วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 16:12 น.

การเมือง

รับคำสั่ง "บิ๊กตู่" ! กบง.ลดราคาดีเซลลงเหลือลิตรละ 28 บาทแล้ว

วันพุธ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 12.34 น.

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ตามที่ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการระดับ ที่เกี่ยวข้องกับราคาพลังงาน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีข้อสั่งการให้ดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ระดับ 28 บาทต่อลิตร ประกอบกับราคาตลาดโลกเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยนั้น

วันนี้(24พ.ย.) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้จัดประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางลดราคาดีเซลเป็นระดับ 28 บาทต่อลิตร  นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงผลประชุมกบง.ว่ามีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นัดพิเศษที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาน เพื่อพิจารณาหาแนวทางลดราคาน้ำมันตามนโยบายนายกรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีมติเคาะแนวทางปรับสูตรน้ำมันดีเซลเหลือ1ชนิดคือบี7 จากปัจจุบันมี3ชนิดคือ บี7 บี10 และบี20 ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลจะลดลงลิตรละประมาณ 50-80 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 28 บาทต่อลิตร โดยกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. …. ใหม่ ที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล 7% ต่อไป นอกจากนั้นกบง.จะขอให้ผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตรด้วย

ทั้งนี้ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อเดือน ผลจากมติครั้งนี้ทำให้กองทุนฯมีภาระชดเชยเหลือ 3,886 ล้านบาท ฐานะกองทุนล่าสุดอยู่ที่ 2,596 ล้านบาท

สำหรับราคาน้ำมันขายปลีก ปัจจุบันของพีทีที สเตชั่น และบางจากคอร์ปอเรชั่น วันที่ 24 พ.ย.64 เบนซิน ลิตรละ 38.46 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 31.05 บาท, E20 ลิตรละ 29.54 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.78 บาท, อี 85 ลิตรละ 23.69 บาท, ดีเซล B7 ลิตรละ 28.84 บาท, ดีเซล B10 ลิตรละ 28.69 บาท, ดีเซล B20 ลิตรละ 28.59, ดีเซลพรีเมียม B7 ลิตรละ 34.46 บาท โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร

ราคาน้ำมันดิบขึ้นคาดโอเปกระงับแผนเพิ่มผลิต
 
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP รายงานสถานการณ์น้ำมันดิบปิดตลาด ล่าสุด วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดที่ 78.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังคาดการณ์กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิต หลังสหรัฐฯ และชาติผู้ใช้น้ำมันหลักประกาศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในการดำเนินมาตรการดังกล่าว ทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย โดยที่สหรัฐฯ จะระบายน้ำมันดิบจำนวน 50 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรอง อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันมันดิบที่ปล่อยออกมา 32 ล้านบาร์เรลจะถูกซื้อคืนในภายหลัง

ด้านสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 19พ.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่น้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลและน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง