วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568 12:54 น.

การเมือง

"สุเทพ"แนะนำ "วอศ ภาวนาโพธิคุณ" เป็นต้นแบบปฏิรูปการศึกษาระดับอาชีวะไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 17.13 น.

"สุเทพ"แนะนำ "วอศ ภาวนาโพธิคุณ"   เป็นต้นแบบปฏิรูปการศึกษาระดับอาชีวะไทย  แนะควรมีทุกจังหวัดรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก  ฝากปชช.ช่วยกันดูพร้อม ชวนใครไปเที่ยว”สมุย”แวะเยี่ยมชม ได้ตลอด มีหลายอย่างน่าทึ่งมากมาย      

วันที่ 28 ตุลาคม 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ฟสบุ๊คส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 3  ในวันนี้เป็นการคุยเกี่ยวกับ  “ วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ”   ที่ตั้งอยู่ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี นายสุเทพ กล่าวว่า ชื่อนี้อาจจะดูแปลกๆหน่อย เพราะเป็นชื่อที่ตั้งตาม สมณศักดิ์ ของท่านเจ้าอาวาสวัดสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา ซึ่งเป็นผู้จุดประกายความคิด ในการที่จะสร้างวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้น  พวกเราเลยขออนุญาตที่จะใช้สมณศักดิ์ของท่านเป็นชื่อวิทยาลัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ท่านคือท่านเจ้าคุณอาจารย์โพธิ พระภาวนาโพธิคุณ  เพราะฉะนั้นชื่อวิทยาลัยจึงได้แปลกออกไป แต่ว่าถ้าไปดูในเนื้อหาสาระการบริหารจัดการวิถีชีวิตของคนที่เป็นอาจารย์ เป็นนักศึกษาในวิทยาลัยแห่งนี้อาจจะมีความน่าทึ่งมากขึ้น
       
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่บอกว่าต้องทึ่งมากขึ้น เพราะวิทยาลัยแห่งนี้คือต้นแบบของการปฏิรูปการบริหารจัดการการศึกษา ในระดับอาชีวะของประเทศไทย ที่บอกว่าเป็นต้นแบบไม่ใช่เป็นเรื่องอวดโอ่อะไร  แต่ว่าเราตั้งใจทำเพื่อที่จะให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาหรือโรงเรียนอาชีวศึกษาทั่วประเทศนี้ได้ปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการ เพื่อที่จะสร้างบุคลากรที่เป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดของประเทศคนที่เป็นมืออาชีพที่จะไปทำงานในสาขาวิชาต่างๆ โรงโรงเรียนอาชีวะ วิทยาลัยอาชีวะจะต้องปรับตัวขนานใหญ่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เป็น ดิสรัปชั่นของโลกเพราะฉะนั้นทำอย่างเดิมไม่ได้แล้ว เราต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เราต้องสร้างมืออาชีพจริงๆ ต้องเป็นคนดีด้วยเพื่อให้เขาไปเป็นกำลังของบ้านเมืองในวันข้างหน้า แล้วการจัดการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษาตามความคิดพวกเรามวลมหาประชาชน คือต้องสอนฟรี รัฐต้องลงทุนเพื่อผลิตมืออาชีพในระดับป.ว.ช. /ป.ว.ส. เพื่อออกไปรับใช้สังคม ที่ผมกราบเรียนมานี้คือสิ่งที่เราทำกัน ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ   
 
