วันศุกร์ ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:17 น.

การเมือง

ฝนถล่มกรุงน้ำรอระบายท่วม! ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.โชว์วิสัยทัศน์ลงพื้นที่โกยคะแนน

วันพุธ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 14.23 น.

ฝนถล่มกรุงน้ำรอระบายท่วม! "ชัชชาติ" ดูน้ำขังชุมชนริมคลองบางบัว ไม่กังวลฝั่งตรงข้ามเทคะแนน "พวงเพ็ชร" ปลุกเลือก "ส.ก.เพื่อไทย" แลนด์สไลด์น้ำท่วมจะหายไป ​ ขณะที่ "วิโรจน์"  โชว์วิชั่นแก้ปัญหาน้ำท่วม ซัด "อดีตบิ๊ก กทม." ตัดงบทิ้งเหี้ยน ทางด้าน "ศุภชัย" เดินหน้า "ลุยทุกตรอก เข้าออกทุกซอย" ดูพื้นที่น้ำท่วมขัง

เมื่อวันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมหลังฝนตกหนักเมื่อวานนี้ทำให้ชุมชนริมคลองบางบัวมีน้ำท่วมขัง โดยนายชัชชาติลงพื้นที่สอบถามปัญหา และความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้ผู้ว่าฯแก้ปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากชุมชนริมคลองบางบัวไม่มีคันกั้นน้ำและเมื่อฝนตกหนัก น้ำท่วมแนวคันน้ำจึงล้นเข้าบ้าน ก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯคนอื่นได้บอกว่าจะเข้ามาทำให้ชุมชนน้ำไม่ท่วม ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้ได้แต่ชาวบ้านทุกคนเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว ไม่ได้โทษใคร แต่อยากให้ผู้ว่าฯคนใหม่เข้ามาทำตรงนี้ให้ชาวบ้าน

ขณะที่นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ ว่า ปัญหาคลองบางบัว แนวคันกั้นน้ำทำไม่สำเร็จเนื่องจากตอนนี้ผู้รับเหมาทิ้งโครงการก่อสร้างไว้กลางทาง จึงทำให้เป็นปัญหาซึ่งตนเองได้เห็นปัญหานี้แล้ว จะลงไปดูสัญญาโครงการเพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุง  ขณะเดียวกันในกทม.มีพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากหลายจุด อย่างคลองบางบัว น้ำท่วมคลองหากสูบน้ำออกจากคลองไปยังอุโมงค์ก็จะยิ่งดันน้ำเข้าบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งต้องไปแก้ไขการบริหารจัดการนี้ ส่วนปัญหาบนถนนลาดพร้าว และถนนเส้นอื่นที่มีน้ำท่วม และทำให้การจราจรติดขัดเมื่อช่วงเช้าส่วนหนึ่งเป็น เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า

จะต้องแก้ไขปัญหานี้เช่นเดียวกัน และยืนยันว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้ต้องการหวังคะแนนขายของช่วงโค้งสุดท้ายของคนกรุงเทพฯให้คนเลือกชัชชาติ แต่มาเพราะเห็นความเดือดร้อน อีกทั้งชุมชนนี้ตนยังไม่เคยลงพื้นที่ เมื่อได้รับข้อมูลจึงรีบวางแผน และลงพื้นที่ทันที และย้ำว่าการเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค.นี้เป็นการตัดสินใจของประชาชนจะเลือกใครมาแก้ปัญหาก็น้อมรับผลการเลือกตั้ง

ส่วนการแก้ปัญหาฝนตก น้ำท่วม ในฤดูฝนยังไม่ได้วางกรอบเวลาที่จะแก้ปัญหา แต่จะขอไปศึกษาโครงสร้างและการบริหารจัดการทั้งระบบ ส่วนกลยุทธ์การหาเสียงที่อีกฝั่งมีการเทคะแนนเสียงให้ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งนั้นนายชัชชาติ ระบุว่า ไม่กังวล เพราะการตัดสินใจเป็นของประชาชน ฝั่งไหนจะใช้วิธีไหนให้ชนะการเลือกตั้งก็เป็นสิทธิ์แต่ชัชชาติไม่ทำ

