การเมือง
กรมประมงวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยง“ปลาพลวงชมพู”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

กรมประมงระดมทีมนักวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยง“ปลาพลวงชมพู” เพิ่มผลผลิตเชิงพาณิชย์ หนุนสร้างรายได้ เกษตรกรชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่าล่าสุดกรมประมงระดมทีมนักวิจัย กรมประมง จัดทำ“โครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู” เพื่อพัฒนาการเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สอดรับกับนโยบายการตลาดนำการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ชายแดนใต้ สามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ต่อไป
ปลาพลวงชมพู (Tor douronensis) เป็นปลาน้ำจืดหายากประจำท้องถิ่นในจังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเนื่องจากมีรสชาติดีเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,500 - 3,500 บาททำให้ปลาชนิดนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากปลาพลวงชมพูเป็นปลาที่โตช้า ดูแลค่อนข้างยาก ซึ่งจากการศึกษาของกรมประมงพบว่าปลาชนิดนี้โดยธรรมชาติสามารถวางไข่ได้ปีละ 1 ครั้ง และได้ไข่เพียง 500 ฟองต่อแม่ ที่สำคัญการเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพูโดยวิธีผสมเทียมในแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่รวบรวมจากธรรมชาติ เนื่องจากปลาพลวงชมพูรุ่นลูกที่นำมาเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ยังไม่สามารถนำมาใช้ในการเพาะพันธุ์ได้เพราะไม่มีความสมบูรณ์เพศ อีกทั้งขั้นตอนการฟักไข่แบบเดิมในบ่อซีเมนต์ยังประสบกับปัญหาการติดเชื้อราทำให้ไข่มีอัตราฟักเป็นตัวต่ำ จึงจำเป็นต้องเร่งศึกษาเพื่อพัฒนาการวิจัยในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
โดยล่าสุด กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ร่วมกับ กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด และกองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำได้จัดทำ “โครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู” เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตลูกปลาพลวงชมพู โดยมีเป้าหมายให้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูรุ่นลูกมีความสมบูรณ์เพศจนนำมาใช้เพาะพันธุ์โดยวิธีผสมเทียมได้ และสามารถผลิตไข่พร้อมลูกพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง มีอัตราการรอดสูง เพียงพอสำหรับการส่งเสริมให้เกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปต่อยอดเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์น้ำชนิดนี้คงอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างยั่งยืนโดยมีแผนการดำเนินการระยะเวลา 3 ปี (ปีงบประมาณ 2564 – 2566 ) อีกทั้งในปี 2564 ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ด้วย
ขณะที่นายธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาสูตรอาหารสำหรับเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูให้มีความสมบูรณ์เพศ โดยการใช้สารเสริมในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์และเพิ่มคุณภาพของไข่ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อีกทั้งได้มีการพัฒนาระบบฟักไข่ปลาพลวงชมพูแบบราง โดยใช้ระบบน้ำไหลผ่านแบบหมุนเวียนที่มีระบบการควบคุมอุณหภูมิของน้ำแบบอัตโนมัติ มีการฆ่าเชื้อในน้ำโดยใช้แสงอัลตราไวโอเลท ตลอดจนพัฒนาต้นแบบระบบการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูในโรงเพาะฟักอัจฉริยะแบบปิด ที่มีระบบทำความเย็นแบบ Evaporative Cooling System และใช้ระบบน้ำหมุนเวียน (Recirculating water system) ที่มีระบบการควบคุมคุณภาพของน้ำแบบอัตโนมัติทั้งในช่วงระยะเวลาเลี้ยงและระยะเวลาก่อนการผสมพันธุ์เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการเจริญเติบโตและความสมบูรณ์เพศของพ่อแม่พันธุ์ จนกระทั่งสามารถนำมาเพาะพันธุ์ได้ในที่สุด