นายสุเทพ กล่าวต่ออีกว่า เราเน้นเรื่องที่จะสร้างมืออาชีพเพราะฉะนั้นนักศึกษาที่จะมาเรียนที่วิทยาลัยนี้จะต้องเรียนหนักมากจะต้องทำงานหนักมาก ไม่สนุกไม่สบาย แต่ว่าชีวิตมีคุณค่า มีราคา  เป็นรางวัลที่รออยู่ข้างหน้า เราถือหลักว่าการผลิตบุคลากรที่จะไปเป็นมืออาชีพจะต้องสอดคล้องความต้องการของตลาดแต่ละโรงโรงเรียนอาชีวะแต่ละ วิทยาลัยอาชีวะ  ไม่เหมือนกัน สำหรับที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ เราตั้งใจที่จะผลิตบุคลากร เพื่อป้อนอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวที่นี่เราถึงจัดสอนวิชาการท่องเที่ยว วิชาการโรงแรม วิชาการบัญชี วิชาการคอมพิวเตอร์และวิชาภาษาต่างประเทศ การทำอาหาร ภาษาต่างประเทศเราสอนเฉพาะภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งคิดว่า ทำไม่สอนแต่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ เราคิดเอาง่ายๆว่าในโลกของการท่องเที่ยวถ้านักศึกษาของเราพูดภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษได้รับแขกได้หมดแล้วเราตั้งสมมุติฐานที่นี่ และที่นี่ ท่านผู้ชมจะแปลกใจมากถ้ามาดูเราเอาจริงมากกับการเรียนภาษา นักศึกษาของเรา ไม่ว่าจะมีพื้นฐานมาอย่างไรเมื่อมาอยู่กับเราครบ1ปี ต้องพูดภาษาจีนได้  ต้องพูดภาษาอังกฤษได้ และเราเอาจริงเอาจังมากห้องเรียนภาษาเราให้เรียนได้12  คนเท่านั้นเอง ครูจีนก็เอามาจากเมืองจีนครูภาษาอังกฤษก็เป็นฝรั่งล้วนเราเอาจริงเอาจังแล้วได้ผล เราเปิดทำการสอนมา 5 ปีแล้วท่านผู้ชม มาที่นี่จะแปลกใจเลยว่า เด็กของเรา กล่าวต้อนรับเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษได้ พอเด็กเรียนปี 1แล้วปรับพื้นฐานทางภาษา  พูดภาษาจีน พูดภาษาอังกฤษได้ ฟังรู้เรื่องพอขึ้นปี 2 ปี 3 เราก็มีมืออาชีพ ที่เป็นชาวต่างประเทศ มาสอนเด็กของเราได้ เราเน้นว่า คนที่จะมาสอนเด็กต้องเป็นมืออาชีพเพราะต้องการสร้างมืออาชีพ ออกไปทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว  
          
นายสุเทพกล่าวต่อว่า  วิทยาลัยของเรามันเป็นวิทยาลัยของประชาชน เป็นวิทยาลัยของทุกคนร่วมกันทำ  เงินที่สร้างวิทยาลัยทั้งหมดมาจากการบริจาคของมวลมหาประชาชนของผู้ใจบุญทั้งหลาย นี่เราลงทุนไปหลายร้อยล้านบาทในเนื้อที่  65ไร่ มีความพร้อมบริหารจัดการได้  ตรงนั้นไม่สำคัญเท่ากับ ความร่วมมือร่วมใจระหว่างผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่อยู่ในเกาะสมุย  มีโรงแรมดังๆ แบรนด์ดังๆ ทำMOUกับวิทยาลัย ร่วมมือกันเขาจะส่งผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมที่เรียกว่าจีเอ็ม  ส่งเชพหัวหน้าคนครัว หัวหน้าแม่บ้าน หัวหน้าบัญชี ส่งมาสอนที่นี่เป็นอาสาสมัคร   นอกจากนั้นเขายังรับนักศึกษาของเรา ไปเรียนภาคปฏิบัติ ในสถานประกอบการในโรงแรม เหล่านั้นเด็กของเราถึงเก่ง เอาจริงเอาจังกับการเรียนการสอนในลักษณะนี้มาก  แต่ว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เราฝึกฝนอบรมหล่อหลอมนักศึกษาของเรา
          
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า  ที่สำคัญกว่านั้น นักศึกษาของเราที่นี่ต้องศึกษาธรรมะฝึกฝนการปฏิบัติธรรมะเพราะวิทยาลัยแห่งนี้เดินตามแนวความคิดของท่านอาจารย์พุทธทาส ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาของโลก ที่คาดหวังจะเห็นศีลธรรมเบ่งบานในใจของเยาวชนเพื่อที่จะให้โลกมีสันติภาพ ท่านใช้คำว่า ศีลธรรมของยุวชนคือสันติภาพ    ของโลก ท่านพุทธทาสเทศน์ไว้หลายสิบปีว่าเราต้องปฏิรูปการศึกษาของไทยต้องสอนวิชาการ วิชาชีพควบคู่กับธรรมะฝึกฝนธรรมะที่นี้เดินตามรอยท่านพุทธทาส 100 %

นักศึกษาของเราต้องทำวัตรเช้าตอนที่ 5ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาฟังเทศน์ แล้วถึงไปเรียนหนังสือ เวลา 1 ทุ่มทำวัตรเย็น ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ฟังธรรม แล้วถึงเข้านอน  ระหว่างสัปดาห์เราจะมีชั่วโมงที่พระคุณเจ้า จะสอนธรรมะศึกษา ถ้าภาษาชาวบ้านก็จะเรียกว่า สอนนักธรรมตรี  นักธรรมโท นักธรรมเอก เด็กของเรานอกจากสวดมนต์  ไหว้พระ แล้วปฏิบัติสมาธิแล้วยังต้องเรียนบทเรียนของงพุทธศาสนา ให้รู้ลึกซึ้งว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรไว้  ชาวพุทธควรทำตัวอย่างไร เรียนด้วยความภาคภูมิใจนะ   วันนี้เด็กของเราจะสอบนักธรรมตรีได้ 80-90-100คนเป็นประจำทั้ง 5 ปี บางคนสอบนักธรรมโทได้แล้ว  บางคนจะสอบ นักธรรมเอก เพราะฉะนั้น 5 ปี ที่อยู่ที่นี่เรากล่อมเกลา บ่มเพาะ ปลูกฝังคุณธรรม ศีลธรรม ในใจของเด็กเหล่านี้
         