ส่วนการแก้ปัญหาฝนตก น้ำท่วม ในฤดูฝนยังไม่ได้วางกรอบเวลาที่จะแก้ปัญหา แต่จะขอไปศึกษาโครงสร้างและการบริหารจัดการทั้งระบบ ส่วนกลยุทธ์การหาเสียงที่อีกฝั่งมีการเทคะแนนเสียงให้ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งนั้นนายชัชชาติ ระบุว่า ไม่กังวล เพราะการตัดสินใจเป็นของประชาชน ฝั่งไหนจะใช้วิธีไหนให้ชนะการเลือกตั้งก็เป็นสิทธิ์แต่ชัชชาติไม่ทำ

จากนั้นนายชัชชาติได้เดินทักทายชาวบ้านในชุมชน ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่งกำลังกวาดน้ำออกจากบ้าน ชาวบ้านบอกนายชัชชาติ ว่า ดีใจที่เห็นผู้สมัครมา จะได้สะท้อนปัญหาเพราะตรงนี้ท่วมมานานแล้ว ได้ใครเป็นผู้ว่าก็ดีหมด แต่อยากให้แก้ปัญหาน้ำท่วมให้ ซึ่งนายชัชชาติ รับปาก พร้อมบอกว่า ขอกำลังใจ จากนั้นได้ถ่ายรูปและทำสัญลักษณ์เป็นเลข 8

"สกลธี" สวมบูทลุยจุดน้ำท่วม  ต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 3 ลงพื้นที่สำรวจบริเวณน้ำท่วมขังภายในซอยรัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ) หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 พฤษภาคม ต่อเนื่องนับ 10 ชั่วโมง จนเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ โดยกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น จะต้องแก้ไขกันทั้งระบบ หวังว่าสำนักงานเขต และสำนักการระบายน้ำ กทม. จะเร่งระบายน้ำในคลองลาดพร้าว อีกทั้ง ถึงเวลาแล้วที่เครื่องสูบน้ำต่างๆ จะใช้ระบบเอไอ (AI) ในการเปิด-ปิดระบบแบบอัตโนมัติด้วย

"สุชัชวีร์" ระบุ กทม.ต้องเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการน้ำท่วมใหม่

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่หาเสียงตลาดคลองเตย ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนจากคนในเขตคลองเตย ขอให้ช่วยแก้ปัญหา น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในตลาด เพราะที่ผ่านมา ไม่มีผู้ว่าฯ กทม. เคยทำสำเร็จ  โดยย้ำว่า ปัญหาน้ำท่วมรอการระบาย หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดปัญหารถติด สถานการณ์เช่นนี้ การลอกท่อ ลอกคลอง คงไม่เพียงพอ สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการน้ำท่วมใหม่ทั้งหมดอย่างจริงจัง ให้เหมือนกับในต่างประเทศเพราะปัญหานี้แทบไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ เลย ประเทศไทยมีคนเก่ง มีความรู้หลายคน คนไทยทำได้แน่นอน

ดังนั้น ขอโอกาสให้ตนได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.ด้วยแผนการจัดการที่น้ำท่วมที่ทันยุค ทันสมัย ที่ต้องใช้ความรู้ดเานวิศวกรรม เข้ามาแก้ไข โดยมั่นใจ ว่า ต้องเองทำได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องทำทันที คือ การสั่งการและบริหารจัดการ ควบคุมประตูระบายน้ำด้วยระบบอัตโนมัติในการ เปิด-ปิดให้ทันเวลา ทันกับสถานการณ์ที่เกิดโดยเฉพาะที่ฤดูฝน สาเหตุที่ต้องเป็นระบบอัตโนมัติก็เป็นเพราะหลายเขตร้องเรียนว่า ไม่มีคนไปเปิดประตูระบายน้ำ ช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้น้ำไม่ระบาย

"ไพศาล"ชี้ฝนตกยามใกล้เลือกตั้ง น้ำท่วมขังทั้งเมือง จะเอาอย่างเก่าอีกไหม
 
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก paisal puechmongko ระบุว่า ฟ้าลงทัณฑ์ บรรดาลฝนตกยามใกล้เลือกตั้ง น้ำท่วมขังทั้งเมือง จะเอาอย่างเก่าอีกไหม

"พวงเพ็ชร" ปลุกเลือก "ส.ก.เพื่อไทย" แลนด์สไลด์น้ำท่วมจะหายไป 

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งส.ก. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงเลือกตั้งส.ก.ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงที่ผ่านมา ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากนโยบายของเราทำได้จริง และประเด็นสำคัญเป็นเพราะคนกรุงเทพฯ อยากเปลี่ยนผู้บริหารจากชุดเดิมที่มาจากการแต่งตั้งจนทำให้คนกทม.ต้องเจอวิกฤติทุกด้าน ให้ได้ผู้บริหารชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งด้วยมือของพวกเขาเอง

