กมธ.อุตสาหกรรมสภาฯ “ถกเครียด” กฎหมาย “แพล้นปูน” ตั้งในเมืองได้หรือไม่?  ด้านประธาน กมธ. “รับเรื่อง ปชช. ร้องทุกข์” โรงานรีไซเคิลโลหะลพบุรี

วันพฤหัสที่ 11 สิงหาคม 2565 ที่ห้อง CA310 อาคารรัฐสภาเกียกกาย นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าทาง กมธ. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในกรณีข้อกฎหมายกรณีการร้องเรียนเพื่อขอตั้ง “แพล้นปูน หรือ Concrete Batching Plant" ในเขตเมือง ซึ่งเดิมได้มีการพิจารณาการตั้งหน่วยงานคอนกรีตผสมเสร็จกับหน่วยงานแอสฟัสต์ติคคอนกรีตสำหรับหน่วยงานก่อสร้าง เสมือนการอนุญาตให้เพียงชั่วคราวด้วยเหตุจำเป็นว่าหน่วยงานดังกล่าวจะต้องส่งต่อผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนด จึงออกเป็นหนังสือรับรองเท่านั้นโดยมีระยะเวลาการรับรองเพียง 4 ปี ปัจจุบันการประกอบกิจการดังกล่าว ได้มีการกำหนดในประเภทโรงงานลำดับที่ 58 (1) กับ โรงงานลำดับที่ 50 (4) ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ผู้ได้รับการรับรองฯบางราย มีหนังสือหมดอายุการรับรองในสิ้นปี พ.ศ.2565 นี้ 

แม้ว่าจะกำหนดเป็นประเภทโรงงาน ในกฎกระทรวงตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้วก็ตาม แต่พบว่าการขออนุญาตเพื่อประกอบกิจการโรงงานจะต้องเป็นไปตามที่ผังเมืองของท้องที่นั้นๆ กำหนดขณะเดียวกันการประกอบกิจการโรงงานดังกล่าวจำเป็นต้องตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งใกล้ๆ กับโครงการก่อสร้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ในแหล่งชุมชน จึงขัดกับหลักกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองในปัจจุบันที่ได้กำหนดการตั้งโรงงานในพื้นที่อุตสาหกรรม (พื้นที่สีม่วง) เท่านั้น ดังนั้น จึงส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างโครงการของภาครัฐในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการก่อสร้างระบบการขนส่ง การต่อขยายเส้นทางระบบรถไฟฟ้า เส้นทางการจราจรทางบก ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทั้งสองกิจการ หากจะต้องไปตั้งในเขตพื้นที่ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ก็จะเป็นพื้นที่ห่างไกลจากโครงการ ทำให้ส่งผลต่อการส่งสินค้าที่อาจไม่ได้คุณภาพ และไม่ทันตามกำหนด อันเนื่องจากสาเหตุของการจราจรภายในเมือง อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขนส่งอีกด้วย นอกจากนี้ หากมีการตั้งโรงงานในเขตพื้นที่เมืองก็จะสอดคล้องกับการดำเนินงานของภาครัฐที่ได้อนุญาตให้มีการก่อสร้างโครงการต่างๆ นั่นเอง

นายวรสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ลำดับการยื่นหนังสือไปมาระหว่างหน่วยงานตั้งแต่ 30 ต.ค. 2563 ประกาศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่อง ยกเลิกประกาศที่เกี่ยวกับหน่วยงานคอนกรีตผสมเสร็จในหน่วยงานก่อสร้างและหน่วยงานผลิตแอสฟิลต์ติคคอนกรีตสำหรับหน่วยก่อสร้าง จากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับแจ้งประเด็นปัญหาต่อกรณีดังกล่าวเรื่อยมาจากทั้งผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ และเมื่อ 25 พ.ค. 2564 กระทรวงอุตสาหกรรม มีหนังสือถึง กระทรวงมหาดไทย ขอความอนุเคราะห์ผ่อนปรนข้อบังคับตามกฎหมายว่าด้วยผังเมืองต่อจากนั้นวันที่ 8 ก.พ. 2565 กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือถึง กระทรวงอุตสาหกรรม ขอทราบแนวทางและมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 กระทรวงอุตสาหกรรม มีหนังสือตอบกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แนวทางการพิจารณาการประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานในเขตผังเมืองตามกฎหมายว่าด้วยผังเมืองรวม และขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง

นายวรสิทธิ์ กล่าวโดยสรุปว่า อย่างไรก็ตามความเดือดร้อนดังกล่าวทั้งฝั่งของประชาชนและผู้ประกอบการ จะนำเรื่องเพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาจุดที่เหมาะสม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม และการประกอบกิจการด้านอุตสาหกรรมให้มั่งคั่ง ต้องสามารถเดินคู่กันอย่างเหมาะสมต่อไป

ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม สภาฯ “รับเรื่อง ปชช. ร้องทุกข์” โรงานรีไซเคิลโลหะลพบุรี

พร้อมกันนี้ที่รัฐสภาเกียกกาย นายวรสิทธิ์  เปิดเผยว่าวันนี้ทางคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม ได้มีการร้องเรียนเรื่องขอให้ยับยั้งการก่อสร้างโรงงานรีไซเคิลโลหะพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยตัวแทนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้มายืนหนังสือด้วยตัวเอง และมีข้อสงสัยและเป็นห่วงมลภาวะผลกระทบต่อพื้นที่ในเรื่องโรงงานรีไซเคิลโลหะของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่จะมาสร้างในพื้นที่ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเกรงว่าจะสร้างมลภาวะให้กับชาวบ้าน ทั้งแหล่งน้ำ และอากาศ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้น และการทำประชาคมในหมู่บ้านได้มีผู้เข้าร่วมเพียง 57 ราย การทำประชาคมดังกล่าวนั้นได้ทำประชาคมถูกเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ามีโรงงานรีไซเคิลโลหะจะมาสร้าง เมื่อประชาชนทราบข่าวจึงมีความวิตกไม่สบายใจเกรงว่าจะมีผลกระทบในอนาคตประชาชนตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี จึงได้ร่วมกันลงลายมือชื่อและยื่นหนังสือ ให้ทาง กมธ. พิจารณาและยับยั้งการก่อสร้างโรงงานรีไซเคิลโลหะ

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า จากการหารือในที่ประชุมจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ ซึ่งอาจจะเป็นการลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลในข้อเท็จจริง ตามอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและกรอบอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการต่อไป