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า มหัศจรรย์มากครับ นี่เป็นวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีสำนักสงฆ์อยู่ภายในวิทยาลัย เรามีพระคุณเจ้า จำพรรษาประจำอยู่ที่นี่ 5 รูป มีกุฏิพระ มีโรงฉันท์พระ พระคุณเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบดูแลอบรมกล่อมเกลาธรรมะนำทาง เด็กให้ปฏิบัติธรรมะ ที่เรายึดถือคือเรื่องของการใช้ชีวิตตามทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลางที่วิเศษสุด  จับต้องได้คือทางสายกลางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงศึกษาและสร้างรูปแบบการปฏิบัติที่กลายเป็นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพระราชทานให้กับคนไทย เรากราบเรียนด้วยความภาคภูมิใจว่า คนที่นี่รักชาติศาสนาพระชมหากษัตริย์ จงรักภักดีต่อสถาบันและจงรักภักดี ด้วยการกระทำ คือได้น้อมเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีชีวิตของอาจารย์และนักศึกษา ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ  ที่นี่เราทำนาเองนักศึกษากับอาจารย์ เราทำนาปลูกข้าว ที่นี่เราปลูกผักเองผักปลอดสารพิษเพื่อ บริโภคเองและมีจัดส่งขายให้ตามรีสอร์ท และตามโรงแรมต่างๆ เราเลี้ยงไก่เองเรามีฟาร์มไก่ 3 พันตัว มีไข่วันละ2,700-2,800 ฟอง นักศึกษา อาจารย์ได้บริโภคที่เหลือก็เอาไปขาย ฝึกเด็กกันไป   ปีใหม่นี้เราจะขายฟาร์มเลี้ยงไก่จาก 3พันตัว เป็น3หมื่นตัว  ทำบ่อเลี้ยงปลา  และเราจะทำฟาร์มเลี้ยงแพะนม ต่อไปเด็กของเราก็จะได้กินอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื้อนมไข่ และเป็นอาหารที่ปลอดภัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ฟรี  เด็กที่มาอยู่ที่นี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ลูกคนจนมาเรียนที่นี่มาจากทุกภูมิภาคของประเทศ วันนี้เรามีนักศึกษาชาวเขามาเรียนด้วยถึง 23 คน มีมาจาก ปกาเกอะญอ เราปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน เพราะนี่เป็นวิทยาลัยของประชาชนเราปฏิบัติต่อลูกของประชาชนเหมือนกันหมด
           
นายสุเทพ กล่าวต่อว่าในเนื้อที่ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ65 ไร่ เราฝึกเด็กของเราให้รับผิดชอบ  บริหารจัดการวิทยาลัยด้วยมือของนักศึกษาตามโรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัยต่างๆ เขาจะแบ่งนักศึกษาเป็นสีต่างๆ แต่ที่นี่เราแบ่งกลุ่มนักศึกษาของเราเป็น 8 กลุ่มตามหลักธรรมสำคัญของพระพุทธเจ้าที่มรรคมีองค์ 8  มีกรรมการของแต่ละกลุ่มแล้วมานั่งปรึกษากันว่าจะดูแลวิทยาลัยกันอย่างไรในเนื้อที่ 65 ไร่ เราไม่มีภารโรงนักศึกษาเราทำกันเองหมด ตั้งแต่ปลูกต้นไม้ พรวนดินดูแลความสะอาดห้องน้ำ ห้องเรียนกันเองหมด ทำนา ปลูกผักเลี้ยงไก่ด้วย  ไม่ค่อยเหมือนตามบ้านเรือนประชาชน เดี๊ยวนี้มีหลายบ้าน  รักลูกเกินไปหน่อย ลูกเรียนหนังสือไม่ให้ลูกทำอะไรเลย  แต่ที่นี่ไม่ได้ เด็กที่นี่ต้องเรียนรู้  ต้องทำงานหนักพร้อมที่จะออกเหงื่อเพราะทำด้วยหัวใจที่มีธรรมะท่านอาจารย์พุทธทาสสอนการทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นเด็กพวกนี้เขาจะแบ่งหน้าที่หมุนเวียนกันทำเขาทำด้วยกันด้วยความเพลิดเพลิน เด็กที่ได้รับการฝึกฝน 5 ปี ให้ใช้ชีวิตอย่างนี้ พอออกไปอยู่ในสังคมเขาเป็นคนที่ไม่กลัวงานหนัก  เรียนรู้ เรื่องการทำงานร่วมกันกับคนอื่นแบบเป็นทีมมาแล้ว ที่วิทยาลัยฯ เด็กเหล่านี้ เราจะบอกเขาหมดว่าเรามีโครงการอะไร เราจะทำอะไร เราปรึกษากัน อาจารย์กับเด็กทุกคนต้องปรึกษากันเห็นพ้องกันขับเคลื่อนไปด้วยกัน เป็นชีวิตที่ค่อนข้าง พิเศษ หนัก จริงจัง ตั้งแต่วันเปิดเทอมจนถึงปิดเทอม เราไม่มีวันหยุดเลย เราไม่มีเสาร์อาทิตย์ เพราะชีวิตคนจริงๆไม่มีจังหวะให้พัก เราก็ฝึกเด็กของเราอย่างนี้    เราดูแลด้วยความระมัดระวัง ครูที่นี้ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครมาด้วยอุดมการณ์ มาด้วยจิตวิญญาณ ทุกคนทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเป็นพ่อเป็นแม่นอกจากการเป็นครู ให้ความอบอุ่นให้คำปรึกษา ให้คำชี้แนะเราอยู่ด้วยความอบอุ่นอย่างนี้
      