นายพวงเพ็ชร กล่าวว่า หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก อยากขอให้คนกรุงเทพฯ สนับสนุนผู้สมัครส.ก.ของพรรคเพื่อไทยจำนวนมากๆ แบบแลนด์สไลด์ เพื่อเข้าไปผลักดันนโยบายช่วยเหลือประชาชนตามที่เราได้หาเสียงไว้ ซึ่งผู้สมัครของเพื่อไทยทุกคนพร้อมทำงานรับใช้ประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้น แก้ปัญหาต่างๆ ที่หมักหมุมมานานเช่น น้ำท่วมให้หายไป รวมถึงจะสะสางปัญหาต่างๆ ที่ซุกไว้ใต้พรมที่ถูกเก็บงำเอาไว้ เช่น เรื่องที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริต เราจะให้สภาฯกทม.ในการทำหน้าที่ตรงนี้

"หากอยากเปลี่ยนแปลงขอให้คนกรุงเทพฯ เลือกเพื่อไทย ซึ่งโค้งสุดท้ายนี้เราจะใช้สโลแกนอยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด ก็ขอโอกาสให้คนกรุงเทพฯไว้วางใจเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้" นางพวงเพ็ชร กล่าว

"วิโรจน์"  โชว์วิชั่นแก้ปัญหาน้ำท่วม ซัด "อดีตบิ๊ก กทม." ตัดงบทิ้งเหี้ยน

ทีมสื่อสาร พรรคก้าวไกล เผยแพร่ความเห็นของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ถึงกรณีฝนตกหนักเมื่อวานนี้ (17 พ.ค. 2565) ส่งผลให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่ว กทม. ว่า เมื่อวานฝนตกหนัก แต่ระบบระบายน้ำกลับเป็นอัมพาต การบริหารของผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมาปล่อยให้ระบบการระบายน้ำของกรุงเทพขาดการดูแลแบบนี้ได้อย่างไร

นายวิโรจน์ ระบุว่า หัวใจของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพอยู่ที่การจัดสรรงบประมาณ แต่ถ้าเราไปดูตัวเลขงบประมาณ งบที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกลับถูกตัดเหี้ยน

งบซ่อม/สร้างสถานี-ประตู-บ่อสูบน้ำ โดนตัดไป 5,170 ล้านบาท เหลือ 136 ล้านบาท
งบข้อมูลพยากรณ์อากาศและน้ำท่วม โดนตัดไป 295 ล้านบาท เหลือ 68 ล้านบาท
งบสร้างแก้มลิง โดนตัดไป 1,463 ล้านบาท เหลือ 96 ล้านบาท
งบเครื่องสูบน้ำและรถเคลื่อนที่เร็ว โดนตัดไป 1,005 ล้านบาท เหลือ 0 บาท (ย้ำว่าศูนย์บาท)

ยังไม่รวมงบโครงการพื้นฐานในการลอกท่อลอกคลองที่โดนตัดไป 7,144 ล้านบาท เหลือ 521 ล้านบาท ในขณะที่งบสร้างอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาทที่ไม่ทีการเบิกจ่ายเลยกลับไม่โดนตัดซักบาท

นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ข้อมูลจากRocket Media Lab บอกว่าการลอกท่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ถึง พฤษภาคม 2564 ทำได้เพียง 7.51% จากความยาวท่อทั้งหมดในกรุงเทพ แล้วจะไม่ให้น้ำท่วมขังได้ยังไง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องจัดสรรงบใหม่และเร่งรัดการลอกท่อลอกคลองทั่วกรุงเทพก่อนฤดูฝนให้ได้

นายวิโรจน์ ระบุด้วยว่า ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง จบปัญหาน้ำรอระบาย ปัญหาน้ำท่วมแก้ได้ ไม่ต้องใช้เมกะโปรเจค เพียงแค่ดูแลระบบระบายน้ำทั่วกรุงเทพให้ใช้งานได้จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา กรุงเทพ จัดสรรงบประมาณในสัดส่วนที่ไม่เอื้อต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมเท่าใดนัก โดยงบขุดลอกคูคลอง บำรุงรักษาสถานีสูบน้ำ ที่จะสามารถช่วยบรรเทาน้ำท่วมได้ในวันนี้กลับได้รับงบน้อยจนไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน ส่วนอุโมงค์ยักษ์ที่ยังไม่สามารถใช้การได้ในเร็ววันนี้กลับได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนมาก

