"อนุพงษ์" เปิดประชุมสภา กทม.นัดแรกชื่นหมื่น รัฐบาลพร้อมหนุนทำงานตามอำนาจอย่างอิสระ ชี้รถไฟฟ้าสีเขียวให้เป็นหน้าที่สภา กทม. ตามโผ "วิรัตน์ มีนชัยนันท์" เพื่อไทย นั่ง ปธ.สภา กทม.

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 6 มิถุนายน ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย    กล่าวในการเป็นประธานเปิดการประชุมสภา กทม.ครั้งแรกว่า ขอแสดงความยินดีกับท่านสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทุกท่าน ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติ ขอให้ทุกท่านปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่สมาชิก สภากรุงเทพมหานคร โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและคำนึงถึงประชาชน เป็นศูนย์กลาง อันจะทำให้การบริการสาธารณะของกรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานคร 

หลังจากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า การพูดคุยในวันนี้เป็นเรื่องกว้างๆ ของการทำงาน ผู้ว่าฯกทม.บอกว่ามีเจตนาที่จะทำให้พี่น้องประชาชน อย่างเต็มที่ ตนก็ได้เรียนท่านว่ากระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกอย่าง และไม่มีปัญหาในการทำงาน  บรรยากาศการประชุมก็ดี เพราะนายชัชชาติทำงานมานาน เลือกมาทำงาน ไม่ใช่ไม่ทำ จึงได้มีการประชุมสภา กทม.ตามลำดับ

เมื่อถามอีกว่า พล.อ.อนุพงษ์เป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาลกับองค์การปกครองท้องถิ่น (อปท.) จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะอันดับแรกต้องเข้าใจว่า กทม.เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นโดยกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ด้วยตนเอง มีแผนพัฒนา และมีข้อบัญญัติของตนเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปขอความเห็นชอบจากใคร

"ผมไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการทำงานของนายชัชชาติและ กทม.เป็นการปกครองท้องถิ่นที่เป็นอิสระ เพราะฉะนั้นไม่มีรอยต่อ ไม่เกี่ยวกัน นายชัชชาติสามารถทำตามอำนาจหน้าที่ แต่หากต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ผมก็จะสนับสนุนเต็มที่" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว มองว่าเรื่องนี้จะมีการถกกับ กทม.อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม.ที่ดำเนินการ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา กทม.มีปัญหามานานแล้ว และยังหาแนวทางแก้ไขไม่ได้ ต้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการช่วยหาทางแก้ไข คสช.ก็หาแนวทางให้ ซึ่งการแก้ไข รวมถึงการเจรจากำลังรอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่ามีผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ สภา กทม.จะมีการทำหนังสือว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามอีกว่า หลายคนคาดหวังว่าพอมีกระบวนการแบบนี้ จะทำให้ กทม.พัฒนาไปมาก-น้อยขนาดไหน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ดีแน่นอน เพราะเรามีผู้ว่าฯชัชชาติ ท่านเป็นคนมีความตั้งใจในการทำงาน ก็จะเห็นว่าท่านออกไปทำงานเยอะแล้วในทุกๆ เรื่อง มันก็ต้องออกมาดีแน่นอน

ต่อข้อถามอีกว่า กระแสของนายชัชชาติมาแรง ทำให้เกิดโดมิโนไปถึงจังหวัดอื่นที่อยากเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ขอไม่วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้ เพราะประเด็นต่างกัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่าง กทม.มีหน้าที่บริการสาธารณะ แต่ในพื้นที่อื่นๆ ไม่ใช่หน้าที่นั้น โดยหน้าที่ผู้ว่าฯจะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับอำนาจส่วนกลางลงไปในพื้นที่ ยึดโยงกับพื้นที่คนละอำนาจกัน

ตามโผ "วิรัตน์ มีนชัยนันท์" เพื่อไทย นั่ง ปธ.สภา กทม.