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า  เงินทุกบาทที่เอามาใช้ในวิทยาลัย มาจากการบริจาค  เราไม่ใช่องค์กรที่จะแสวงหากำไร  เพราะฉะนั้นเราก็บริจาค  แล้วทำให้ลูกคนจนทั่วประเทศไทยมีโอกาสในชีวิต โดยการมาเรียนที่นี่   หากท่านมาที่นี่จะได้สัมผัสกับความน่ารักของเด็ก ผมภูมิใจมากที่ได้ร่วมทำงานกับมวลมหาประชาชน สร้างสิ่งดีเหล่านี้ให้กับประเทศ
         
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เราต้องเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย  ต้องผลักดันกันต่อไป อะไรที่ลงมือทำได้ด้วยมือของประชาชนเราลงมือทำเลยเหมือนกับที่เราจะปฏิรูปการบริหารจัดการการศึกษาระดับอาชีวะเราทำเลย  ถ้าประชาชนพร้อมใจกันทำวิทยาลัยอย่างนี้ขึ้นทุกจังหวัด  เพื่อผลิตบุคลากรชั้นดีเอาไปป้อนตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมต่างๆของของเราคิดมาก   เพราะไม่เฉพาะแต่การหางานทำในประเทศ เด็กของเราเมื่อจบแล้วเราภาษาอังกฤษดี ภาษาจีนดี สามารถไปทำงานได้ทั่วโลก นี่คืออนาคตของประเทศไทย และในโอกาสนี้ตนขอกราบขอบพระคุณผู้ที่ใจบุญที่ช่วยสนับสนุนกิจการของวิทยาลัย มาโดยตลอด ผมยังมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานอย่างหนักให้วิทยาลัยแห่งนี้จะต้องหาหนทางภายใต้ความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่สามารถสร้างผลผลิต สร้างงานบริการ หาเงินเข้าวิทยาลัยวันข่างหน้าเกิดอะไรขึ้นวิทยาลัยก็ยังอยู่ในฐานะเป็นองค์กรของประชาชนที่ประชาชนช่วยกันดูแลต่อไป 
     
นายสุเทพกล่าวต่อว่า กับความร่วมมือกับภาครัฐ นั้น  ทางวิทยาลัยได้มีเจ้าหน้าที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ของกรทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรมผู้ว่าการสถาบันมาเองมีการส่งนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ มาดูพูดคุยกับอาจารย์ นักศึกษา และดูในเรื่องการเรียนการสอนและให้คำแนะนำเพื่อที่จะพัฒนาและปรับปรุงในเรื่องต่างๆ กับทางวิทยาลัย  ส่วน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เองก็มีอธิการบดีการนำทีมมาเองเลยมีทั้งคณบดีคณะสัตว์แพทย์ คณบดีคณะประมง และอาจารย์อีกมากมายมาลงพื้นที่ดูวิทยาลัยว่าจะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่อย่างไรให้สมบูรณ์ด้วย และหากได้มีโอกาสมาเกาะสมุย ก็แวะมาเยี่ยมชมวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณได้นะครับ
 

หน้าแรก » การเมือง