วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565  เวลา 17 .00 น.หลังจากปิดหีบลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่-จตุจักร  ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 167,287 คน หน่วยเลือกตั้ง 280 หน่วย ผู้สมัคร 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย

นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี หมายเลข 1

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า หมายเลข 2

นายสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย(พท.) หมายเลข 3

น.ส.กุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ หมายเลข 4

นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์ หมายเลข 5

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล(ก.ก.) หมายเลข 6

นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) หมายเลข 7

นายเจริญ ชัยสิทธิ์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน หมายเลข 8

บรรยากาศที่หน่วยเลือกตั้งที่ 24-27 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงภาพยนต์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ปรากฏว่าผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคกล้าและหมายเลข 6 จากพรรคก้าวไกลมีคะแนนเบียดกันอย่างสูสี

“เพื่อไทย” นำโด่ง “ก้าวไกล” มาแรง 
 
เมื่อเวลา 20.00 น. การนับคะแนนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ที่ผ่านไปราว 1 ชั่วโมง  หลายหน่วยการเลือกตั้ง นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเบอร์ 3 จากพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำ โดยเฉพาะพื้นที่เขตหลักสี่ ประมาณ 27,604  คะแนน ตามมาด้วย นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครเบอร์ 6 จากพรรคกล้า มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ประมาณ 18,884   คะแนน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเบอร์ 2 จากพรรคกล้า ที่ได้คะแนนส่วนใหญ่จากเขตจตุจักร ทำให้มีคะแนนเป็นอันดับ 3 ประมาณ 18,036   คะแนน  ขณะที่ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเบอร์ 7 จากพรรคพลังประชารัฐ ภรรยาของนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่ มีคะแนนมาเป็นอันดับที่ 4  ประมาณ 7,475 คะแนน โดยบางเขตพบว่า นางสรัลรัศมิ์ ได้คะแนนน้อยกว่า นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครเบอร์ 1 จากพรรคไทยภักดี ด้วยนายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักรว่า ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการคาดว่าจะไม่เกินเวลา 22.00 น. โดยหลังปิดการลงคะแนนในเวลา 17.00 น. จะเริ่มนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเมื่อนับคะแนนเสร็จแล้วจะรวมคะแนนและส่งไปยังศูนย์ประสานงานของแต่ละเขต และมีศูนย์รวมคะแนนใหญ่อยู่ที่สำนักงานเขตหลักสี่

เมื่อผลออกมาเช่นนี้ นางสรัลรัศมิ์ได้แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ ตามด้วยนายอรรถวิชช์และนายกรุณพล

ประธานกกต. เผยพอใจ ภาพรวมการเลือกตั้ง 

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงภาพรวมการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า ตั้งแต่เวลาเปิดหน่วยเลือกตั้ง 08.00 น. ถึงตอนนี้ ตนได้ตะเวนตรวจหน่วยเลือกตั้ง 77 หน่วย พบว่ามีประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาใช้สิทธิ์น่าพอใจ มาไม่ขาดสาย บางที่หีบบัตรเกือบเต็ม ขณะนี้มีเวลาอีกกว่า 1 ชั่วโมงในการใช้สิทธิ์ ดังนั้นภาพรวมน่าพึงพอใจคำร้องเมื่อเช้าตอนให้สัมภาษณ์ประมาณ 10.00 น. โมง มี 3 คำร้อง และตอนนี้ยังไม่เพิ่ม ซึ่งเกี่ยวกับการกระทำใส่ร้าย ฝ่าฝืนมา 73 (5) อย่างไรก็ตามหน้าหน่วยยังไม่พบรายทุจริต มีรายงานข่าว และยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการทุจริต

ส่วนการประเมินเบื้องต้น ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนขอเทียบกับการเลือกตั้งปี 2562 ช่วงนั้นเขตเลือกตั้งที่ 9มีผู้มาใช้สิทธิ์ 74.54 % รวมทั้งเลือกตั้งล่วงหน้าและนอกราชอาณาจักร ส่วนกรณีเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวนี้ ไม่ได้มีการจัดให้เลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่เมื่อดูจำนวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ก็หวังว่าจะใกล้เคียงกับปี 62 พร้อมย้ำว่า พึงพอใจกับการออกมาใช้สิทธิ์ของประชาชนในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้

เมื่อถามว่า นอกจากการกระทำความผิดตามกฏหมายการเลือกตั้งยังมีเรื่องอื่นที่ต้องสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนการร้องเรียนนั้นสามารถทำได้ 30 วัน หลังจากประกาศผล ส่วนการถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งนั้น ก็มีแต่เราสามารถเตือนไว้ได้ทัน ฉะนั้นจึงไม่มีการฝ่าฝืน และในครั้งนี้หน้าหน่วยเลือกตั้ง เราได้มีการประกาศสิ่งที่ไม่ควรพึงกระทำเอาไว้ คนที่ช่วยดูเรื่องบัตรคิวจะคอยเตือนผู้มาใช้สิทธิ์ว่าให้หลีกเลี่ยงในการกระทำสิ่งเหล่านี้ เพราะผิดกฎหมายการเลือกตั้ง

“ในส่วนการนับคะแนนนั้น เรามีบทเรียนเลือกตั้งทั่วไป ในเดือนมี.ค. การเลือกตั้งอบจ. การเลือกตั้งเทศบาล และการเลือกตั้งอบต. ดังนั้นเรากำชับกปน. ว่าการนับคะแนนไฟต้องสว่างเพียงพอ การมีขานคะแนนต้องชัดเจน เมื่อมีผู้คัดค้านก็ต้องให้ลงแบบที่เกี่ยวข้อง และกระดานที่นับคะแนน ควรจะเลื่อนเข้ามาให้อยู่ใกล้ผู้สังเกตการณ์ ซึ่งกำชับไปทุกครั้งและหวังว่าจะเป็นไปอย่างทั่วถึง”

ส่วนผลการนับคะแนนนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่าหน้าหน่วยคาดว่าจะไม่ช้านัก เพราะปี 2562 มีหน่วยเลือกตั้ง 233 หน่วย ส่วนในปี 2565 มี 280 หน่วย เพื่อลดความแออัดและป้องกันโควิด -19 ดังนั้นในแต่ละหน่วยคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อยลง เช่น คาดว่าหน้าหน่วยจะแล้วเสร็จประมาณ 19.00 น. ส่วนภาพรวมการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการอย่างช้าไม่น่าจะเกิน 22.00 น. ทั้งนี้ผู้ที่สนใจ หน่วยงาน หรือใครที่สนใจจะมาตรวจสอบการเลือกตั้ง ก็สามารถมาได้ระหว่างการนับคะแนน ซึ่งสามารถคัดค้าน ซึ่งกรรมการประจำหน่วยมีหน้าที่อธิบายว่าทำไมถึงเป็นอย่างงั้น อย่างนี้ และมีการบันทึกไว้ เผื่อมีเรื่องอะไรจะได้ส่งให้ผอ.จังหวัด ผอ.กทม. ดังนั้นการนับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้งเป็นไปอย่างเปิดเผย และได้กำชับไว้เป็นอย่างมากเพราะเราให้ความสำคัญในส่วนนี้