การเมือง
"บิ๊กตู่" ประกาศภายใน 120 วันเปิดประเทศ ฉีดวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดส
วันพุธ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 18.13 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 หลังเคารพธงชาติเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะแถลงชี้แจงแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 และสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยโดยประกาศถึงแผนในการแก้ปัญหาโควิดและแผนพัฒนาประเทศโดยจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส และเปิดประเทศภายใน 120 วัน ฉีดวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดสความว่า “ตั้งเป้า ประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน”
พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ
การเดินหน้าแผนฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนมีความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ ผมอยากจะอัพเดทให้ทุกท่านทราบ ถึงโรดแมปที่เรากำลังจะเดินหน้าต่อไป เพื่อเริ่มการพลิกฟื้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ การที่ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการโดยตรงได้โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบูรณาการ การทำงาน และช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานใหญ่ ที่มีหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้องวันนี้ ได้มีส่วนช่วยให้หน่วยงาน และคณะกรรมการชุดต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างฉับไว และเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากยิ่งขึ้น ตลอดจนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดเป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด บนพื้นฐานการรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน และจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วิธีการทำงานแบบนี้ เป็นวิธีเดียวกับที่เราเคยใช้เมื่อตอนเริ่มต้นที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปีก่อน
• ด้วยวิธีการทำงานแบบนี้ ช่วยให้เราเดินหน้าตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยขจัดปัญหาบางอย่าง รวมทั้งทำให้มีความคืบหน้า ในการเดินหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน เราอยู่ในระหว่างการทำงาน กับผู้ผลิตวัคซีน จำนวน 6 รายแล้ว ได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, รวมถึง แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวค, และซิโนฟาร์ม
นอกจากนั้น ในส่วนของการเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม จนถึงตอนนี้ ยืนยันการจัดหา โดยมีการลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส ทำได้เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับปีนี้ โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้ และจะทยอยฉีดต่อไปพร้อมกันนี้ เรายังจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกสำหรับปีหน้า
• การเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนนี้ เราจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ย ประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนส่งมาเพียงพอในแต่ละเดือนและประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน
ตอนนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง นี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน
วันนี้ ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศ ให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่า ก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น
• นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้ว ควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้ามที่สร้างความยากลำบาก รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ หากเป็นคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ก็ควรที่จะสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศของตัวเองได้โดยไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกัน
• ในส่วนของสถานที่ทำงาน และธุรกิจร้านค้าต่างๆ ควรต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ควรทำได้โดยไม่มีข้อห้ามหรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด ที่จะสร้างความยากลำบากอีก
ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้นหรือมีความจำเป็นจริงๆ ก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป
• ผมขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เริ่มเตรียมการ และเตรียมตัวทุกอย่างให้พร้อม เพื่อที่จะสามารถเปิดให้มีการทำมาหากินของประชาชนได้อีกครั้งตามกรอบเวลาที่ผมได้กล่าวไปซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องดำเนินการ เรื่องการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเปิดประเทศภายใน 120 วันเราจะเริ่มนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการ และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบ Sandbox ผมได้เร่งรัดให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาและอนุมัติ ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้เดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริงตามแผน เป็นการเตรียมการเพื่อเปิดประเทศในระยะต่อไปด้วยกรอบเวลานี้ ผมคาดหวังว่า ถึงตอนนั้น หลายๆ ประเทศคงจะเริ่มผ่อนคลาย ให้ประชาชนของเค้าสามารถเดินทางออกมาท่องเที่ยวได้แล้วและน่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพอสมควร ที่เลือกเดินทางมาประเทศไทย
ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชนผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเราเพื่อให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้ครับ
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ภารกิจหลักของผมในตอนนั้นคือ พยายามรักษาชีวิตของพี่น้องคนไทย ไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมากๆ การปกป้องชีวิตของผู้คน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การปกป้องชีวิต ของคนที่ได้รับเชื้อเท่านั้น แต่เป็นการปกป้องทั้งครอบครัว ไม่ให้ครอบครัวจำนวนมาก ต้องเจอกับความสูญเสียที่หนักหนาสาหัส เสียเสาหลักของครอบครัว หรือสูญเสียคุณพ่อคุณแม่สูญเสียปู่ย่าตายาย ที่ดูแลลูกๆ หลานๆ ของเรา
• จนถึงวันนี้ เราทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