จากนั้นเลขานุการสภากทม. ได้เชิญนายไสว โชติกะสุภา ส.ก.เขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งมีอายุสูงสุดทำหน้าที่ประธานชั่วคราว กล่าวนำสมาชิกปฏิญาณตน โดยที่ประชุมได้เสนอรายชื่อ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภา กทม. นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภา กทม. คนที่ 1 นายอำนาจ ปานเผือก ส.ก.เขตบางแค เป็นรองประธานสภา กทม. คนที่ 2 
 
จากนั้นที่ประชุมได้กำหนดจำนวนสมัยประชุมสามัญ จำนวน 4 สมัย โดยเริ่มสมัยประชุมสามัญ ประจำปี 2566 โดยสมัยที่ 1 เริ่มวันที่ 1-30 ม.ค. สมัยที่ 2 เริ่มวันที่ 1-30 เม.ย. สมัยที่ 3 เริ่มวันที่ 1-30 ก.ค. และ สมัยที่ 4 เริ่มวันที่ 1-30 ต.ค.66 โดยการประชุมดังกล่าวจะประชุมทุกวันพุธ ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป ส่วนปี 2565 จะเริ่มประชุมสภากทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 เริ่มวันที่ 1-30 ก.ค.65 และ สมัยที่ 4 เริ่มวันที่ 1-30 ต.ค.65

ขณะเดียวกัน ตั้งคณะกรรมการตรวจรายงานการประชุม จำนวน 9 คน นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการแต่งตั้ง น.ส.นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย เป็นโฆษกสภา กทม. และรองโฆษกสภา กทม. จำนวน 3 คน ได้แก่ นายนริสสร แสงแก้ว ส.ก.เขตบางเขน กลุ่มรักษ์กรุงเทพ น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.บางซื่อ พรรคก้าวไกล นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์

 “วิโรจน์” นำทีม ส.ก.ก้าวไกล ประชุมสภา กทม.นัดแรก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ได้นำทีมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคก้าวไกล ทั้งหมด 14 คน เดินทางเพื่อเข้าร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) ครั้งที่ 1 พร้อมกล่าวว่า พร้อมตรวจสอบงบประมาณของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และในเรื่องของสัญญาเกี่ยวกับโรงกำจัดขยะที่เขตอ่อนนุช ซึ่งทั้งหมดเป็น 12 นโยบายที่พรรคก้าวไกลมุ่งผลักดันในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา โดยจะยกระดับสภากรุงเทพมหานคร ให้เหมือนกับสภาผู้แทนราษฎร  

ส่วน น.ส.ภัทราภรณ์ ในฐานะโฆษกคณะทำงาน กล่าวว่า คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล จะเสนอแก้ไขข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 9 ข้อ อาทิ การตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต, การถ่ายทอดสดในการประชุมของสภากรุงเทพมหานคร เพื่อความโปร่งใสเเละการมีส่วนร่วมของประชาชน, การแก้ไขข้อบัญญัติเกี่ยวกับที่ดินที่รกร้าง, การจัดเก็บภาษีป้ายอิเลกทรอนิกส์ โดยเน้นที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่มีการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษี เพื่อให้มีความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการรายย่อยและเพื่อให้กรุงเทพมหานครจัดเก็บรายได้ในส่วนนี้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย, การจัดสรรงบประมาณใหม่ การจัดการขยะ การระบายน้ำ, การกระจายงบประมาณให้ประชาชนมีส่วนร่วม, การพิจารณางบผูกพันที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้า, การพิจารณาบรรจุครูพี่เลี้ยงพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก, การเปิดเผยร่างสัญญาเเละบันทึกการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการแก้ไขการบำบัดกลิ่นของโรงกำจัดขยะอ่อนนุช เพื่อที่จะผลักดันแก้ไขข้อบัญญัติเสนอต่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.เพื่อขับเคลื่อนเเละยกระดับสภากรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพ