วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:55 น.

การเมือง

ตามไปดู : โคก หนอง นา“น้ำไม่ท่วม”

วันอาทิตย์ ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 14.35 น.

จากสถานการณ์มหาอุทกภัยน้ำท่วม พายุเตี้ยนหมู่ เกิดฝนตกหนักถล่ม 40 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วม พื้นที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมากหลายจังหวัดผลผลิตจมอยู่ภายใต้น้ำนับเดือนก่อให้เกิดความเสียหายนับล้านไร่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคอีสานในบางจังหวัด 
            
แต่กลายเป็นเรื่องฮือฮาเมื่อแปลง“โคกหนองนา” ของประชาชนหลายจังหวัด “ไม่จมน้ำ”  โดยเฉพาะภาพข่าวแปลงของ “อดิรุจ แสงชัย” ผู้นำต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” บ้านโคกกระมือ หมู่ 5 ตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
 
“ทีมข่าวเฉพาะกิจ” ได้รับคำแนะนำจาก สุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อไปพูดคุยกับ อดิรุจ แสงชัย พร้อมกับพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงไปดูวิธีการบริหารจัดการโคกหนองนา ว่า คนเหล่านี้มีภูมิปัญญา วิธีการป้องกันน้ำท่วม การจัดการแปลงโคกหนองนา ทำอย่างไรให้มีน้ำใช้ได้ตลอดปี รวมทั้งมีผลผลิตที่เลี้ยงครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขได้ ตามศาสตร์ของพระราชา ขณะเดียวกันให้บุคคลเหล่านี้ถ่ายทอดความความสุข สำเร็จที่ได้เข้าร่วม และความมั่นใจที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข รวมทั้งสังคมและสภาพแวดล้อม ดีขึ้นได้อย่างไร หลังจากประชาชนเหล่านี้ทำ “โคก หนอง นา” กับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

“อำเภอศรีสำโรง”  ช่วงที่ทีมข่าวลงพื้นที่ยังมีน้ำท่วมอยู่กินพื้นที่กว้าง ท้องทุ่งเหมือนทะเล ประชาชนเดือนร้อนหนัก ข้าวในนาที่ถูกน้ำท่วมหมดสิทธิ์เก็บเกี่ยวแล้ว เพราะระยะเวลาที่ข้าวกำลังออกรวงถูกน้ำท่วมมิดกินเวลานับเดือนแบบนี้   “เน่าเสียหาย” หมดสิ้นแล้ว ในขณะที่ถามชาวบ้านภาครัฐไม่มีการเยียวยาแต่ประการใด คงได้ยินแต่เสียงการหาเสียงของนักการเมืองท้องถิ่นที่เสนอนโยบายแก้ปัญหาต่าง ๆในพื้นที่ โดยเฉพาะการป้องกัน“น้ำท่วม”

การเดินทางเข้าไปยังแปลงโคกหนองนาของ อดิรุจ แสงชัย  ช่วงที่เราเดินทางลงไปฝนยังคงตกอยู่ต่อเนื่อง ถนนลื่น และเป็นถนนเลนเดียว ค่อนข้างลำบาก ตลอดทางเห็นน้ำท่วมท้องนา ขนาดเราเห็นแล้วยังอดสงสารชาวบ้านไม่ได้  มีก้อนน้ำมหึมามองไปซ้ายขวาขาวโพลนไปด้วยน้ำเหมือนเราลอยอยู่ในทะเลสาบ เห็นชาวบ้านกัดตะขัด จับปลา ตกเบ็ด เป็นระยะ ๆ   
           
ท่ามกลางน้ำท่วมแบบนี้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมแปลงโคก หนอง นา ของ อดิรุจ แสงชัย น้ำจึงไม่ท่วม  ซึ่งเขาบอกกับทีมงานว่า 

ครั้งแรกเลยเมื่อปี2559 ก็ได้เรียนรู้ในเรื่องของการจัดการน้ำกับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. ไปอบรมหลายที่รวมทั้งที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์การมหาชนที่ปทุมนะครับก็กลับมาลงมือทำแปลง จากนั้นก็ได้มีโอกาสไปอบรมกับกรมการพัฒนาชุมชนเรื่องของผู้นำต้นแบบที่ศูนย์ พช.พิษณุโลกด้วย

“หัวใจสำคัญการบริหารจัดการน้ำ เราต้องทำความเข้าใจกับบริบทพื้นที่ของเราก่อน ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ แล้วเอาความรู้ที่ได้จากการอบรมมาจัดการกับแปลงที่ดินของเรา ซึ่งสอดคล้องกับหัวใจสำคัญของการทำโคกหนองนา คือ ในเรื่องของการอนุรักษ์ดินและน้ำ เรื่องของการสร้างความมั่นคงของอาหาร และก็ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงฐานราก จริงๆแล้วเศรษฐกิจพอเพียงฐานรากก็เหมือนบันได 4 ขั้น ขั้นแรกพอกินพอใช้พออยู่ และพอร่มเย็นก่อน อันนี้เป็นขั้นพื้นฐาน ที่คนเดินตามเศรษฐกิจแนวนี้ต้องทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยขยับไปสู่ขั้นต่อไป..”
              