• นอกจากนั้น อีกหนึ่งปัญหาที่เราหลีกเลี่ยงได้สำเร็จก็คือ หลีกเลี่ยงการทำลายระบบสาธารณสุขของเราซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น คงจะส่งผลให้มีผู้เสียจากชีวิตจากโรคภัยอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วยจากการที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือไม่มีหมอ ไม่มีพยาบาลมาดูแลเพราะทุกคนยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยโควิดกันหมด
ขณะนี้ ภารกิจต่อไปของผมคือผมต้องทำให้ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้ปกติอีกครั้ง โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เราได้เห็นกันแล้วและต้องทำใจว่า ทั่วโลกยังจะต้องอยู่กับไวรัสนี้ต่อไปอีก ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลก และเราก็ไม่สามารถรอ จนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง นี่คือนโยบายของผม และเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้
ดังนั้น เพื่อที่เราจะสามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดประเทศ ภายใน 120 วันให้ได้ผมจะพยายามทำทุกทาง เพื่อให้เราได้รับส่งมอบวัคซีนตามกำหนดการแม้ในความเป็นจริง เราจะเห็นตัวอย่างได้จากในหลายประเทศว่าการส่งมอบวัคซีนจากผู้ผลิตรายต่างๆ อาจจะไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งเรื่องล่าช้า หรือไม่ครบจำนวนตามที่ตกลงแต่ประเทศไทยเรา ต้องบริหารจัดการตรงจุดนี้ให้ดี
• ในระยะสั้นนโยบายสำคัญของผม คือ อย่างน้อยที่สุดประชาชนทุกคนควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะการได้รับวัคซีนแม้แค่เพียงเข็มแรก ก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ในระดับที่มากพอสมควรแล้ว
• และในระยะยาว การจัดการกับโควิด-19 คือการมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศของเราเอง ซึ่งจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาวต่อไป ตราบเท่าที่เราต้องการ
วันนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข ทั้งในสิงคโปร์ และไต้หวัน ต่างก็ออกมาพูดว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศเค้าในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดคือปัญหาที่เกิดจากการสั่งซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตในต่างประเทศตอนนี้ เค้าคิดเหมือนประเทศไทย และเค้าได้ตัดสินใจแล้วว่าหนทางที่จะทำให้ประเทศของตัวเองเข้าถึงวัคซีนได้อย่างยั่งยืน คือ ต้องผลิตในประเทศ นี่คือสิ่งที่เค้ากำลังดำเนินการอยู่
ในที่สุดนะครับ การมีโรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 อยู่ในประเทศไทย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในระยะยาว ซึ่งแนวทางนี้ เราได้เลือกมาตั้งแต่ต้น และถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ผมต้องขอขอบคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ที่แนะนำให้เราเลือกเดินหน้าในแนวทางนี้ และผมขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ที่ร่วมกันดำเนินการจนสำเร็จ
ในการเดินหน้าต่อจากนี้เป็นต้นไปเราอาจจะต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหม่ๆ และความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเราเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวผมต้องขอชื่นชม บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกท่านอ.ส.ม. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่แม้ว่าทุกท่านจะเหน็ดเหนื่อยกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังนึกถึงว่า พี่น้องคนไทยยากลำบากกันมากขนาดไหน และเราล้วนต้องการร่วมมือกันทุกวิถีทาง เพื่อช่วยลดความเดือนร้อนในการทำมาหากิน ให้กับพี่น้องคนไทยด้วยกัน แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่ก็เป็นหนทางที่จะดี สำหรับประเทศไทย
การปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ครบตามเป้าหมายภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเป็นภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบางอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามแผนหรือบางอย่างอาจจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีความไม่แน่นอน ขอให้ทุกคนเปิดใจว่าภารกิจใหญ่ขนาดนี้ ที่ต้องเร่งให้เร็วที่สุดและต้องเข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ครอบคลุมทั้งประเทศ อาจจะมีความผิดพลาด หรือมีความไม่สะดวกอยู่บ้าง
สุดท้ายนี้ ผมขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรต่างๆ ที่เหนื่อยกันมา กว่าปีครึ่งแล้ว และยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่และเต็มใจ อย่างที่ทุกคนคงจะได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้วเมื่อไปรับการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนไม่ใช่เพียงแค่มาทำหน้าที่ให้เสร็จๆ ไปเท่านั้นแต่เราสัมผัสได้ ทั้งจากท่าทาง คำพูด และการกระทำ ว่าทุกคนมาทำหน้าที่ ด้วยหัวใจ และด้วยความปรารถนาดีที่ต้องการปกป้องชีวิตของพี่น้องคนไทยด้วยกัน
ขอบคุณครับ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- พิษ "คัลแมกี" ทำฝนตกหนักตอนบน น้ำเหนือหนุนเพิ่ม 9 พ.ย. 2568
- “ทูตจีน” เขียนบทใหม่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกสร้าง “อันดับแรก” ความสัมพันธ์จีน-ไทย 9 พ.ย. 2568
- “อยู่กับน้ำ..แต่ไม่ควรจมน้ำ” ชาวบางบาลร้องไห้กลางน้ำท่วม ล่ารายชื่อถวายฎีกา – นักวิจัยแนะออกแบบระบบน้ำใหม่ให้ยุติธรรม ตั้งกองทุนช่วยชาวบ้านพื้นที่แก้มลิง 9 พ.ย. 2568
- "อนุทิน" เยี่ยมจุดบริการประชาชนถวายอาลัย "สมเด็จพระพันปีหลวง" ชื่นชม กทม. จัดการรัดกุม–เป็นระเบียบ มอบคมนาคม อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง 9 พ.ย. 2568
- "ดร.นิยม เวชกามา" ร่วมไว้อาลัยพิธีส่งดวงวิญญาณบุตรชาย "หลวงเตี่ย" ที่นครนายก 9 พ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
เปิดตัวทีมงานรองโฆษกเพื่อไทย ช่วยงานเพิ่มอีก 4 คน จี้นายกฯสนใจแก้ปัญหาน้ำท่วม 16:59 น.- “ธรรมนัส” ลั่นกลางปัตตานี ! พิสูจน์คำพูด ดันลูกหลานมุสลิมเป็นรัฐมนตรีสำเร็จ ย้ำ พัฒนา 3 จังหวัดชายแดนใต้ สร้างอาชีพ ยกระดับชีวิตประชาชน 16:34 น.
- "ยรรยง" จี้รัฐบาลเร่งแก้ราคาข้าวต่ำ ชาวนาโอดแย่สุดในรอบ 10 ปี - ตาม "รมว.พาณิชย์" หยุดเดินสายสร้างภาพ หวังเห็นสัญญาจีนซื้อ-ขายข้าวจริง 16:25 น.
- “วัชรพล” ชี้ชาวนายุค“อนุทิน” ช้ำขายข้าวเปลือก 1 กิโลซื้อมาม่าไม่ได้ 16:21 น.
- “อรรถกร”เดินหน้าปั้น 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นเมืองท่องเที่ยววัฒนธรรม เตรียมจัด Countdown 2026 ที่สุไหงโกลก 16:17 น.



