วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568 05:31 น.

การเมือง

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ หวังคลี่คลายสถานการณ์ชายแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.20 น.

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) สมัยวิสามัญ ได้เสร็จสิ้นลงภายในเวลา 1 ชั่วโมง โดยตัวแทนจากทั้งสองประเทศเห็นพ้องร่วมกันในการปฏิบัติตาม ข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ซึ่งเป็นแนวทางที่จัดทำขึ้นร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย และฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา

ในการนี้ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย และ พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามใน บันทึกผลการประชุม เพื่อยืนยันข้อตกลงและข้อสรุปที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันตลอด 3 วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การประชุมมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน สร้างความสงบเรียบร้อย และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายไทยยังคงยืนยันสนับสนุนการใช้ กลไกทวิภาคี เพื่อการเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ทั้งนี้พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทยทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน คือทั้งสองฝ่ายยึดมั่นหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท และคงกำลังที่ตั้งเดิมตั้งแต่วันที่หยุดยิง  โดยทั้งสองฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุ ทั้งในทางทหารและการให้ข้อมูลข่าวเท็จ เพื่อหาทางออกสันติ และจะปฏิบัติกฎหมายมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด คือเร่งเก็บและส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย รวมถึงจะรักษาช่องทางพูดคุยและการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่

ทั้งนี้ หลังจากนี้จะประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ใน 2 สัปดาห์ และประชุม GBC ในอีก 1 เดือน เพื่อติดตามความคืบหน้าตามผลประชุมครั้งนี้

ทั้งนี้ประเด็นที่ถูกนำไปขึ้นโต๊ะเจรจาแก้ปมขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือ GBC ที่มาเลเซีย 7 ส.ค.นี้ มี พล.อ.ณัฐพลเป็นหัวหน้าทีม โดยมีเงื่อนไข 8 ข้อที่เปิดเผยแล้ว ดังนี้

1. ให้ไทย-กัมพูชา หยุดยิงเด็ดขาด โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงที่จะหยุดยิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อยุติการปะทะ และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งกำลังพลและประชาชน

2. การคุ้มครองประชาชน เน้นย้ำมาตรการคุ้มครองพลเรือน และจะไม่ยิงโจมตี ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

3. การงดการเสริมกำลัง ห้ามไม่ให้มีการนำกำลังทหาร หรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม เข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์

4. การห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง โดยตกลงว่า จะไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล ภายในพื้นที่ชายแดน ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มความตึงเครียด ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพพื้นที่ให้คงที่

5. การอำนวยความสะดวกการส่งกลับ โดยทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกส่งกลับผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะ

6. การจัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมจัดตั้งคณะทำงานประสานงานฝ่ายละ 4 นาย ทำหน้าที่สื่อสาร และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

7. การปรับกำลังทหาร เพื่อลดการเผชิญหน้าของกำลัง 2 ฝ่าย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักสำคัญ ที่นอกเหนือจากการหยุดยิง / เพราะหากกำลังทหารสองฝ่าย เผชิญหน้ากันอยู่ จะทำให้เกิดการปะทะกันได้ตลอดเวลา

8. หากไทย-กัมพูชา เห็นพ้องต้องกัน อาจนำไปสู่การลงนามเป็นข้อตกลง และให้มีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้ง 2 ประเทศ

และยังเหลืออีก 5 ข้อที่ยังไม่เปิดเผย 

หน้าแรก » การเมือง