เมื่อทีมงานถามว่า ก่อนที่จะเดินตามเศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์ของพระราชานี้ ได้ทำอะไรมาก่อนอดิรุจ บอกความหลังของชีวิตว่า ตนเองขายแรงงานในกรุงเทพมหานครตั้งแต่เด็ก อยู่ห้องเช่า รายรับไม่พอรายจ่าย ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ชีวิตอยู่ด้วยความเครียด ทุกข์ จึงกลับมาอยู่บ้านเกิด ทำนาอยู่ 3-4 ปี 

กลับมาจากกรุงเทพก็ทำนา ทำนาอยู่ 3-4 ปี ขาดทุนต่อเนื่องเป็นหนี้หลายแสน ทุกข์อีก ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จนตรอก จึงนึกถึงเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชแบบผสมผสาน จึงไปอบอรมกับ กปร. หลายครั้ง รวมทั้งของอาจารย์ยักษ์ หรือ ดร. วิวัฒน์ ศัลยกำธร และมูลนิธิต่าง ๆ ที่ทำเรื่องนี้ กลับมาลงมือทำเลย ที่ดินมีอยู่ 17 ไร่ แบ่งทำโคกหนองนา 7 ไร่ ปลูกพืชแบบผสมสงาน ขายผัก ขายของได้ก็เอาเงินมาขุดสระ ทำเป็นโคก ใช้หนี้ 
            
ตอนนี้ปลดหนี้แล้ว ของในสวนมีทุกอย่าง มีรายได้ประจำ คิดง่าย ๆ อยากได้เงินเมื่อไรก็เก็บผัก จับปลา ขายได้ตลอด อยู่กรุงเทพ ไม่ได้แบบนี้ กรุงเทพขายแรงงานอย่างเดียว ขายแรงไม่ได้ก็อด อยู่นี่ของกินในสวนมีทุกอย่าง เงินไม่มีก็อยู่ได้ 
             
“แปลงโคกหนองนาของผมน้ำไม่ท่วม เพราะทำคันนาทองคำไว้สูงประมาณ 2 เมตร ทำคันดินไว้ 3 ระดับ มีน้ำตลอดปี ตอนขุดสระมีน้ำ เลยบริหารจัดการน้ำได้ ตั้งใจไว้ว่าตรงนี้ อยากให้เป็นแปลงพื้นที่ต้นแบบในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเรื่องของการใช้ชีวิตที่พึ่งพาตนเองได้ในส่วนหนึ่งจะให้เด็กรุ่นหลังเดี๋ยวนี้พวกเขาจะไปในเรื่องของทุนนิยมกันมากเช่นเรื่องโทรศัพท์ไอโฟนแบบนี้ บางทีเด็กชนบทบ้านนอกเขามีความคิดเอาแบบลูกคนรวยมาใช้ แต่เขาไม่ได้ดูพื้นฐานการเป็นอยู่ครอบครัวหรือพ่อแม่ อยากจะทำให้เป็นแปลงต้นแบบเพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นว่าอาจจะไปทำงานที่อื่นไปไม่รอดอะไรแบบนี้ ก็อยากกลับมา กลับมาคือยังมีพื้นฐานตรงนี้ไว้รองรับก็คือ ทุนทางสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ดินที่เรายังมีให้พึ่งตนเองได้อยู่
       
โคกหนองนา มันไม่ได้ให้ความสุขเฉพาะคนทำเท่านั้น มันให้ความสุขแก่ชุมชน สังคมและโลกด้วย เพราะโคกหนองนา เน้นปลูกต้นไม้ ปลูกผักปลอดสารเคมี สร้างอากาศที่ดี หายใจสะดวก ทุกอย่างมันก็ดูดีหมด ” 

อำเภอศรีสำโรงมีแปลงโคกหนองนาทั้งสิ้น 117 แปลง ขนาด 15 ไร่ มีถึง 10 แปลง และขนาด 1 ไร่  3 ไร่ มี 107 แปลง บางแปลงยังไม่ได้ขุด เพราะเจอน้ำท่วม 
          
“กัญญา จิตงามขำ” พัฒนาการอำเภอศรีสำโรง พร้อม อดิรุจ แสงชัย และ นพต.หรือนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบอีกหลายชีวิต พาเดินชมรอบ ๆ แปลง ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผัก ผลไม้และไม้เศรษฐกิจหลากหลายชนิด
        
“วรรณรา อินทรภักดี” นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ บอกกับเราว่า เราเป็น นพต.ทำทุกอย่าง ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยช่างออกแบบ ตีผัง เรื่องเอกสารเราก็ทำได้ ตอนนี้หลายแปลงถูกน้ำท่วมเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ไปเยี่ยมและไปให้กำลังใจเจ้าของแปลงในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งเช่นเดียวกันกับ นพต.อีกท่านคือ “ธนาภรณ์ ภูมิรา” บอกว่า เดิมเป็นช่างเสริมสวย งานไม่มีก็เลยสมัครมาทำงานตรงนี้  ทำทุกอย่างตามที่กรมการพัฒนาชุมชนให้ทำ โดยเฉพาะประสานงานกับเจ้าของแปลงต่าง ๆ  มีความสุขมาก ที่ได้มาทำตรงนี้ เพราะนอกจากพบกับชาวบ้านที่สนใจเรื่องเหล่านี้แล้ว เราได้วิชาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปในตัวด้วย..
            
เฉกเช่นเดิมเพื่อให้เข้าถึงชาวบ้านและชาวบ้านจะได้มั่นใจในการเดินสายศาสตร์ของพระราชาว่าเป็นที่พึ่งได้ ทางทีมงานได้ต่อโทรศัพท์สายตรงถึง สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ได้พูดคุยกับ อดิรุจ แสงชัย  ตามที่ท่านได้สั่งเอาไว้ว่า ไปลงพื้นที่ไหนให้พี่ได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวบ้านและข้าราชการในพื้นที่นั้น ๆ บ้าง!!
 

หน้าแรก » การเมือง