เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความอ้างว่า นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) นักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรอง–ความมั่นคง ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาในฝั่งจังหวัดสระแก้วตามคำเชิญของกัมพูชา โดยมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จและสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย

พล.ต.ท.ปิยะ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่บิดเบือนและมีลักษณะสมคบคิดกับต่างชาติ เพื่อทำลายความมั่นคงและภาพลักษณ์ของไทย อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 120, 128, 129 และมาตรา 83 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต แม้เหตุเกิดนอกราชอาณาจักร แต่ยังสามารถดำเนินคดีได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 7 (1)

นอกจากนี้ การกระทำของนายไมเคิลยังเข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ ตามมาตรา 12 (7) พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคมและความมั่นคง โดยไทยสามารถประกาศห้ามเข้าประเทศได้ทันที

โฆษกพรรคพลังประชารัฐเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการประท้วงต่อสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เพื่อยืนยันสถานะและความเกี่ยวข้องที่แท้จริงของนายไมเคิลกับรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมเปิดเผยคำตอบอย่างเป็นทางการให้ประชาคมโลกได้รับทราบ

ทั้งนี้ มีรายงานว่าการเดินทางของอัลฟาโรได้รับการต้อนรับจากนายซอย สุภาพ นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลกัมพูชา และนายซุน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นไปได้สูงว่าถูกว่าจ้างให้ทำหน้าที่บิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านสื่อออนไลน์ และถูกนำไปขยายผลโดยกองปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ของกัมพูชา เพื่อสร้างภาพว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ขณะที่ข้อเท็จจริงคือฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้รุกราน

“รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉย ต้องรีบใช้กลไกทางกฎหมายและการทูต เพื่อปกป้องประเทศจากการโจมตีด้วยข้อมูลเท็จอย่างเป็นระบบ” พล.ต.ท.ปิยะกล่าวย้ำ