ในส่วนการขุดลอกคูคลองที่หากทำได้ดีก็จะสามารถช่วยระบายน้ำได้มากก็มีปัญหาการทุจริต เนื่องจากกรุงเทพ ประเคนงานให้กับเอกชนเพียงไม่กี่ราย เมื่อมีผู้รับเหมาน้อยรายสุดท้ายก็ไม่สามารถขุดลอกคูคลองได้ทัน มากไปกว่านั้นเอกชนที่มาประมูลงานจำนวนมากก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินงานให้แล้วเสร็จด้วยตนเอง แต่เข้ามาประมูลงานเพื่อฟันหัวคิว แล้วไปจ้างช่วงให้บริษัทอื่นมาทำงานต่ออีกที

“กรุงเทพ จึงจำเป็นต้องเริ่มการประมูลหาผู้รับเหมาอย่างเป็นธรรม หยุดประเคนงานให้กับผู้รับเหมาเพียงไม่กี่ราย รวมทั้งออกกฎระเบียบห้ามจ้างช่วง หากเอกชนรายใดไม่มีศักยภาพที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วง ก็ห้ามประมูลงานเพื่อไปจ้างช่วงฟันหัวคิว” นายวิโรจน์ ระบุ

นายวิโรจน์ ระบุทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้หากผู้ว่ากรุงเทพมหานครชื่อวิโรจน์ สิ่งที่เราจะทำคือ

เปลี่ยนงบอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท เป็นขยายท่อระบายน้ำ ขุดลอกท่อและคูคลอง เพื่อให้ “น้ำรอการระบาย” ระบายได้เร็วขึ้น เมื่อฝนตกน้ำไม่ท่วม
แยกระบบท่อน้ำฝน-ท่อน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพ
ตั้งศูนย์รวมการจัดการน้ำไว้ที่เดียว (Single Command) เพื่อให้ข้อมูลทันสถานการณ์ การตัดสินใจทำได้รวดเร็ว
หน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลอกท่อเมื่อฝนตกระดับวิกฤต
ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ โดยเพิ่มระบบสำรองไฟสถานีสูบน้ำที่ต้องใช้ automatic transfer เปลี่ยนเฟสไฟ และใช้ระบบ iot ควบคุมเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องรอไขกุญแจ
 
"ศุภชัย" เดินหน้า "ลุยทุกตรอก เข้าออกทุกซอย" ดูพื้นที่น้ำท่วมขัง 

ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 ประกาศขอเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ได้ เดินหน้า “ลุยทุกตรอก เข้าออกทุกซอย” ดูพื้นที่น้ำท่วมขัง ซอยถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด หลังฝนตกหนักทั้งคืน

ดร.ศุภชัยกล่าวว่าตนชูนโยบาย “ตั้งสถานีสูบน้ำย่อย” ถาวรหน้าปากซอย ปั๊มน้ำลง “ทางด่วนน้ำ” ถนนใหญ่ให้เร็วขึ้น โดยจะต้องทำการลอกท่อระบายน้ำที่มีเศษขยะ ใบไม้อุดตันออกก่อน ซึ่งกทม. ไม่ได้ลอกท่อตามซอยมานานหลายปีแล้ว เขาจะติดตั้งสถานีสูบน้ำย่อยถาวร ปากซอยพื้นที่ที่ต่ำกว่าถนน เพื่อปั๊มน้ำลงบ่อพัก ก่อนระบายน้ำสู่ท่อระบายน้ำถนนใหญ่ ที่รองรับได้มากกว่า ส่วนถนนใหญ่จะทำ “ทางด่วนน้ำ” โดยจะเร่งเปลี่ยนท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ขึ้น มีความลาดชันมากขึ้น เพื่อระบายน้ำลงสู่คลอง และน้ำจากคลองลงสู่อุโมงค์ยักษ์ และหรือแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรงได้เร็วขึ้น

ดร.ศุภชัยยังกล่าวอีกว่า เขาสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ เพราะมีความรู้ด้านเทคนิค เข้าใจปัญหาแต่ละพื้นที่น้ำท่วม และจะลงพื้นที่เตรียมการป้องกันน้ำท่วมทันทีใน 100 วันแรกของการทำงานเป็นผู้ว่าฯกทม.

 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง