนามหีบเพลงเป็นแนวป้องกันด้านหน้า 2 ชั้น ขณะที่ปราการด้านหลังกำลังควบคุมฝูงชนนั้นยังมีการนำรถเมล์ ขสมก. และรถตู้ขนส่งกองร้อยปราบจลาจลมาขวางถนนไว้ด้วย
          
ขณะที่ บริเวณดังกล่าวพบว่ามี นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามาขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ ส่วนมวลชนที่เดินเท้ามาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช้เส้นทางนี้ในการมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล 

เวลา 18.32 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ด้านหน้ามีการจัดเตรียมกำลังรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาจากอนุสาวรีย์ชัย บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ มุ่งหน้าแยกมิสกวัน ได้มีการปิดถนน พร้อมเคลียร์รถทุกคันออกจากพื้นที่จนหมด
          
ขณะที่บริเวณหน้าวัดเบญฯ มีรถเมล์จำนวน 5 คัน จอดขวางถนนอยู่