สำหรับผลการทดลองเบื้องต้นของการให้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูรุ่นลูกที่ได้จากการเพาะพันธุ์ในปี 2556 (รุ่น P0) กินสารเสริมที่มีรงควัตถุแคโรทีนอยด์ และเลี้ยงในระบบน้ำหมุนเวียน ที่มีการควบคุมอุณหภูมิของน้ำแบบอัตโนมัติ พบว่าสามารถกระตุ้นให้พ่อแม่พันธุ์รุ่นลูก (รุ่น P0) มีความสมบูรณ์เพศมากขึ้น พร้อมสำหรับการผสมพันธุ์วางไข่และการใช้ทดลองเพาะพันธุ์ โดยจากผลการทดลองเพาะพันธุ์ในช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาสามารถคัดเลือกแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่มีไข่สมบูรณ์ได้จำนวน 45 ตัว นำมาเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพูโดยวิธีผสมเทียม
จำนวน 8 ครั้ง จนประสบความสำเร็จสามารถรีดไข่ผสมเทียมได้ จำนวน 21 ตัว คิดเป็นร้อยละ 47 ได้ลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูทั้งหมด จำนวน 12,043 ตัว
และยังมีแนวโน้มที่ดี เมื่อพบว่า ในเดือนมิถุนายน – กันยายน สามารถทำการเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู ได้อีก 3 ครั้ง โดยสามารถคัดเลือกแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่มีไข่สมบูรณ์ได้จำนวน 14 ตัว นำมาเพาะพันธุ์ และประสบความสำเร็จในการรีดไข่ผสมเทียมจำนวน 8 ตัว คิดเป็นร้อยละ 57 ได้ลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูทั้งหมด จำนวน 4,366 ตัว ซึ่งจากผลสำเร็จของกรมประมงในครั้งนี้นับว่า จะเป็นแนวทางในการพัฒนาด้านอาหารสำหรับพ่อแม่พันธุ์ตลอดจนการพัฒนาระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบฟักไข่ปลาพลวงชมพูให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถผลิตลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูให้ได้ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องและ ขยายผลไปสู่เกษตรกรให้เลี้ยงในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบได้ในอนาคตต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- มนุษยธรรมล้น! หญิงกัมพูชาเจ็บท้องใกล้คลอดประสานส่งตัวข้ามแดนทันเวลา 1 ส.ค. 2568
- กองทัพบกนำคณะทูตทหาร-สื่อต่างประเทศลงพื้นที่ศรีสะเกษ พิสูจย์ทหารกัมพูชายิงพลเรือน 1 ส.ค. 2568
- เขากระโดงเป็นของรัฐ! มท.สั่งเพิกถอนโฉนด เริ่มพรุ่งนี้ อธิบดีกรมที่ดินขอย้ายตัวเอง 1 ส.ค. 2568
- เผยคณะทูตเห็นกับตา! กัมพูชาโจมตีพลเรือน – ชื่นชมไทยเปิดเผยข้อเท็จจริงชายแดน 1 ส.ค. 2568
- กองทัพบกพา 34 ทูตต่างประเทศลงพื้นที่แฉยิบเขมรป่าเถื่อน-ผิดกฎหมายสากล 1 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
ทภ.2 ยันกัมพูชายิง BM-21 เข้าพื้นที่ชุมชน 28 ลูก ไม่มีรายงานเสียชีวิต อพยพเฉียดแสน 20:44 น.
- โฆษกรัฐเผยสื่อนานาชาติเข้าใจไทย ยุทธวิธีภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16 จำกัดวงเฉพาะพื้นที่ทหาร 20:05 น.
- กัมพูชาระดมกำลังทหารเพิ่ม ทอ.ส่ง F-16 – กริพเพน ทิ้งบอมบ์รอบ 2 ตาควาย 19:34 น.
- "กพท." ยันไทยไม่สะเทือน! กัมพูชา" ประกาศปิดน่านฟ้า เที่ยวบินไทยเดินทางได้ตามปกติ "สนามบินอุบลฯ-บุรีรัมย์" เปิดบริการพร้อมรับเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชม. 18:55 น.
- น้ำใจชาวจันท์ส่งต่อความห่วงใย! พระครูโสภณวุฒิกร มอบ 1 ล้านบาทช่วยผู้ประสบภัยสงคราม – ตั้งโรงครัวเลี้ยง 3 พันชีวิต/มื้อ 18:21 น.