วันเสาร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568 19:43 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่"ชี้ยึดจุดยืนตามอาเซียน ที่วอนเมียนมาแก้ปัญหาโดยสันติวิธี

วันอังคาร ที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 09.31 น.

"บิ๊กตู่"ชี้ยึดจุดยืนตามอาเซียน ที่วอนเมียนมาแก้ปัญหาโดยสันติวิธี  ขณะที่ "ไบเดน" ขู่รื้อฟื้นคว่ำบาตร จี้กองทัพคายอำนาจ

วันที่ 2 มกราคม พ.ศ.2563  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยก่อนการประชุมเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสั่งการให้ดูแลชายแดนอย่างไรหลังเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจในเมียนมา  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สั่งการไปหลายวันแล้ว          

เมื่อถามถึงจุดยืนของประเทศไทยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อาเซียน จุดยืนอาเซียน"

ทั้งนี้ขณะที่สำนักเลขาธิการสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ณ กรุงจาการ์ตา ได้เผยแพร่เอกสารถ้อยแถลงประธานอาเซียนซึ่งในปีนี้ประเทศบรูไนทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน เกี่ยวกับพัฒนาการในเมียนมา ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ติดตามพัฒนาการณ์ของเมียนมาในปัจจุบันอย่างใกล้ชิด
          
อาเซียนคำนึงถึงวัตถุประสงค์และหลักการที่ปรากฏในกฎบัตรอาเซียน รวมถึงการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล การเคารพ และปกป้องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
          
เราขอย้ำว่า เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศสมาชิกอาเซียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการบรรลุประชาคมอาเซียนที่สงบสุข มั่นคง และมั่งคั่ง
          
"อาเซียน ขอเน้นย้ำว่า เสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมืองของสมาชิกอาเซียนทุกประเทศคือ กลไกสำคัญอันจะนำไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนที่สันติสุข เป็นปึกแผ่น และรุ่งเรือง" ในแถลงการณ์อาเซียน ระบุ
          
อย่างไรก็ตาม อาเซียนสนับสนุนให้เกิดการเจรจา การปรองดอง และการคืนสู่สภาวะปกติตามเจตจำนง และผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา

ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า คนไทยในเมียนมาร์ปลอดภัยดี โดยในส่วนของจุดยืนของไทยและอาเซียนนั้น ประธานอาเซียนได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว

"ไบเดน"ขู่รื้อฟื้นคว่ำบาตรจี้กองทัพคายอำนาจ
 
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ขู่จะรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาที่เคยยกเลิกไปภายหลังเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย เรียกร้องนานาชาติประสานความร่วมมือกดดันให้กองทัพพม่ายอมสละอำนาจ
 
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนออกแถลงการณ์ประณามการก่อรัฐประหารยึดอำนาจและควบคุมตัวนางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐที่เป็นผู้นำรัฐบาลพลเรือนโดยพฤตินัย เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นการโจมตีโดยตรงต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมของเมียนมา
          
"ประชาคมระหว่างประเทศควรรวมตัวกันเป็นเสียงเดียวเพื่อกดดันกองทัพพม่าให้สละอำนาจที่ยึดไว้โดยทันที ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวและเจ้าหน้าที่ที่พวกเขาควบคุมตัวไว้" ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์
          
"สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรพม่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บนพื้นฐานของความคืบหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตย การย้อนกลับของความคืบหน้านั้นจะบังคับให้ต้องทบทวนกฎหมายและอำนาจตามกฎหมายด้านการคว่ำบาตรของเราโดยทันที ตามด้วยการดำเนินการที่เหมาะสม" แถลงการณ์กล่าว "สหรัฐจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ว่าจะโดนโจมตีในแห่งหนใดก็ตาม"
          
รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี เริ่มผ่อนคลายมาตรการลงโทษเมียนมาเมื่อปี 2554 ภายหลังทหารเริ่มคลายอำนาจ ต่อมาในปี 2559 สหรัฐได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่เหลืออยู่อีกหลายอย่าง แต่ในปี 2562 รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างพฤติกรรมการละเมิดชาวมุสลิมโรฮีนจาและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในเมียนมา สั่งคว่ำบาตรเจาะจงผู้บัญชาการทหารเมียนมา 4 นาย ซึ่งรวมถึงพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำการก่อรัฐประหารคร้งนี้
          
ไบเดนกล่าวเป็นนัยถึงจีนด้วยว่า สหรัฐกำลังจับตามองผู้ที่ยืนหยัดร่วมกับประชาชนชาวพม่าในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ สหรัฐจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนความร่วมมือของเราทั่วภูมิภาคนี้และทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการรื้อฟื้นประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม ตลอดจนทำให้ผู้ที่ล้มล้างการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของพม่ารับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำ 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง